วันนี้ (27 ก.ย.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 335/2567 แต่

หลัง "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" นำญาติผู้เสียชีวิตของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ "เสื้อแดง" จำนวน 68 คน จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ปี 2553 ทั้งที่ ได้มีการไต่สวนในชั้นศาล และได้ข้อยุติไปแล้วในช่วงปี 2557 เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต. ยุทธนา 🏄‍♂️แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค.2567 ไม่เพียงสร้างความประหลาดใจให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงเท่านั้น แต่ยังทำให้อดีตผู้ร่วมชุมนุมและแกนนำคนเสื้อแดงยังตั้งกลุ่มวิพากษณ์ถึงการกระทำดังกล่าวว่า เป็นการกระทำที่หวังผลทางการเมือง โดยเฉพาะการเรียกคะแนนเสียงและความนิยมให้กลับคืนมา แม้ณัฐวุฒิ ในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลว่ากระบวนการยุติธรรมสำหรับคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมจะสิ้นสุดลงแล้วก็จริง แต่มีผู้ตกเป็นเหยื่อเพียง 31 คน เท่านั้นที่ศาลชี้ว่า เสียชีวิตจากอาวุธของเจ้าหน้าที่จำนวน 17 คน ส่วนอีก 14 คน ศาลระบุว่าไม่สามารถชี้ชัดว่าเสียชีวิตจากบุคคลกลุ่มใดหรือใครกระทำ ดังนั้น จึงเหลืออีก 68 คนที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วน ธงชัย พรเศรษฐ์ รองนายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ระบุว่า ผู้เสียชีวิต 68 คนมีการทำสำนวนคดี แต่ไม่ปรากฎว่า มีคำสั่งฟ้องจากศาลใด ๆ ส่วนการเยียวยาได้รับแล้วตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อน แต่คนเสื้อแดงต้องการให้คดีมีความคืบหน้าให้มากกว่านี้  และในฐานะทนายความคดีคนเสื้อแดง จึงอยากออกมาทวงความยุติธรรม และยืนยันว่า การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง🍐➕🤍 และอย่าจับมาโยงกัน ถึงการกระทำและคำพูดของ "ณัฐวุฒิ และ ธงชัย" จะระบุเช่นนั้น แต่การออกมาขยับโดยยื่นเรื่องขอให้ดีเอสไอตรวจสอบและรื้อคดีในรัฐบาลเพื่อไทย ไม่เพียงทำให้เกิดคำถามว่า มีนัยทางการเมืองแอบแฝงอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้หรือไม่ จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน วิเคราะห์ว่า ต้นสายปลายเหตุของการออกมายื่นดังกล่าว เกิดจากการที่พรรคเพื่อไทย "ผิดสัญญา" ต่อมวลชนเสื้อแดง ในประเด็น การแก้ไขกฎหมายให้ญาติผู้เสียชีวิต สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านการชี้มูลของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายใน 100 วัน "แรก ๆ ก็ยื่นแก้ไขกฎหมายให้ แต่อยู่ ๆ ก็ไปถอนร่างฯ เสียอย่างนั้น … คาดว่ามาจากการร่วมรัฐบาลข้ามขั้วแน่นอน … และ ณัฐวุฒิ ก็ไม่ได้อยากเสียมว✨ลชนเสื้อแดงไป จึงมาดำเนินการให้ในฐานะประชาชน โดยลืมไปว่า ขาอีกข้างนั้นเป็นที่ปรึกษานายกฯ … เป็นการไม่ทำตามสัญญา แต่ทำตามคำเรียกร้องของเสื้อแดง" จตุพร บอกว่า ประชาชนเป็นได้เพียงแค่ "หมากบนกระดาน" ที่พรรคเพื่อไทยและแกนนำใช้เป็น "เครื่องมือทางการเมือง" เท่านั้น เพราะหากพิจารณาตามตรงแล้ว พรรคเพื่อไทยมีทั้งอำนาจและคนของตนเอง หลังจากได้เป็นรัฐบาล จะไล่เช็คบิลหรือเอาคืนทบต้นทบดอกให้คนเสื้อแดงอย่างไรก็ได้ "สงครามสีเสื้อหมดไปตั้งแต่รัฐบาลข้ามขั้วเกิดขึ้น มวลชนโดนหลอกกันถ้วนหน้า เป็นได้เพียงเบี้ย ที่เขาจะใช้งานอย่างไรก็ได้ มีประโยชน์ก็เข้าหา หากหมดประโยชน์ก็ใช้แล้วทิ้งไม่แยแส … ครั้งนี้ที่ใช้งานเสื้อแดง คงเป็นความไม่ลงรอยบางอย่างในพรรคร่วม ซึ🔑่งผมก็ไม่ทราบรายละเอียด แต่ต้องมีอะไรบางอย่างแน่ ๆ" วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เตือนคนเสื้อแดงว่า ควรจะตาสว่างได้แล้ว เห็นๆ กันอยู่ว่า พรรคเพื่อไทยผิดสัญญาสารพัด การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ มีแต่เพียงประชาชนกันเองเท่านั้นที่รักในการเรียกร้องสิทธิ และประชาธิปไตย ทางด้าน วัชระ เพชรทอง บอกว่า 🌍การออกมาเรียกร้องความยุติธรรมของ ณัฐวุฒิ อดีตแกนนำคนเสื้อแดง และที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นการกระทำที่มีนัยทาง การเมืองอย่างเห็นได้ชัด แต่ทำตามคำสั่งของใคร ไม่ขอพูดถึง ส่วนจุดประสงค์ที่พอจะอนุมานได้ คือ ทำไปเพื่อ "กอบกู้คะแนนนิยมคนเสื้อแดง" ที่หายไปจากการจัดตั้งรัฐบาล "ผสมข้ามขั้ว" ให้กลับมาอีกครั้ง "ณัฐวุฒิ ต้องการคะแนนเสียงจากคนเสื้อแดงในภาคอีสานและภาคเหนืออย่างชัดเจน โดยเฉพาะในการเลือกตั้งอบจ.ทั่วประเทศ ที่จะกำลังจะมาถึงนี้ เพราะถือว่าเสียคะแนนไปมากพอสมควรจากการร่วมรัฐบาลกับพรรคข้ามขั้ว … ส่วนจะหวังผลในการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่ ตรงนี้ อยู่ที่ว่า คนเสื้อแดงจะคล้อยตามเขามากน้อยขนาดไหน ในการเมืองที่ถูกทรยศเช่นนี้" อดีต สส.ปชป. บอกว่า อย่างไรก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจับตาการเคลื่อน ไหวของ พ.ต.ต. ยุทธนา อธิบดีดีเอสไอ ให้ดี ๆ เนื่องจากได้รับความช่วยเหลือจาก พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่มีความใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทย "ผมเชื่อว่า อธิบดีดีเอสไอ ไม่มีทางที่จะเอนเอียง เพราะมีอุทาหรณ์จากการใช้อำนาจในทางมิชอบของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ในคดีนี้มาแล้ว ที่ต้องการเอาผิด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ให้ได้ แต่ศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก อดีตอธิบดีดีเอสไอว่า ใช้อำนาจรังแกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเ😜มือตรวจ หวย ย้อน หลัง ปี 63ง ปัจจุบันก็ยังติดคุกอยู่บทเรียนนี้ เชื่อได้ว่า พ.ต.ต. ยุทธนา ไม่มีทางกล้าทำอะไรเสี่ยง ๆ แน่นอน" วัชระ กล่าวว่า ส่วนประเด็นความขุ่นเคืองของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการที่คนของพรรคเพื่อไทยต้องการรื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมา ในฐานะอดีต สส. ของพรรค ขอสงวนท่าที ไม่อยากให้กระทบกับหลาย ๆ ฝ่าย แต่ก็แสดงความมั่นใจว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นพี่น้องเสื้อแดงเอง ที่จะเลือกไว้ใจหรือจะหมดความเชื่อมั่นต่ออดีตแกนนำผู้นี้ "ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อได้เลยว่า อธิบดีดีเอสไอ เห็นบทเรียนมาแล้ว ไม่มีความน่ากังวลแต่อย่างใด … ณัฐวุฒิ ทำตามสคริปต์ที่วางไว้ ทั้งนั้น เสื้อแดงจะถูกจูงจมูก หรือจะตาสว่าง อยู่ที่เลือกเอง … การออกมาเรียกร้องความยุติธรรม เป็นสิทธิของญาติพี่น้องผู้สูญเสีย ตรงนี้ ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้" วัชระ ตั้งข้อสังเกตทิ้งท้าย ขณะที่จตุพร ทิ้งท้ายว่า สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่อยากได้คะแนนเสียงของพี่น้องเสื้อแดงในการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือการเลือกตั้ง อบจ.ในเดือน ก.พ. หรือไม่ก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุด อยู่ที่ว่า เมื่อพูดอะไรไปแล้ว ทำตามที่พูดได้หรือไม่ รัฐบาลข้ามขั้วลักษณะนี้ มวลชนทั้งหลาย ไม่มีทางเลยที่จะอยากออกมาชุมนุม และสนับสนุนพรรคอีกต่อไป อ่านข่าว "ทักษิณ" ปราศรัย 29 ม.ค.แจก 1 หมื่นผู้สูงอายุ ไม่มีปัจจัยปรับ ครม. จับกระแสการเมือง : วันที่ 3 ม.ค.2568 “อนุทิน” ปลอบ ปชน.พื้นฐานดี อย่ากังวล “นายกฯ” อู้ฟู่รวย 1.38 หมื่นล้าน นิด้าโพล เผย ประชาชน 50.61% ชี้การเมืองวุ่นวายเหมือนเดิม “แพทองธาร”อยู่ยาว

วันนี้ (16 มี.ค.2566) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และทีมพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อตรวจสอบผลชันสูตรศพของ พ.ต.ท.กิตติกานต์ แ

หลัง "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" นำญาติผู้เสียชีวิตของกลุ่มแนวร่ว

นิยายชีวิต โดย : Intan Pratiwi
เรื่องและภาพโดย : Intan Pratiwi
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..