วันนี้ (15 เม.ย.2566) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีประชาชนโหวตให้เป็นอันดับ

วันนี้ (24 ก.ค.2567) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง แถลงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ และช่วยบรรเทาภาระค

วันนี้ (15 เม.ย.2566) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีประชาชนโหวตให้เป็นอันดับ 1 คนที่จะเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้ง 2566 จากผลโพลของสำนักข่าวมติชนที่ร่วมกับสำนักข่าวเดลินิวส์ ซึ่งสำรวจกลุ่มตัวอย่างผ่านช่องทางออนไลน์จำนวน 84,076 ราย กระจายทุกภูมิภาค ทุกระดับอายุ อาชีพ การศึกษา และรายได้ และเป็นการโหวตแบบไม่ซ้ำไอพีแอดเดรส (IP Address) ระหว่างวันที่ 8-14 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา นายพิธากล่าวว่า ต้องขอขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ คะแนนจากโพลนี้สอดคล้องกับสิ่งที่เราสัมผัสได้ในทุกจังหวัดที่เดินทางไป และสอดคล้องกับตัวเลขในทางออนไลน์ ที่ประชาชนแสดงออกว่าสนับสนุนพรรคก้าวไกลมากขึ้น ยิ่งกว่าสมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่ในปี 2562 อย่างเห็นได้ชัด ทั้งอยากเห็นตนเป็นนายกฯ อยากได้ ส.ส. เขตแบบก้าวไกลมาทำงานรับใช้ประชาชน และในภาพใหญ่ คืออยากให้คนบริหารประเทศเป็นคนแบบก้าวไกล เสียงสนับสนุนที่เราได้รับ สะท้อนให้เห็นว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เราพิสูจน์การทำงานให้ประชาชนเห็นแล้วว่า ส.ส. พรรคก้าวไกล ทำงานได้โดดเด่นและแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่เคยมีมาอย่างไร จนได้รับคำชมว่า ก้าวไกลทำงานตรงไปตรงมา ทำงานคุ้มค่า และมุ่งแก้ปัญหาที่ต้นตอ หัวหน้าพรรคก้าวไกลทิ้งท้ายว่า ในช่วง 30 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง พวกเราพรรคก้าวไกลต้องทำงานให้หนักมากขึ้น ทั้งเปิดเวทีปราศรัยทั่วประเทศ ทั้งสื่อสารทางออนไลน์และผ่านสื่อมวลชน ทั้งเดินเคาะประตูบ้าน เพื่อเข้าหาพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะในการเลือกตั้งครถ่ายทอด ฟุตบอล พรีเมียร์ั้งนี้ ชัยชนะของพรรคก้าวไกลจะเป็นปัจจัยชี้ขาดโฉมหน้าของรัฐบาลชุดต่อไป ว่าจะน่าไว้วางใจแค่ไหน และจะมีพรรคทหารจำแลงร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ อ่านข่าวอื่นๆ : กกต. กำหนดสีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส.ส.เขต "สีม่วง" - บัญชีรายชื่อ "สีเขียว" กกต.ประกาศตัดสิทธิ 1 แคนดิเดตนายกฯ ชี้ให้ร้องศาลใน 7 วันหากไม่เห็นด้วย

เริ่มจากการรวมวาระที่เหมือนกันเข้าด้วยกัน หารือแบบบูรณาการร่วมกัน และลงมือปฏิบัติจริงร่วมกัน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในอดีต การประชุมครม.ก็ว่ากันไป การประชุมผู้บริหารและสภากทม.ก็ว่ากันไป ตามคนต่างทำ ต่