Home
|
บอล ฟุตบอล

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป จะมีโปรแกรมการแข่งขันห

บอล ฟุตบอล

วันนี้ (14 เม.ย.2566) กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) จับกุม น.ส.พรณภา อายุ 33 ปี ที่หอพัก ซ.สุขศิริ ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และจากการตรวจค้นห้องพัก พบสมุดบันท

วันนี้ (20 มิ.ย.2565) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ.ระบุถึงการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.ได้กล่าวย้ำในที่ประชุมถึงกรณีที่กองทัพบกได้มีมาตรการห้ามหน

ภาวะ Intersex เป็นความผิดปกติของการพัฒนาอวัยวะเพศ หรือ อวัยวะเพศมีกายภาพที่แตกต่างจากปกติ จนไม่สามารถระบุเพศชัดเจนในขณะแรกเกิดได้ เด็กที่เกิดมาจะมีอวัยวะสืบพันธุ์ของทั้ง 2 เพศ ที่ไม่ได้เจริญเต็มที่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงปริมาณฮอร์โมนเพศที่สร้าง และโครโมโซมเพศที่ไม่ตรงตามลักษณะกายภาพภายนอก แต่ความกำกวมทางเพศเหล่านี้ จะเริ่มปรากฏความชัดเจนเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ เช่น เริ่มเห็นสรีระ สัดส่วนแบบผู้หญิงชัดขึ้น ในรายที่ถูกระบุโดยแพทย์ว่าเป็นผู้ชายมาตั้งแต่กำเนิด หรือบางรายอาจแสดงลักษณะทางเพศชายแม้ว่าถูกระบุเป็นเพศหญิงมาก่อน ในด้านกีฬา ปัจจุบันยังไม่มีการยอมรับอย่างเป็นทางการ เรื่องการกำหนดเพศของนักกีฬาที่มี 2 เพศให้เข้าร่วมการแข่งขัน แต่เป็นที่แน่ชัดว่านักกีฬาเพศกำกวมในการแข่งขันกีฬา มักเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างเป็นวงกว้าง ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบให้ตัวคู่แข่ง แต่ยังย้อนมากระทบตัวของพวกเขาเอง การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1932 ถือเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาเพศกำกวมเข้าแข่งขันและได้รับเหรียญรางวัลด้วย โดยนักกีฬาโอลิมปิกเพศกำกวมส่วนใหญ่จะลงแข่งขันกรีฑา เวลาต่อมา "โอลิมปิก" ได้พยายามควบคุมการส่งนักกีฬาเพศกำกวมเข้าร่วม เช่น กรณีของนักกีฬาชาวเช็ก Zdeněk Koubek ที่เติบโตมาในฐานะเด็กผู้หญิงต่อมาเปลี่ยนเป็นผู้ชาย ทำให้ทางโอลิมปิกกังวลถึงศักยภาพของนักกีฬาดังกล่าวที่จะถูกใช้ประโยชน์เพื่อประโยชน์ของประเทศในสนามโอลิมปิก ทำให้ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกของสหรัฐอเมริกา Avery Brundage ได้กดดันคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ให้อนุญาตให้มีการตรวจร่างกายนักกีฬาทุกคนที่ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับเพศ ในปี 1968 นักกีฬาหญิงทั้งหมดในโอลิมปิกต้องผ่านการยืนยันเพศตามกระบวนการโดยใช้วิธีตรวจโครโมโซม ในปี 1996 IOC ยกเลิกการทดสอบเพศ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักกีฬาที่ยังไม่ทราบว่าตนเองมีภาวะเพศกำกวม แต่จะทดสอบต่อเมื่อมี "ข้อสงสัยที่ร้ายแรง" ขึ้นมาเท่านั้น ปี 2012 IOC เปลี่ยนวิธีการตรวจยืนยันเพศ โดยใช้ปริมาณฮอร์โมนเพศชายเป็นตัววัด ซึ่งวิธีการนี้ได้รับเสียงครหาถึงความไม่น่าเชื่อถือและเลือกปฏิบัติ แต่ก็ยังคงปฏิบัติกันอยู่ ตั้งแต่ปี 2018 สหพันธ์กรีฑาโลกได้กำหนดให้นักกีฬาที่มีเพศกำกวมต้องรับประทานยาหรือเข้ารับการผ่าตัดจึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งเป็นการตัดโอกาสนักกีฬาหลายคนไปโดยปริยาย แต่ในอีกมุมหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และกีฬาระดับนานาชาติหลายคน สนับสนุนให้ยกเลิกการตรวจยืนยันเพศในกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอลิมปิก เพราะพวกเขาเชื่อว่าเป็นเครื่องมือของการเลือกปฏิบัติ และการเหยียดเชื้อชาติ ลดทอนความเป็นมนุษย์ 1. สตานิสลาวา วาลาซีวิซ (หรือที่รู้จักในชื่อ สเตลลา วอลช์) นักวิ่ง-ขว้างจักรจากโปแลนด์ ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1932 เธอคว้าเหรียญทองในการวิ่ง 100 เมตร เธอถูกนักข่าวหนังสือพิมพ์โปแลนด์กล่าวหาว่าเป็นผู้ชายและถูกบังคับให้เข้ารับการตรวจอวัยวะเพศ ซึ่งยืนยันว่าเธอเป็นผู้หญิง แต่หลังจากการเสียชีวิตในปี 1980 ศพของเธอถูกชันสูตรและพบว่า "เธอเป็นอินเตอร์เซ็กซ์" เธอมีระบบสืบพันธุ์ของผู้ชาย แต่องคชาตไม่ทำงานและท่อปัสสาวะที่ไม่พัฒนา อัณฑะเล็ก ต่อมลูกหมากเล็ก เธอไม่มีอวัยวะเพศหญิง ไม่มีช่องคลอด มดลูก หรือรังไข่ รายงานระบุว่าวอลช์ยังมีภาวะผิดปกติทางพันธุกรรม เซลล์ส่วนใหญ่ของเธอมีโครโมโซม XY แต่บางส่วนมีโครโมโซม X0 2. ไฮน์ริช ราทเยน นักกรีฑากระโดดสูงเยอรมนี ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1936 เขาถูกแพทย์-พยาบาลผดุงครรภ์บอกว่าเป็นเด็กผู้ชายเมื่อแรกเกิด แต่อีก 5 นาทีต่อมาก็บอกว่าเป็นเด็กผู้หญิง ครอบครัวของราทเยนเลี้ยงดูเขาแบบเด็กผู้หญิงมาตลอด แต่เมื่ออายุ 10 ขวบ เขาเริ่มรู้ตัวว่าเขาเป็นเด็กผู้ชาย แต่ไม่มีใครสนใจ ทุกคนยังเห็นเขาเป็นเด็กผู้หญิงมาตลอด เมื่อโตขึ้นเขาได้รับการตรวจจากแพทย์และพบว่า เขาเป็นบุคคลเพศกำกวม เขาไม่มีอวัยวะเพศชายและไม่มีของเพศหญิงเช่นกัน เขาสามารถคว้าเหรียญทองกระโดดสูงในโอลิมปิกมาได้ ภายหลังเขาเปิดเผยว่าเป็นแผนการลับของนาซีและ "อะดอล์ฟ ฮิตเลอร์" ให้สวมรอยเป็นผู้หญิงเพื่อนำความรุ่งโรจน์ทางกีฬามาสู่เยอรมนีในขณะนั้น 3. เอวา โคลบูคอฟสกา นักกรีฑาโปแลนด์ ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1964 ผู้คว้าเหรียญทองและทองแดงในการแข่งขันวิ่งผลัด 4x100 เมตร และวิ่ง 100 เมตร ตามลำดับ เธอได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่เร็วที่สุดในโลก แต่ในเวลาต่อมา สถิติของเธอถูกยกเลิกโดยสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) หลังจากการทดสอบเพศในปี 1967 ระบุว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิง เพราะพบโครโมโซม Y ในเซลล์บางส่วน และพบโครโมโซม X บางส่วนที่ไม่ทำงาน แต่ในเวลาต่อมาผลการทดสอบถูกระบุว่า "ข้อมูลไม่เพียงพอ" ความเสียหายในชื่อเสียงของเอวา ทำให้เธอเกิดความอับอาย จน IOC ต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายการยืนยันเพศนักกีฬา และเก็บผลการทดสอบไว้เป็นความลับ 4. เอดินันซี ซิลวา นักยูโดบราซิล ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1996, 2000, 2004 และ 2008 ซิลวาเกิดมาเป็นอินเตอร์เซ็กซ์ แต่เข้ารับการผ่าตัดในช่วงทศวรรษ 1990 เพื่อให้สามารถแข่งขันกีฬาสตรีได้ก่อนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก เขาเข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกถึง 4 ครั้ง 5. เอริกา โคอิมบรา นักวอลเลย์บอลบราซิล ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2000, 2004 โคอิมบราเกิดมามีภาวะอินเตอร์เซ็กซ์ และเข้ารับการผ่าตัด เขาต้องผ่านการทดสอบทางเพศก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้แข่งขัน 6. ราเชล นาชูลา นักกรีฑาและนักฟุตบอลแซมเบีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008, 2024 นาชูลาเป็นนักกีฬารายแรก ๆ ที่ถูกตรวจเพศด้วยวิธีเทสต์ฮอร์โมน และพบว่าระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติสูงกว่าที่สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกัน (CAF) ยอมรับ ทำให้เขาถูกแบนจากการแข่งขัน 7. ฟรานซีน นิยอนซาบา นักกรีฑาบุรุนดี ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012, 2016, 2020 หลังคว้าเหรียญเงินในโอลิมปิกแล้ว ปี 2019 เธอถูกประกาศห้ามลงแข่งขันกีฬาวิ่งหญิงเนื่องจากสหพันธ์กรีฑาโลกตรวจพบว่าเธอเป็นอินเตอร์เซ็กซ์ ที่มีโครโมโซม XY และระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูง 8. แคสเตอร์ เซเมนยา นักกรีฑาแอฟริกาใต้ ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012, 2016 คว้า 2 เหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกทั้ง 2 ครั้ง เมื่อแรกเกิด เซเมนยา ถูกกำหนดให้เป็นเพศหญิงแม้เกิดมาพร้อมกับความเป็นอินเตอร์เซ็กซ์ ที่ขาดเอนไซม์ 5α-Reductase 2 (5-ARD) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ส่งผลต่อมนุษย์ที่มีโครโมโซม XY เท่านั้น ทำให้ร่างกายไม่สามารถพัฒนาความเป็นชายได้อย่างสมบูรณ์ อวัยวะเพศภายนอก ดูคลุมเครือหรืออาจเห็นเป็นเพศหญิงตั้งแต่แรกเกิด เซเมนยา เล่าว่าเขาเกิดมาพร้อมกับช่องคลอดและอัณฑะภายในที่ไม่ลงถุง แต่เขาไม่มีมดลูกหรือท่อนำไข่และไม่มีประจำเดือน อัณฑะภายในของเขาผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติ ในระดับปกติของผู้ชาย ในปี 2019 เธอถูกบังคับให้ใช้ยาลงระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หากต้องการลงแข่งขัน ซึ่งเขาปฏิเสธและฟ้องร้อง โดยกล่าวว่าเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม 9. ดูตี จันด์ นักกรีฑาอินเดีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2016, 2020 ในปี 2014 สหพันธ์กรีฑาอินเดียระบุว่าภาวะฮอร์โมนเพศชายสูงทำให้เธอไม่มีสิทธิ์ลงแข่งขันในฐานะนักกีฬาหญิง ต่อมาเขายื่นอุทธรณ์ต่ออนุญาโตตุลาการกีฬาจนได้รับคำตัดสินว่า ไม่มีหลักฐานมากพอที่ทำให้เชื่อว่าการมีปริมาณเทสโทสเตอโรนที่สูงจะส่งผลให้ต่อประสิทธิภาพการเล่นกีฬาของผู้หญิง ทำให้จันด์สามารถกลับเข้าสู่วงการกีฬาได้ 10. มาร์กาเร็ต วัมบูย นักกรีฑาเคนยา ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 วัมบุยมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูง เขาปฏิเสธที่จะใช้ยาเพื่อลดระดับฮอร์โมน จึงถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันในปี 2020 11. บาร์บารา บันดา นักฟุตบอลแซมเบีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020, 2024 12. ราเชล กุนดานันจิ นักฟุตบอลแซมเบีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020, 2024 ทั้ง 2 ถูกแบนจากการแข่งขันในแอฟริกาเนื่องจากระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติสูงกว่าที่สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟบอล ฟุตบอลริกัน (CAF) ยอมรับ ต่อมาพวกเขายอมกินยาลดระดับฮอร์โมน ทำให้ได้กลับมาปรากฏตัวในปี 2024 13. เบียทริซ มาซิลิงกิ นักกรีฑานามิเบีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 14. คริสติน มโบมา นักกรีฑานามิเบีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ทั้ง 2 ถูกแบนจากสหพันธ์กรีฑาโลกเนื่องจากเป็น Intersex มีโคมโมโซม XY และมีระดับฮอร์โมรเทสโทสเตอโรนที่สูงเกินค่ามาตรฐาน 15. อามินาตู เซย์นี นักกรีฑาไนเจอร์ ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ถูกสั่งห้ามลงแข่งขันวิาง 800 และ 400 เมตร จากสหพันธ์กรีฑาโลกเนื่องจากมีระดับฮอร์โมรเทสโทสเตอโรนที่สูงเกินค่ามาตรฐาน แต่เธอสามารถลงแข่งวิ่ง 200 เมตรในโอลิมปิก 2020 ได้ 16. เปโดร สปาจารี นักว่ายน้ำบราซิล ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 หลังจากทำลายสถิติการแข่งขันชิงแชมป์โลก FINA รุ่นจูเนียร์ ประเภทฟรีสไตล์ 100 เมตรในปี 2015 สปาจารีได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไคลน์เฟลเตอร์ซึ่งเป็นภาวะโครโมโซม XXY ที่ส่งผลทำให้เขามีปัญหา ทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกายลดลงจนส่งผลเสียต่อร่างกาย สปาจารีต้องเข้ารับการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทนเพื่อให้สามารถลงแข่งขันกีฬาได้ ส่วนนักกีฬาโอลิมปิก 2 คนล่าสุดในโอลิมปิก 2024 ที่เป็นประเด็นเรื่องเพศกำกวมคือ "หลิน หยู่ ถิง" กำปั้นชาวไต้หวัน รุ่น 57 กิโลกรัม และ "อิมาน เคลิฟ" กำปั้นชาวแอลจีเรีย รุ่น 66 กิโลกรัม ที่ต้องดวลหมัดลุ้นเข้ารอบชิงกับ กำปั้นสาวชาวไทย "จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง" ทั้ง ๆ ที่สมาคมมวยสากลนานาชาติ (IBA) เคยตัดสิทธิ์ เคลิฟ และ หยู่ ถิง จากการแข่งขันมวยสากลหญิงชิงแชมป์โลก ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อปี 2023 อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) อนุญาตให้ทั้งสอง สาว? เข้าชิงชัยในศึกโอลิมปิก 2024 ได้ นับถอยหลังคนไทยเตรียมส่งแรงใจเชียร์มวยหญิงคู่หยุดโลก จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง พบกับอิมาน เคลิฟ จากแอลจีเรีย ซึ่งจะดวลหมัดในเวลา 03.34 น.ตรงกับเช้ามืดวันที่ 7 ส.ค.นี้ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD ทั้งนี้จันทร์แจ่ม มีเหรียญทองแดงการันตีแล้ว หากชนะอิมาน เคลิฟ จะเข้าสู่รอบชิงเหรียญทองต่อไป อ่านข่าวเพิ่ม : รู้จัก "จันทร์แจ่ม" กับเหรียญมวยประวัติศาสตร์ "โอลิมปิก 2024" เทพวิวลุ้นทอง! เอาชนะมืออันดับ 7 ของโลกโอลิมปิก 2024

วันนี้ (22 ต.ค.2567) พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ เจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาล

ปัจจุบันแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีจำนวนทั้งสิ้น 3,346,

ภาวะ Intersex เป็นความผิดปกติของการพัฒนาอวัยวะเพศ หรือ อวัยวะเพศมีกายภาพที่แตกต่างจากปกติ จนไม่สามาร

ภาวะ Intersex เป็นความผิดปกติของการพัฒนาอวัยวะเพศ หรือ อวัยวะเพศมีกายภาพที่แตกต่างจากปกติ จนไม่สามารถระบุเพศชัดเจนในขณะแรกเกิดได้ เด็กที่เกิดมาจะมีอวัยวะสืบพันธุ์ของทั้ง 2 เพศ ที่ไม่ได้เจริญเต็มที่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงปริมาณฮอร์โมนเพศที่สร้าง และโครโมโซมเพศที่ไม่ตรงตามลักษณะกายภาพภายนอก แต่ความกำกวมทางเพศเหล่านี้ จะเริ่มปรากฏความชัดเจนเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ เช่น เริ่มเห็นสรีระ สัดส่วนแบบผู้หญิงชัดขึ้น ในรายที่ถูกระบุโดยแพทย์ว่าเป็นผู้ชายมาตั้งแต่กำเนิด หรือบางรายอาจแสดงลักษณะทางเพศชายแม้ว่าถูกระบุเป็นเพศหญิงมาก่อน ในด้านกีฬา ปัจจุบันยังไม่มีการยอมรับอย่างเป็นทางการ เรื่องการกำหนดเพศของนักกีฬาที่มี 2 เพศให้เข้าร่วมการแข่งขัน แต่เป็นที่แน่ชัดว่านักกีฬาเพศกำกวมในการแข่งขันกีฬา มักเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างเป็นวงกว้าง ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบให้ตัวคู่แข่ง แต่ยังย้อนมากระทบตัวของพวกเขาเอง การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1932 ถือเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาเพศกำกวมเข้าแข่งขันและได้รับเหรียญรางวัลด้วย โดยนักกีฬาโอลิมปิกเพศกำกวมส่วนใหญ่จะลงแข่งขันกรีฑา เวลาต่อมา "โอลิมปิก" ได้พยายามควบคุมการส่งนักกีฬาเพศกำกวมเข้าร่วม เช่น กรณีของนักกีฬาชาวเช็ก Zdeněk Koubek ที่เติบโตมาในฐานะเด็กผู้หญิงต่อมาเปลี่ยนเป็นผู้ชาย ทำให้ทางโอลิมปิกกังวลถึงศักยภาพของนักกีฬาดังกล่าวที่จะถูกใช้ประโยชน์เพื่อประโยชน์ของประเทศในสนามโอลิมปิก ทำให้ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกของสหรัฐอเมริกา Avery Brundage ได้กดดันคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ให้อนุญาตให้มีการตรวจร่างกายนักกีฬาทุกคนที่ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับเพศ ในปี 1968 นักกีฬาหญิงทั้งหมดในโอลิมปิกต้องผ่านการยืนยันเพศตามกระบวนการโดยใช้วิธีตรวจโครโมโซม ในปี 1996 IOC ยกเลิกการทดสอบเพศ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักกีฬาที่ยังไม่ทราบว่าตนเองมีภาวะเพศกำกวม แต่จะทดสอบต่อเมื่อมี "ข้อสงสัยที่ร้ายแรง" ขึ้นมาเท่านั้น ปี 2012 IOC เปลี่ยนวิธีการตรวจยืนยันเพศ โดยใช้ปริมาณฮอร์โมนเพศชายเป็นตัววัด ซึ่งวิธีการนี้ได้รับเสียงครหาถึงความไม่น่าเชื่อถือและเลือกปฏิบัติ แต่ก็ยังคงปฏิบัติกันอยู่ ตั้งแต่ปี 2018 สหพันธ์กรีฑาโลกได้กำหนดให้นักกีฬาที่มีเพศกำกวมต้องรับประทานยาหรือเข้ารับการผ่าตัดจึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งเป็นการตัดโอกาสนักกีฬาหลายคนไปโดยปริยาย แต่ในอีกมุมหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และกีฬาระดับนานาชาติหลายคน สนับสนุนให้ยกเลิกการตรวจยืนยันเพศในกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอลิมปิก เพราะพวกเขาเชื่อว่าเป็นเครื่องมือของการเลือกปฏิบัติ และการเหยียดเชื้อชาติ ลดทอนความเป็นมนุษย์ 1. สตานิสลาวา วาลาซีวิซ (หรือที่รู้จักในชื่อ สเตลลา วอลช์) นักวิ่ง-ขว้างจักรจากโปแลนด์ ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1932 เธอคว้าเหรียญทองในการวิ่ง 100 เมตร เธอถูกนักข่าวหนังสือพิมพ์โปแลนด์กล่าวหาว่าเป็นผู้ชายและถูกบังคับให้เข้ารับการตรวจอวัยวะเพศ ซึ่งยืนยันว่าเธอเป็นผู้หญิง แต่หลังจากการเสียชีวิตในปี 1980 ศพของเธอถูกชันสูตรและพบว่า "เธอเป็นอินเตอร์เซ็กซ์" เธอมีระบบสืบพันธุ์ของผู้ชาย แต่องคชาตไม่ทำงานและท่อปัสสาวะที่ไม่พัฒนา อัณฑะเล็ก ต่อมลูกหมากเล็ก เธอไม่มีอวัยวะเพศหญิง ไม่มีช่องคลอด มดลูก หรือรังไข่ รายงานระบุว่าวอลช์ยังมีภาวะผิดปกติทางพันธุกรรม เซลล์ส่วนใหญ่ของเธอมีโครโมโซม XY แต่บางส่วนมีโครโมโซม X0 2. ไฮน์ริช ราทเยน นักกรีฑากระโดดสูงเยอรมนี ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1936 เขาถูกแพทย์-พยาบาลผดุงครรภ์บอกว่าเป็นเด็กผู้ชายเมื่อแรกเกิด แต่อีก 5 นาทีต่อมาก็บอกว่าเป็นเด็กผู้หญิง ครอบครัวของราทเยนเลี้ยงดูเขาแบบเด็กผู้หญิงมาตลอด แต่เมื่ออายุ 10 ขวบ เขาเริ่มรู้ตัวว่าเขาเป็นเด็กผู้ชาย แต่ไม่มีใครสนใจ ทุกคนยังเห็นเขาเป็นเด็กผู้หญิงมาตลอด เมื่อโตขึ้นเขาได้รับการตรวจจากแพทย์และพบว่า เขาเป็นบุคคลเพศกำกวม เขาไม่มีอวัยวะเพศชายและไม่มีของเพศหญิงเช่นกัน เขาสามารถคว้าเหรียญทองกระโดดสูงในโอลิมปิกมาได้ ภายหลังเขาเปิดเผยว่าเป็นแผนการลับของนาซีและ "อะดอล์ฟ ฮิตเลอร์" ให้สวมรอยเป็นผู้หญิงเพื่อนำความรุ่งโรจน์ทางกีฬามาสู่เยอรมนีในขณะนั้น 3. เอวา โคลบูคอฟสกา นักกรีฑาโปแลนด์ ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1964 ผู้คว้าเหรียญทองและทองแดงในการแข่งขันวิ่งผลัด 4x100 เมตร และวิ่ง 100 เมตร ตามลำดับ เธอได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่เร็วที่สุดในโลก แต่ในเวลาต่อมา สถิติของเธอถูกยกเลิกโดยสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) หลังจากการทดสอบเพศในปี 1967 ระบุว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิง เพราะพบโครโมโซม Y ในเซลล์บางส่วน และพบโครโมโซม X บางส่วนที่ไม่ทำงาน แต่ในเวลาต่อมาผลการทดสอบถูกระบุว่า "ข้อมูลไม่เพียงพอ" ความเสียหายในชื่อเสียงของเอวา ทำให้เธอเกิดความอับอาย จน IOC ต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายการยืนยันเพศนักกีฬา และเก็บผลการทดสอบไว้เป็นความลับ 4. เอดินันซี ซิลวา นักยูโดบราซิล ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1996, 2000, 2004 และ 2008 ซิลวาเกิดมาเป็นอินเตอร์เซ็กซ์ แต่เข้ารับการผ่าตัดในช่วงทศวรรษ 1990 เพื่อให้สามารถแข่งขันกีฬาสตรีได้ก่อนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก เขาเข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกถึง 4 ครั้ง 5. เอริกา โคอิมบรา นักวอลเลย์บอลบราซิล ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2000, 2004 โคอิมบราเกิดมามีภาวะอินเตอร์เซ็กซ์ และเข้ารับการผ่าตัด เขาต้องผ่านการทดสอบทางเพศก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้แข่งขัน 6. ราเชล นาชูลา นักกรีฑาและนักฟุตบอลแซมเบีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008, 2024 นาชูลาเป็นนักกีฬารายแรก ๆ ที่ถูกตรวจเพศด้วยวิธีเทสต์ฮอร์โมน และพบว่าระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติสูงกว่าที่สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกัน (CAF) ยอมรับ ทำให้เขาถูกแบนจากการแข่งขัน 7. ฟรานซีน นิยอนซาบา นักกรีฑาบุรุนดี ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012, 2016, 2020 หลังคว้าเหรียญเงินในโอลิมปิกแล้ว ปี 2019 เธอถูกประกาศห้ามลงแข่งขันกีฬาวิ่งหญิงเนื่องจากสหพันธ์กรีฑาโลกตรวจพบว่าเธอเป็นอินเตอร์เซ็กซ์ ที่มีโครโมโซม XY และระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูง 8. แคสเตอร์ เซเมนยา นักกรีฑาแอฟริกาใต้ ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012, 2016 คว้า 2 เหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกทั้ง 2 ครั้ง เมื่อแรกเกิด เซเมนยา ถูกกำหนดให้เป็นเพศหญิงแม้เกิดมาพร้อมกับความเป็นอินเตอร์เซ็กซ์ ที่ขาดเอนไซม์ 5α-Reductase 2 (5-ARD) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ส่งผลต่อมนุษย์ที่มีโครโมโซม XY เท่านั้น ทำให้ร่างกายไม่สามารถพัฒนาความเป็นชายได้อย่างสมบูรณ์ อวัยวะเพศภายนอก ดูคลุมเครือหรืออาจเห็นเป็นเพศหญิงตั้งแต่แรกเกิด เซเมนยา เล่าว่าเขาเกิดมาพร้อมกับช่องคลอดและอัณฑะภายในที่ไม่ลงถุง แต่เขาไม่มีมดลูกหรือท่อนำไข่และไม่มีประจำเดือน อัณฑะภายในของเขาผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติ ในระดับปกติของผู้ชาย ในปี 2019 เธอถูกบังคับให้ใช้ยาลงระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หากต้องการลงแข่งขัน ซึ่งเขาปฏิเสธและฟ้องร้อง โดยกล่าวว่าเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม 9. ดูตี จันด์ นักกรีฑาอินเดีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2016, 2020 ในปี 2014 สหพันธ์กรีฑาอินเดียระบุว่าภาวะฮอร์โมนเพศชายสูงทำให้เธอไม่มีสิทธิ์ลงแข่งขันในฐานะนักกีฬาหญิง ต่อมาเขายื่นอุทธรณ์ต่ออนุญาโตตุลาการกีฬาจนได้รับคำตัดสินว่า ไม่มีหลักฐานมากพอที่ทำให้เชื่อว่าการมีปริมาณเทสโทสเตอโรนที่สูงจะส่งผลให้ต่อประสิทธิภาพการเล่นกีฬาของผู้หญิง ทำให้จันด์สามารถกลับเข้าสู่วงการกีฬาได้ 10. มาร์กาเร็ต วัมบูย นักกรีฑาเคนยา ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 วัมบุยมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูง เขาปฏิเสธที่จะใช้ยาเพื่อลดระดับฮอร์โมน จึงถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันในปี 2020 11. บาร์บารา บันดา นักฟุตบอลแซมเบีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020, 2024 12. ราเชล กุนดานันจิ นักฟุตบอลแซมเบีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020, 2024 ทั้ง 2 ถูกแบนจากการแข่งขันในแอฟริกาเนื่องจากระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติสูงกว่าที่สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟบอล ฟุตบอลริกัน (CAF) ยอมรับ ต่อมาพวกเขายอมกินยาลดระดับฮอร์โมน ทำให้ได้กลับมาปรากฏตัวในปี 2024 13. เบียทริซ มาซิลิงกิ นักกรีฑานามิเบีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 14. คริสติน มโบมา นักกรีฑานามิเบีย ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ทั้ง 2 ถูกแบนจากสหพันธ์กรีฑาโลกเนื่องจากเป็น Intersex มีโคมโมโซม XY และมีระดับฮอร์โมรเทสโทสเตอโรนที่สูงเกินค่ามาตรฐาน 15. อามินาตู เซย์นี นักกรีฑาไนเจอร์ ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ถูกสั่งห้ามลงแข่งขันวิาง 800 และ 400 เมตร จากสหพันธ์กรีฑาโลกเนื่องจากมีระดับฮอร์โมรเทสโทสเตอโรนที่สูงเกินค่ามาตรฐาน แต่เธอสามารถลงแข่งวิ่ง 200 เมตรในโอลิมปิก 2020 ได้ 16. เปโดร สปาจารี นักว่ายน้ำบราซิล ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 หลังจากทำลายสถิติการแข่งขันชิงแชมป์โลก FINA รุ่นจูเนียร์ ประเภทฟรีสไตล์ 100 เมตรในปี 2015 สปาจารีได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไคลน์เฟลเตอร์ซึ่งเป็นภาวะโครโมโซม XXY ที่ส่งผลทำให้เขามีปัญหา ทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกายลดลงจนส่งผลเสียต่อร่างกาย สปาจารีต้องเข้ารับการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทนเพื่อให้สามารถลงแข่งขันกีฬาได้ ส่วนนักกีฬาโอลิมปิก 2 คนล่าสุดในโอลิมปิก 2024 ที่เป็นประเด็นเรื่องเพศกำกวมคือ "หลิน หยู่ ถิง" กำปั้นชาวไต้หวัน รุ่น 57 กิโลกรัม และ "อิมาน เคลิฟ" กำปั้นชาวแอลจีเรีย รุ่น 66 กิโลกรัม ที่ต้องดวลหมัดลุ้นเข้ารอบชิงกับ กำปั้นสาวชาวไทย "จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง" ทั้ง ๆ ที่สมาคมมวยสากลนานาชาติ (IBA) เคยตัดสิทธิ์ เคลิฟ และ หยู่ ถิง จากการแข่งขันมวยสากลหญิงชิงแชมป์โลก ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อปี 2023 อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) อนุญาตให้ทั้งสอง สาว? เข้าชิงชัยในศึกโอลิมปิก 2024 ได้ นับถอยหลังคนไทยเตรียมส่งแรงใจเชียร์มวยหญิงคู่หยุดโลก จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง พบกับอิมาน เคลิฟ จากแอลจีเรีย ซึ่งจะดวลหมัดในเวลา 03.34 น.ตรงกับเช้ามืดวันที่ 7 ส.ค.นี้ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD ทั้งนี้จันทร์แจ่ม มีเหรียญทองแดงการันตีแล้ว หากชนะอิมาน เคลิฟ จะเข้าสู่รอบชิงเหรียญทองต่อไป อ่านข่าวเพิ่ม : รู้จัก "จันทร์แจ่ม" กับเหรียญมวยประวัติศาสตร์ "โอลิมปิก 2024" เทพวิวลุ้นทอง! เอาชนะมืออันดับ 7 ของโลกโอลิมปิก 2024

คุณแม่ชนสร ตั้งพานิชย์ เป็นคนหนึ่งที่เลือกซื้อชุดหนอนผีเสื้อให้ลูกชายวัย 7 ขวบ เพราะลูกชายอยากเลี้ยง