“ห้ามสูบกัญชา” ถนนคนเดินปาย เริ่มสัปดาห์หน้า

กรณีปรากฏข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับรถฝ่าฝืนเครื่องหมายบนพื้นทางและเฉี่ยวชนผู้เสียหายที่เดินข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย ถนนราชดำริ โดยหลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ

แหล่งรายได้หลักของเมียนมา ส่วนใหญ่มาจากการจัดเก็บภาษี และในส่วนของค่าใช้จ่ายของภาครัฐเอง ก็มีส่วนที่

วันนี้ (29 ธ.ค.2564) ผู้เสียหายคนหนึ่ง เข้าแจ้งความเอาผิดกับ น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ พิมรี่พาย พร้อมทนายความ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. นา

แหล่งรายได้หลักของเมียนมา ส่วนใหญ่มาจากการจัดเก็บภาษี และในส่วนของค่าใช้จ่ายของภาครัฐเอง ก็มีส่วนที่จะต้องใช้จ่ายหลายสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคการศึกษา สาธารณูปโภค เศรษฐกิจ การรักษาพยาบาล ซึ่งจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน ประกอบกับการไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งแน่นอนว่าเงินที่เป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อระหว่างประเทศเมียนมา สู่โลกภายนอกนั้นจะตกลงมาตามหลักเศรษฐศาสตร์ รศ.ดรบา คา.นิสิต พันธมิตร หัวหน้าศูนย์อาเซียนศึกษา และนักวิชาการเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เเสดงความคิดเห็นต่ออนาคตระบบเศรษฐกิจในประเทศเมียนมา ระบุว่า หากเร่งให้ประเทศเมียนมามีเสถียรภาพทางการเมืองเร็วขึ้นมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อภาพรวมของประเทศเมียนมาเอง เนื่องจากปัจจุบัน ประเทศเมียนมาต้องพบกับสถานการณ์เงินเฟ้อจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ และผลเสียที่ตามมาคือ ประเทศเมียนมาไม่สามารถผลิตสินค้า เพื่อตอบสถนองความต้องการในประเทศตัวเองได้ทั้งหมด จึงมักพึ่งการนำจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงประเทศต่าง ๆ เข้ามาเป็นส่วนมาก และเมื่อค่าเงินของประเทศเมียนมาไม่เป็นที่ยอมรับ เเละไม่สามารถที่จะใช้อัตราเเลกเปลี่ยนเงินที่เป็นเงินสกุลตัวเองได้ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ประเทศเมียนมาถึงต้องพบกับสถาการณ์ค่าเงินลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยตัวแปรที่สำคัญที่จะแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อภายในประเทศเมียนมาคือความมีเสถียรภาพทางการเมือง และความขัดเเย้งระหว่างกองกำลังติดอาวุธเเละรัฐบาลเมียนมาลดน้อยลง รศ.ดร.นิสิต พันธมิตร หัวหน้าศูนย์อาเซียนศึกษา และนักวิชาการเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รศ.ดร.นิสิต พันธมิตร หัวหน้าศูนย์อาเซียนศึกษา และนักวิชาการเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ความขัดแย้งภายในประเทศ : สงครามกลางเมืองและความไม่สงบทางชาติพันธุ์ที่ยืดเยื้อ ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน การผลิต และการค้า ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมหดตัวลงเป็นอย่างมาก การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ : เกิดจากการคว่ำบาตรจากนานาชาติเพื่อกดดันให้รัฐบาลยุติความรุนแรง พร้อมกับเเก้ไขปัญหายาเสพติดภายในประเทศที่มีความรุนเเรงเป็นอย่างมาก จึงทำให้การลงทุนและการค้าของเมียนมาถูกจำกัด ความไม่มั่นคงทางการเมือง : การเปลี่ยนแปลงอำนาจบ่อยครั้ง รวมถึงความไม่สงบในประเทศจากการสู้รบ ส่งผลต่อเชื่อมั่นจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ราคาสินค้าสูงขึ้น : ค่าเงินจ๊าดที่อ่อนค่าลง ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วยกำลังซื้อลดลง : ประชาชนมีกำลังซื้อลดลง เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น หนี้สินเพิ่มขึ้น : ผู้ที่กู้เงินต่างประเทศจะต้องแบกรับภาระหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากต้องนำเงินมาชำระหนี้ในจำนวนที่มากขึ้นการลงทุนลดลง: นักลงทุนต่างชาติมีความระมัดระวังในการลงทุนในเมียนมา เนื่องจากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมืองที่สูงขึ้น อนาคตของเศรษฐกิจเมียนมายังคงมีความไม่แน่นอนสูง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รศ.ดร.นิสิต พันธมิตร กล่าวเพิ่มว่า หากเมียนมาสามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศได้เร็ว พร้อมกับการสร้างเสถียรภาพทางการเมือง และมีการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ก็มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจของเมียนมาจะฟื้นตัวได้ในระยะยาว รายงาน:ทีมศูนย์ข่าวภาคเหนือ

วันนี้ (17 ก.พ.66) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ลงนามคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการหลายตำแหน่ง หนึ่งในนั้นคือนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุร