UID: 10777

วันนี้ (20 ต.ค.2564) เพจ รายการ “ เฮฮา ภาษาตุ๊ด” โพสต์ข้อความว่า "Rip พี่เบริ์ด พิธีกร รายการเฮฮาภาษ

วันที่ 11 ต.ค.2567 จากกรณีทนายษ🍀ิทรา เบี้ย🍉บัง🎁เกิด หรือ ทนายตั้ม พร🍉้อมนายแทนคุณ จิตต🥇์อ🍐🌈🎤ิสระ นำหลักฐานเข

วันที่ 11 ต.ค.2567 จากกรณีทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พร้อมนายแทนคุณ จิตต์อิสระ นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บริหาร หรือ บอส จำนวน 6 คน ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน , ความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ , และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน ทนายษิทรา อ้างว่า พฤติการณ์ของบริษัทดังกล่าวไม่ได้ส่งสินค้าให้กับผู้ที่ลงทุนจริง ส่วนบอสดาราอ้างว่าไม่มีส่วนในการบริหาร เป็นเพียงพรีเซนเตอร์ และบางคนก็อ้างว่าต้องรับตำแหน่งผู้บริหารมาเพราะคว🍊0️⃣ามเกรงใจนั้น ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะผู้เสียหายทั้🙌งหมดยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า หลงเชื่อเข้าร่วมลงทุนเพราะเชืjili ทดลอง เล่น่อมั่นในตัวดารา โ✡️🔷🈳🏧ดยทนายษิทรายังย้ำชัดว่า คดีนี้มีบอสติดคุกแน่นอนอย่างน้อย😂 4 คน ทนายตั้ม ยังได้แจ้งในไลน์กลุ่มข่าวทนายประชาชน พร้อมโพสต์ภาพใบเสร็จรับเงินจำนวน 263,090 บาท โดยระบุว่า "บอสพอล" ติดต่อขอคืนเงินให้ผู้เสียหาย ของผมทุกคนเลยครับ บางคนยอด 263,090 บางคนยอด 220,000 ที่ราคาไม่เท่ากัน เพราะไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศกับบริษัท อ่านข่าว : "กันต์ กันตถาวร" เตรียมแถลงเคลียร์ปมดิไอคอนกรุ๊ป ล่าสุดนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ซีอีโอ The iCon Group🎉 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอส พอล) ยืนยันว่าไม่ได้ติดต่อเพื่อขอเจรจา คืนเงินให้ผู้เสียหาย ไม่เป็นความจริง โดยชี้แจงว่า ไม่เคยรู้จักทนายตั้มและไม่เคยคิดที่จะติดต่อไป ส่วนที่อ้างว่าติดต่อคืนเงินผู้เสียหายที่พาไปแจ้งความทุกรายความจริงก็คือผมยังไม่รู้เลยครับว่าทนายตั้มนำผู้เสียหายท่านใดไปแจ้งความบ้างเพราะเค้าก็ไม่เคยโทรหาและผมก็ไม่เคยติดต่อไปเพราะผมมั่นใจว่า ผม และ บริษัทไม่ได้ทำอะไร ผิดกฎหมาย หรือทำผิดแปลกไปจากการขายออนไลน์อื่นๆ ที่มีอยู่มากม⚡ายในประเทศไทย อ่านข่าว : เปิดใจ "มิน-พีชญา" ปัดโยงธุรกิจดิไอคอน-รับค่าจ้างแค่พีอาร์ ต้นสังกัด "พีพี กฤษฏ์ " ชี้แจงปมมีภาพโฆษณาผลิตภัณฑ์ดิไอคอน

หลายประเทศในเอเชีย การพูดคุยเรื่องเพศยังคงเป็นเรื่องต้องห้ามและถูกมองว่า "น่าอาย" หรือ "ไม่เหมาะสม"