Home
|
สถิติ Ÿæ‹›ç”ฮั่ ง ¬ç§เส็ง

สถิติ ฮั่ ง เส็งวันน🧜‍♀️ี้ 🏆(24 ก.พ.2🍕567) นายสมหมาย พ่อข🎨องตะวั🏆น มายื่🐶นข

สถิติ Ÿæ‹›ç”ฮั่ ง ¬ç§เส็ง

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า คณะผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับสำนักงานอาหารและยาสหรัฐอเมริกา 21 คน ลงมติเป็นเอกฉันท์ แนะนำให้มีการรับรองวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ ในเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี และวัคซีนของโมเดอร์นาในกลุ่มอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี หลังจากผลการทดสอบวัคซีนในเด็กกลุ่มอายุดังกล่าว ชี้ว่าวัคซีนปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์อาวุโส ระบุว่า แม้จะพบว่าเด็กส่วนใหญ่ติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้ว แต่อัตราการเข้าโรงพยาบาลของทารกและเด็กเล็ก ในช่วงของการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน เมื่อฤดูหนาวที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูง และจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องฉีดวัคซีนให้กับเด็กในกลุ่มอายุนี้ ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกาพบเด็กอายุระหว่าง 0-4 ปี เสียชีวิตจากโควิด-19 มากถึง 480 คน และอีกประมาณ 45,000 คน ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งในจำนวนนี้เกือบ 1 ใน 4 มีอาการรุนแรงจนต้องเข้า ICU ขณะที่ 64% ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบที่เข้าโ🌌รงพยาบาล ไม่ได้มีโรคประจำตัวด้วย สำหรับการฉีดวัคซีนให้เด็กเล็ก วัคซีนไฟเซอร์จะฉีด 3 โดส โดสละ 3 ไมโครกรัม คือโดส 1 กับ 2 ห่างกัน 3 สัปดาห์ และโดส 3 ฉีดหลังจากนั้นอีก 8 สัปดาห์ ขณะที่วัคซีนโมเดอร์นาจะใช้ 2 โดส โดสละ 25 ไมโครกรัม ห่างกัน 4 สัปดาห์ ซึ่งอาการข้างเคียงจากการรับวัคซีนมีเล็กน้อย ไม่ต่างจากการทดสอบในกลุ่มเด็กที่อายุสูงกว่านี้ และสร้างแอนติบอดีในระดับพอๆ กัน หลังจากนี้ คาดว่าสำนักงานอาหารและยาสหรัฐอเมริกา อาจให้การรับรองวัคซีนในเร็วๆ นี้ ก่อนคณะที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (CDC) จะเปิดการหารือใน 2-3 วันนี้ เพื่อเปิดทางให้ CDC อนุมัติ🏉🤺⛹️‍♂️การฉีดวัคซีน ซึ่งรัฐบาลอเมริกันตั้งเป้าจะเริ่มฉีดให้เด็กในกลุ่มอายุดังกล่🎢าวเร็วที่สุดในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ จากข้อมูลพบว่า มีเด็กอเมริกันอายุต่ำกว่า 5 ปี ประมาณ 20 ล้านคน ขณะที่กลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี ซึ่งเริ่มโครงการฉีดวัคซีนโควิดตั้งแต่เดือน ต.ค.2564 ปรากฏว่าปัจจุบันมีเด็กที่ฉีดวัคซีนครบโดสเพียง 29% เท่านั้น ที่มา : AFP, AP, Reuters อ่า📺นข่าวอื่นๆ "ปักกิ่ง" พบคลัสเตอร์สถานบันเทิง ทางการเล🏀🎽ื่อนเปิดเทอ🍿มคุมโควิด WHO เตรียมประชุมฉุกเฉินพิจารณายกสถาสถิติ ฮั่ ง เส็งนะเตือนภัย "ฝีดาษลิง"