วันนี้ (4 พ.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ รมว.คลัง

ช่วงค่ำวานนี้ (17 มิ.ย.2565) เวลา 22.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็
หลังการต่อสู้ทางคดีมานานกว่า 2 ปี วันนี้ (9 พ.ค.2565) ศาลจังหวัดสงขลาได้อ่านคำสั่งไต่สวนการตายออนไลน์ ในคดีของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ที่หมดสติหลังจากถูกควบคุมตัวในค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เมื่อปี
วันนี้ ( 20 พ.ค.2568) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานสถาบันเอฟเคไอไอ และอดีตกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีของสภาผู้แทนราษฎรโพสต์เฟซบุ๊ก “วิเคราะห์ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 : งบประมาณในภาวะผันผวน“ โดยชี้ว่าเป็นงบประมาณที่มีเปอร์เซ็นของงบประจำลดลงเล็กน้อย 1% ซึ่งอย่างน้อยก็เป็นแนวโน้มที่ดี แต่งบลงทุนลดลงมากกว่าคือ 7.3 % ในขณะที่งบชำระคืนเงินกู้เพิ่มขึ้น0.7% เป็นการชำระดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น และยังไม่ปรากฏว่า แนวทางว่าจะเริ่มจัดทำงบประมาณสมดุลอย่างไร และเมื่อใด ซึ่งต้องรอฟังคำแถลงนโยบายงบประมาณของนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง นายอลงกรณ์ ได้วิเคราะห์ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 : งบประมาณในภาวะผันผวน“ โดยระบุว่า โครงสร้างของงบประมาณปี 2569 ในด้านงบประจำ งบลงทุน งบชำระหนี้เงินกู้ กับการเตรียมงบประมาณรับมือนโยบาย “ทรัมป์ 2.0”และปัจจัยเสี่ยงโดยมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะประกอบการพิจารณา คือ หากดูไทม์ไลน์ของกระบวนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 มีกำหนดที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี 20 พ.ค 2568 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการของสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 1 วันที่ 28–30 พ.ค. 2568 และวาระที่ 2-3 วันที่ 13–15 ส.ค. 68 ตามกำหนดการที่ยืนยันในขณะนี้ โดยประเด็นสำคัญของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ประกอบด้วย 1.โครงสร้างและวงเงินงบประมาณวงเงินรวม 3.78 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27,900 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 1.1รายจ่ายประจำ 2.65 ล้านล้านบาท (ลดลง 1%) 1.2รายจ่ายลงทุน 864,077 ล้านบาท (ลดลง 7.3%) 1.3รายจ่ายชำระคืนเงินกู้ 151,200 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 0.7%) 1.4งบขาดดุล 860,000 ล้านบาท นายอลงกรณ์ ระบุว่า ภายใต้โครงสร้างงบประมาณดังกล่าว มีข้อสังเกตที่ควรไตร่ตรอง ไม่ว่าจะเป็น การลดรายจ่ายลงทุนอาจกระทบโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และพลังงาน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤต ,การเพิ่มวงเงินชำระหนี้สะท้อนภาระหนี้สาธารณะที่สูงขึ้นซึ่งต้องจับตาการบริหารจัดการเพื่อไม่ให้กระทบความมั่นคงทางการคลังระยะยาว ,การเตรียมงบประมาณรับมือวิกฤต เศรษฐกิจจากผลกระทบของนโยบาย “ทรัมป์ 2.0” ทั้งจากกรณีสหรัฐขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทย 36% ส่งผลให้ภาคส่งออกและอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบหนัก โดยคาดว่า GDP จะปรับลดเหลือ 2.1% หรือต่ำกว่า 2.0% ทั้งนี้ขึ้นกับผลการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐฯในเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะใช้กลไกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณปี2569ของสภาฯ ปรับโอนงบประมาณจากรายการไม่จำเป็นเข้างบกลาง 25,000 ล้านบาท เพื่อรับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามการไม่ปรับแก้ในชั้น ครม. อาจทำให้ขาดรายละเอียดแผนรองรับที่ชัดเจน เช่น การจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐ และอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่างบกลางที่เพิ่มขึ้น25,000 ล้านบาทจะเป็นการ "ตีเช็คเปล่า“ไม่มีแผนและรายละเอียดในการตรวจสอบโดยรัฐสภาระหว่างการพิจารณางบประมาณซึ่งรัฐบาลและสำนักงบประมาณควรสร้างความชัดเจนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นายอลงกรณ์ ยังได้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 เป็นงบประมาณขาดดุลต่อเนื่อง มุ่งเน้นการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจระยะสั้นผ่านการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐเป็นงบประมาณในภาวะผันผวนซึ่งมีข้อสังเกsa350 ค่า สิ โนตและข้อเสนอแนะ คือ 1.งบกลาง การจัดสรรงบกลางเพื่อรับมือวิกฤตยังคลุมเครือสามารถแก้ไขได้โดยเพิ่มความโปร่งใสด้วยการเปิดเผยข้อมูลงบประมาณแบบ Real-time ผ่านแพลตฟอร์ม Open Data 2. งบประจำรายจ่ายงบประจำลดลงแม้เพียง1%ก็ถือเป็นสัญญาณบวกควรดำเนินการต่อในปีงบประมาณถัดไปอย่างต่อเนื่อง 3.งบลงทุนการลดลงของงบลงทุนอาจกระทบการเติบโตระยะยาว 4.งบประมาณที่ไม่คุ้มค่าควรชะลอไว้ก่อนได้แก่โครงการลงทุนที่ไม่เร่งด่วน เช่น โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ยังไม่จำเป็นต้องดำเนินการทันทีหรือไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจเพื่อรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวก่อน และโครงการที่ยังไม่มีแผนรองรับการใช้งานอย่างชัดเจน หรือโครงการที่ใช้งบประมาณสูงแต่มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจต่ำ 5.หนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องปี 2564 มีสัดส่วน62.44% ของ GDP และปี 2569 จะเพิ่มใกล้แตะเพดาน 70 % ของ GDP ทั้งนี้หนี้สาธารณะรวมเมื่อถึงปี 2569 คาดว่าจะสูงถึง 13.6 ล้านล้านบาท เป็นภาระหนักของประเทศเสมือนโคลนติดล้อ 6.ความเสี่ยงของประเทศความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกเช่น ภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิอาการเปลี่ยนแปลง และภูมิเศรษฐศาสตร์ เช่นสงครามการค้า ความผันผวนทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยนผันแปรเร็วและแรงมากขึ้นอาจทำให้รายได้ประเทศจากภาษีและการพาณิชย์ลดลงและกดดันให้ต้องกู้หนี้สาธารณะเพิ่มจึงควรเตรียมงบประมาณให้พร้อมสำหรับการรับมือและปรับตัว 7.ความยั่งยืนของงบประมาณและการคลัง ซึ่งควรมีแนวทางการจัดทำงบประมาณแบบสมดุลในคำแถลงนโยบายงบประมาณต่อสภาฯ ,ตัดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและไม่คุ้มค่า ,ปรับลดงบประจำและเพิ่มงบลงทุน ,ควรเริ่มเตรียมแผนการการปฏิรูประบบงบประมาณแบบใหม่โดยจัดทำงบประมาณฐานศูนย์(Zero based budgeting)ถ้ามีความพร้อมควรเริ่มในปีงบประมาณ 2570 อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลสามารถบริหารงบประมาณในภาวะผันผวนด้วยความโปร่งใส ใช้เทคโนโลยีและเพิ่มการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่าภาษีของประชาชนมากขึ้น”อดีตกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯกล่าว อ่านข่าว: "อนุทิน" ปัดเกี่ยวปม "ฮั้วเลือก สว." เชื่อเป็นเรื่องการเมือง "อนุดิษฐ์-ธรรมนัส-งูเห่าส้ม" เพื่อไทย "หัก" ภูมิใจไทย ลุยไฟ กาสิโน
วันนี้ (16 พ.ค.2568) จากเหตุการณ์อาคาร สตง. ถล่ม ญาติของผู้เจ็บและผู้เสียชีวิตเดินทางมารับเงินช่วยเห
วันนี้ (6 ธ.ค.2566) ตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจยึดยาบ้า 10 ล้านเม
วันนี้ ( 20 พ.ค.2568) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานส
วันนี้ ( 20 พ.ค.2568) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานสถาบันเอฟเคไอไอ และอดีตกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีของสภาผู้แทนราษฎรโพสต์เฟซบุ๊ก “วิเคราะห์ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 : งบประมาณในภาวะผันผวน“ โดยชี้ว่าเป็นงบประมาณที่มีเปอร์เซ็นของงบประจำลดลงเล็กน้อย 1% ซึ่งอย่างน้อยก็เป็นแนวโน้มที่ดี แต่งบลงทุนลดลงมากกว่าคือ 7.3 % ในขณะที่งบชำระคืนเงินกู้เพิ่มขึ้น0.7% เป็นการชำระดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น และยังไม่ปรากฏว่า แนวทางว่าจะเริ่มจัดทำงบประมาณสมดุลอย่างไร และเมื่อใด ซึ่งต้องรอฟังคำแถลงนโยบายงบประมาณของนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง นายอลงกรณ์ ได้วิเคราะห์ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 : งบประมาณในภาวะผันผวน“ โดยระบุว่า โครงสร้างของงบประมาณปี 2569 ในด้านงบประจำ งบลงทุน งบชำระหนี้เงินกู้ กับการเตรียมงบประมาณรับมือนโยบาย “ทรัมป์ 2.0”และปัจจัยเสี่ยงโดยมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะประกอบการพิจารณา คือ หากดูไทม์ไลน์ของกระบวนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 มีกำหนดที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี 20 พ.ค 2568 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการของสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 1 วันที่ 28–30 พ.ค. 2568 และวาระที่ 2-3 วันที่ 13–15 ส.ค. 68 ตามกำหนดการที่ยืนยันในขณะนี้ โดยประเด็นสำคัญของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ประกอบด้วย 1.โครงสร้างและวงเงินงบประมาณวงเงินรวม 3.78 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27,900 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 1.1รายจ่ายประจำ 2.65 ล้านล้านบาท (ลดลง 1%) 1.2รายจ่ายลงทุน 864,077 ล้านบาท (ลดลง 7.3%) 1.3รายจ่ายชำระคืนเงินกู้ 151,200 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 0.7%) 1.4งบขาดดุล 860,000 ล้านบาท นายอลงกรณ์ ระบุว่า ภายใต้โครงสร้างงบประมาณดังกล่าว มีข้อสังเกตที่ควรไตร่ตรอง ไม่ว่าจะเป็น การลดรายจ่ายลงทุนอาจกระทบโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และพลังงาน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤต ,การเพิ่มวงเงินชำระหนี้สะท้อนภาระหนี้สาธารณะที่สูงขึ้นซึ่งต้องจับตาการบริหารจัดการเพื่อไม่ให้กระทบความมั่นคงทางการคลังระยะยาว ,การเตรียมงบประมาณรับมือวิกฤต เศรษฐกิจจากผลกระทบของนโยบาย “ทรัมป์ 2.0” ทั้งจากกรณีสหรัฐขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทย 36% ส่งผลให้ภาคส่งออกและอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบหนัก โดยคาดว่า GDP จะปรับลดเหลือ 2.1% หรือต่ำกว่า 2.0% ทั้งนี้ขึ้นกับผลการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐฯในเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะใช้กลไกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณปี2569ของสภาฯ ปรับโอนงบประมาณจากรายการไม่จำเป็นเข้างบกลาง 25,000 ล้านบาท เพื่อรับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามการไม่ปรับแก้ในชั้น ครม. อาจทำให้ขาดรายละเอียดแผนรองรับที่ชัดเจน เช่น การจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐ และอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่างบกลางที่เพิ่มขึ้น25,000 ล้านบาทจะเป็นการ "ตีเช็คเปล่า“ไม่มีแผนและรายละเอียดในการตรวจสอบโดยรัฐสภาระหว่างการพิจารณางบประมาณซึ่งรัฐบาลและสำนักงบประมาณควรสร้างความชัดเจนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นายอลงกรณ์ ยังได้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 เป็นงบประมาณขาดดุลต่อเนื่อง มุ่งเน้นการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจระยะสั้นผ่านการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐเป็นงบประมาณในภาวะผันผวนซึ่งมีข้อสังเกsa350 ค่า สิ โนตและข้อเสนอแนะ คือ 1.งบกลาง การจัดสรรงบกลางเพื่อรับมือวิกฤตยังคลุมเครือสามารถแก้ไขได้โดยเพิ่มความโปร่งใสด้วยการเปิดเผยข้อมูลงบประมาณแบบ Real-time ผ่านแพลตฟอร์ม Open Data 2. งบประจำรายจ่ายงบประจำลดลงแม้เพียง1%ก็ถือเป็นสัญญาณบวกควรดำเนินการต่อในปีงบประมาณถัดไปอย่างต่อเนื่อง 3.งบลงทุนการลดลงของงบลงทุนอาจกระทบการเติบโตระยะยาว 4.งบประมาณที่ไม่คุ้มค่าควรชะลอไว้ก่อนได้แก่โครงการลงทุนที่ไม่เร่งด่วน เช่น โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ยังไม่จำเป็นต้องดำเนินการทันทีหรือไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจเพื่อรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวก่อน และโครงการที่ยังไม่มีแผนรองรับการใช้งานอย่างชัดเจน หรือโครงการที่ใช้งบประมาณสูงแต่มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจต่ำ 5.หนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องปี 2564 มีสัดส่วน62.44% ของ GDP และปี 2569 จะเพิ่มใกล้แตะเพดาน 70 % ของ GDP ทั้งนี้หนี้สาธารณะรวมเมื่อถึงปี 2569 คาดว่าจะสูงถึง 13.6 ล้านล้านบาท เป็นภาระหนักของประเทศเสมือนโคลนติดล้อ 6.ความเสี่ยงของประเทศความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกเช่น ภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิอาการเปลี่ยนแปลง และภูมิเศรษฐศาสตร์ เช่นสงครามการค้า ความผันผวนทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยนผันแปรเร็วและแรงมากขึ้นอาจทำให้รายได้ประเทศจากภาษีและการพาณิชย์ลดลงและกดดันให้ต้องกู้หนี้สาธารณะเพิ่มจึงควรเตรียมงบประมาณให้พร้อมสำหรับการรับมือและปรับตัว 7.ความยั่งยืนของงบประมาณและการคลัง ซึ่งควรมีแนวทางการจัดทำงบประมาณแบบสมดุลในคำแถลงนโยบายงบประมาณต่อสภาฯ ,ตัดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและไม่คุ้มค่า ,ปรับลดงบประจำและเพิ่มงบลงทุน ,ควรเริ่มเตรียมแผนการการปฏิรูประบบงบประมาณแบบใหม่โดยจัดทำงบประมาณฐานศูนย์(Zero based budgeting)ถ้ามีความพร้อมควรเริ่มในปีงบประมาณ 2570 อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลสามารถบริหารงบประมาณในภาวะผันผวนด้วยความโปร่งใส ใช้เทคโนโลยีและเพิ่มการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่าภาษีของประชาชนมากขึ้น”อดีตกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯกล่าว อ่านข่าว: "อนุทิน" ปัดเกี่ยวปม "ฮั้วเลือก สว." เชื่อเป็นเรื่องการเมือง "อนุดิษฐ์-ธรรมนัส-งูเห่าส้ม" เพื่อไทย "หัก" ภูมิใจไทย ลุยไฟ กาสิโน
กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Paphawarin Simlakorn หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลดอนมนต์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โพสต์ข้อความเ