บีโอไอ เผยผลศึกษาโอกาสนักลงทุนไทยในอาเซียน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเตรียมปรับสิทธิประโยชน์

เพื่อน คนในวงการบันเทิง รวมถึงแฟนเพลง ของนักร้องเสียงดี จั๊ก-ชวิน จิตรสมบูรณ์ ร่วมกันให้กำลังใจอย่างล้นหลาม หลังเจ้าตัวออกมาประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Chawin Chitsomboon ถึงอาการป่วยในวันนี้ (5 ก.ย.2566

บีโอไอ เผยผลศึกษาโอกาสนักลงทุนไทยในอาเซียน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเตรียมปรับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง พร้อมแนะนำนักลงทุนไทยเข้าลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียนภายใต้กรอบเออีซี โดยเฉพาะกิจการภาคบริการ และการเกษตร บีโอไอ เผยผลศึกษาโอกาสนักลงทุนไทยในอาเซียน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสรเติม เงิน เล่น สล็อติมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยผลการศึกษาลู่ทางลงทุนไทยภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในอุตสาหกรรม 5 สาขา คือ เกษตรกรรม, สิ่งทอ, ยานยนต์, ท่องเที่ยว และก่อสร้าง พบว่า ธุรกิจที่นักลงทุนไทยมีโอกาสไปลงทุนในประเทศสิงคโปร์ คือ ร้านอาหาร, สปา, รีสอร์ท เนื่องจากเป็นประเทศที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก ขณะที่ธุรกิจอาหารฮาลาล และท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ยังเป็นที่ต้องการในประเทศมาเลเซีย ส่วนอินโดนีเซีย ควรลงทุนกิจการประมงน้ำลึก เนื่องจากเป็นประเทศที่ขาดความชำนาญ และไม่นิยมบริโภคอาหารทะเล จึงเป็นโอกาสให้นักลงทุนไทยเข้ารับสัมปทานจับสัตว์น้ำ เพื่อแปรรูปได้  และฟิลิปปินส์ เหมาะที่จะลงทุนธุรกิจแปรรูปผลไม้ ธุรกิจชิ้นส่วนอะไหล่ ตกแต่งรถยนต์ ขณะที่สำนักเลขาธิการอาเซียน รายงานการลงทุนโดยตรงระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียนปีที่ผ่านมา มีมูลค่า 75,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ 37,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นสถิติสูงสุดจากการลงทุนภายในกลุ่มนี้ และคิดเป็นสัดส่วนการลงทุนของโลก ร้อยละ 10 ขณะที่ภาวะลงทุนของกลุ่มอาเซียนในไทย 8 เดือนแรกปีนี้ผ่านบีโอไอ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นการลงทุนจากสิงคโปร์ 47 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 รองลงมาเป็นของมาเลซีย 19 โครงการ มูลค่า 3,700 ล้านบาทหรือเพิ่มร้อยละ 16   ทั้งนี้ บีโอไอ อยู่ระหว่างปรับทิศทางนโยบายส่งเสริมการลงทุน หลังกระทรวงการคลังเสนอให้มีการทบทวนสิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนต่างชาติ เบื้องต้นจะมุ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง แต่จะลดสิทธิประโยชน์อุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบในประเทศและใช้แรงงานเป็นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยผลการศึกษาลู่ทางลงทุนไทยภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในอุตสาหกรรม 5 สาขา คือ เกษตรกรรม, สิ่งทอ, ยานยนต์, ท่องเที่ยว และก่อสร้าง พบว่า ธุรกิจที่นักลงทุนไทยมีโอกาสไปลงทุนในประเทศสิงคโปร์ คือ ร้านอาหาร, สปา, รีสอร์ท เนื่องจากเป็นประเทศที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก ขณะที่ธุรกิจอาหารฮาลาล และท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ยังเป็นที่ต้องการในประเทศมาเลเซีย ส่วนอินโดนีเซีย ควรลงทุนกิจการประมงน้ำลึก เนื่องจากเป็นประเทศที่ขาดความชำนาญ และไม่นิยมบริโภคอาหารทะเล จึงเป็นโอกาสให้นักลงทุนไทยเข้ารับสัมปทานจับสัตว์น้ำ เพื่อแปรรูปได้  และฟิลิปปินส์ เหมาะที่จะลงทุนธุรกิจแปรรูปผลไม้ ธุรกิจชิ้นส่วนอะไหล่ ตกแต่งรถยนต์ ขณะที่สำนักเลขาธิการอาเซียน รายงานการลงทุนโดยตรงระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียนปีที่ผ่านมา มีมูลค่า 75,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ 37,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นสถิติสูงสุดจากการลงทุนภายในกลุ่มนี้ และคิดเป็นสัดส่วนการลงทุนของโลก ร้อยละ 10 ขณะที่ภาวะลงทุนของกลุ่มอาเซียนในไทย 8 เดือนแรกปีนี้ผ่านบีโอไอ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นการลงทุนจากสิงคโปร์ 47 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 รองลงมาเป็นของมาเลซีย 19 โครงการ มูลค่า 3,700 ล้านบาทหรือเพิ่มร้อยละ 16 ทั้งนี้ บีโอไอ อยู่ระหว่างปรับทิศทางนโยบายส่งเสริมการลงทุน หลังกระทรวงการคลังเสนอให้มีการทบทวนสิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนต่างชาติ เบื้องต้นจะมุ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง แต่จะลดสิทธิประโยชน์อุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบในประเทศและใช้แรงงานเป็นพื้นฐาน

วันนี้ (27 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนติดตามเส้นทางหลบหนีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ได้พิสูจน์ทราบว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ขับรถยนต์ยี่ห้อ มินิ คูเปอร์ สีน้ำตาล ออกจากกรุงเทพมหานคร โดยใช้เส้น