วันนี้ (23 ม.ค.2567) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยหลังประชุมพร้อมคณะ

วานนี้ (29 พ.ค.68) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม ในวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 นายชยพล สท้อนดี สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณกระทรวงกลาโหม โดยกล่าวว่า ทุกคนต่างต้องการเห็นกองทัพไทยทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับด้านขีดความสามารถ ประสิทธิภาพและความโปร่งใส เพื่อลบคำสบประมาทและชื่อเสียงที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาภัยความมั่นคงในปัจจุบัน ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ด้วยรถถังหรือลูกปืน อย่างที่ไทยประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ หากเลือกที่จะกั๊กงบ แล้วถมเงินในเรื่องการทหารอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะกลายเป็นค่าเสียโอกาสของประเทศ ที่ไม่สามารถใช้กรอบงบประมาณแก้ไขปัญหาด้านอื่นได้ นายชยพล กล่าวว่า งบประมาณกว่า 4,700 ล้านบาท ของกระทรวงกลาโหม ที่เพิ่มขึ้นจากงบประมาณปี 2568 ซึ่งงบประมาณครึ่งหนึ่ง ของกระทรวงกลาโหมอยู่ที่งบบุคลากร หากต้องการให้กองทัพมีประสิทธิภาพ โดยเน้นใช้คนน้อยและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการรบสมัยใหม่ แต่ยังไม่ได้มีภาพสะท้อนถึงเรื่องการลดกองทัพอย่างที่กล่าวถึง โดยสะท้อนว่า สิทธิประโยชน์ในโครงการเออร์รี่ รีไทร์ ไม่จูงใจจึงไม่สามารถลดจำนวนนายพลได้ตามเป้าทำให้เสียโอกาสในการประหยัดงบประมาณ ด้วยสิทธิการเออร์รี่ รีไทร์ในปี 2568 - 2560 ได้เงินก้อน 10 เท่าของเงินเดือนสุดท้าย ขณะที่สิทธิประโยชน์ในช่วงปี 2557 - 2561 ได้ 15 เท่า นอกจากนี้ ยังเสนอการจัดการกับอาวุธ 3 ขั้นตอนคือ 1.วางแผนให้ดี โดยคำนึงความจำเป็นทางภัยความมั่นคง 2. ซื้อให้พอ โดยจัดซื้อภายในประเทศและนำเข้าอย่างมียุทธศาสตร์ และ 3. ซ่อมให้ถึง โดยซ่อมให้ทนตามวงรอบอย่างเหมาะสม เช่น ความจำเป็นในการจัดหาเรือฟรีเกต หรือ การซ่อมเรืออย่างเหมาะสม สำหรับเรือหลวงภูมิพล ที🥥่ใช้งานยังไม่ถึง 10 ปีแต่ถูกใช้อย่างหนักขาดการซ่อมบำรุงตามวงรอบ จนเกิดเหตุเครื่องยนต์เสีย ระหว่างภารกิจที่ออสเตรเลีย และต้องเสียงบประมาณ 240 ล้านบาท เฉพาะค่าเครื่องยนต์ ซึ่งงบประมาณในการซ่อมบำรุงแต่ละเหล่าทัพ 3 ปีย้อนหลังพบว่า งบประมาณของกองทัพเรือลดลงอย่างต่อเนื่องแต่ปัญหาไม่เคยลด นายชยพล ยังหยิบยกเรื่องมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหม ที่ทำให้ผู้ประกอบการไทย ที่ทำเรื่องเกี่ยวกับปืนยาว ปืนเล็ก ชุดเกราะรถถัง รถยานเกาะ UAV อุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการเข้า🍩ถึงยากในการขายสินค้าให้กองทัพ และยังไม่นับเรื่องปัญหาความโปร่งใสของ TOR ซึ่งกองทัพไม่เคยชี้แจงว่า การซื้อยุทโธปกรณ์มีการซื้อสิ่งใดบ้าง โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง และจัดให้ข้อมูลอยู่ในชั้นความลับ นายชยพล ยังกล่าวว่า ที่ ติดใจ คือ สิ่งที่ไม่ควรเป็นความลับ อย่างเช่น ยุทโธปกรณ์เพื่อบรรเทาสาธารณภัย รถตักดิน รถส่องไฟ หรือ เรือท้องแบน ถามว่า มีความละเอียดอ่อนที่จะสะท้อนความสามารถของกองทัพไทยได้ขนาดไหน และสิ่งเหล่านี้ที่กองทัพบกซื้อเป็นไปได้หรือไม่ที่จะอุดหนุนคนไทย เช่นกรณี ยางรถยนต์ ประเทศไทยก็มียางและยี่ห้อผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะซื้อจากผู้ประกอบการชาวไทย แต่ปรากฏว่ากองทัพบกเลือกที่จะตั้งโรงงานผลิตเอง และใช้สินค้าจาก โรงงานซ่อม รถยนต์กองโรงงานซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ สายสรรพาวุธ ศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์ สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธกองทัพบก (รง.ซย.กรซท.ศซส.สพ.ทบ.) นาย🧙‍♂️ชยพล ยังระบุว่า ในวงเงิน 3,600 ล้านบาท ที่จะเป็นโอกาสผู้ประกอบการไทยจะมีส่วนร่วม ซึ่งในเอกสารไม่ควรเป็นความลับ เช่นเตียง 35,000 หลัง รวมเกือบ 100 ล้านบาท อุปกรณ์สมาร์ตคลาสรูม 15 ล้านบาท รถบรรทุกจำนวน 30 คัน วงเงิน 21 ล้านบาท หรือแม้แต่พ่อพันธุ์ม้า ต้องการม้าพันธุ์ดี สีดำแท้ในการเพาะพันธุ์เพื่อร่วมพระราชพิธีจำนวน 4 ตัว จำนวน 26 ล้านบาท ย้ำถามถึงความจำเป็นในการใช้งบประมาณดังกล่าว นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสงสัยถึงงบประมาณปริศนาต้องสงสัย IO ภาค 5 ที่ไร้การชี้แจงจากกองทัพบก รู้เพียงว่า ใช้ทำอะไร งบเท่าไหร่อันสะท้อนถึงความโปร่งใสในการใช้งบประมาณของกองทัพว่า เป็นเพื่อความมั่นคงของชาติหรือเพื่อความมั่นคงของใคร เพราะขณะนี้มีงบประมาณถูกใช้ไปใ🏆นการคุกคามคนในประเทศโดยมีโครงการที่น่าจับตาเป็นพิเศษ นายชยพล ยังกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ และเงินราชการลับ นี่แค่งบประมาณส่วนเดียวที่ไม่มีการชี้แจง แต่ถูกสงสัยว่า เป็นงบประมาณที่ปฏิบัติการคุกคามประชาชน หรือ IO ภาค 5 ที่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจไปก่อนหน้านี้ ที่ไร้ซึ่งคำตอบและคำชี้แจงจากรัฐบาล คือ กระบวนการบั่นทอนประชาธิปไตยโดยการชักใหญ่ของ ศปก.ร่วม หน่วยงานนอกกระทรวงกลาโหม ที่เป็นผู้บงการควบคุมการทำงานของกองทัพ แค่กองทัพบกกินงบประมาณไป 3,000 ล้านบาทในปี 2569 เป็นรัฐพันลึกอย่างแท้จริงเพราะถามสำนักงบประมาณก็ตอบไม่ได้ นายชยพล ยังระบุถึง ค่าโง่เรือดำน้ำเกือบ 16,000 ล้านบาท ที่จ่ายไปแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววจะได้เรือดำน้ำ เสียค่าโง่ก็แล้ว เจรจาก็แล้ว รัฐมนตรีบินไปเยอรมนีก็แล้วจะเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้ รัฐบาลจะรับผิดชอบความเสียหายให้กับคนไทยอย่างไรที่กำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้ หรือ รัฐบาลสามารถขอเงินคืนได้แล้วหรือยัง แต่รัฐบาลจะเดินหน้าจ่ายค่าเรือดำน้ำแทนที่รัฐบาลจะฟ้องความผิดทางละเมิดต่อศาลปกครอง โจทก์แรกกองทัพเรือและโจทก์ที่ 2 รมว.กลาโหมในขณะนั้น โจทก์ที่ 3 คือ ครม.ที่อนุมัติโครงการในขณะนั้น นายชยพล ยังให้เสนอตัดงบของกระทรวงกลาโหม เหลือครึ่งเดียวให้คงเหลือ 14,000 ล้านบาท ในการช่วยอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ให้เหลือ 7,000 ล้านบาท โดยไม่ได้ต้องการตัดงบประมาณจัดซื้อเรือฟริเกต (Frigate) จึงเสนอ ครม.ให้ 1.ทบทวนมติใหม่ เปลี่ยนหลักการอนุมัติจัดซื้อเรือ 2 ลำ และดาวน์ 5% ของมูลค่าโครงการ 2.ชะลอโครงการออกไปเพื่อให้โครงการใหม่มีความชัดเจนมากกว่า 3.ฝืนต่อไป ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม กล่าวชี้แจงการอภิปรายของนายชยพล สท้อนดี สส.กทม.พรรรคประชาชน อภิปรายในเรื่องงบประมาณกระทรวงกลาโหม โดยกล่าวว่า งบประมาณของกระทรวงกลาโหมถึงจะดูมีจำนวนเพิ่มขึ้นแต่เมื่อเทียบกับสัดส่วนของงบประมาณประเทศแล้ว จะเห็นว่ามีสัดส่วนลดลง ส่วนสาเหตุที่ต้องรักษาความลับเพราะตามระเบียบแล้วหากเอกสารส่งได้ส่วนหนึ่งมีความลับก็จะต้องถือว่าลับทั้งหมด สำหรับจำนวนบุคลากรที่เพิ่มขึ้นนั้น กระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการลดกำลังคนมาโดยตลอด โดยเฉพาะทหารชั้นนายพล ซึ่งมีเป้าหมายที่จะลดให้เหลือ 384 อัตรา ในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ ภายในปี 2570 กล่าวคือต้องลดจากปัจจุบัน 378 อัตรา ซึ่งในปี 2568 ได้ปรับลดไปแล้ว 308 อัตรา ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณท่านผู้ทรงเกียรติที่ได้ให้ข้อแนะนำในโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ว่า 7-10 เดือนน้อยเกินไป ความจริงแล้วแนวคิดของกระทรวงกลาโหมในการทำโครงการ Early Retire คือ จะใช้งบประมาณของกระทรวงเองโดยไม่ขอจากรัฐบาล ซึ่งจากงบประมาณที่กระทรวงมีอยู่เพียงพอบริหารโครงการแค่ 7-10 เดือน อย่างไรก็ตาม ผมได้กราบเรียนท่านนslot 24ายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ว่าปัจจุบันนี้คณะกรรมาธิการการทหาร เสนอว่าน่าจะปรับเพิ่มขึ้น ก็คงจะมีการปรับปรุงต่อไป ก็ต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ ส่วนเรื่องการปรับลดกำลังพลประการสุดท้าย กระทรวงกลาโหม มีแผนปรับลดกำลังพลในภาพรวม ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา จากเดิมปีนั้นมียอด 237,818 นาย จะปรับลดลง 5% ให้เสร็จสิ้นภายในปี 2570 กล่าวคือ ปรับลดลงประมาณ 12,000 อัตรา ซึ่งปีนี้ปรับลดไปแล้ว 9,000 อัตรา เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนกำลังพลประจำการปีที่แล้ว 230,000 อัตราโดยประมาณ แต่ปีนี้มีเพียง 228,000 อัตรา คือ ลดจากปีที่แล้วไป 3,000 กว่าอัตรา จำนวนกำลังพลที่ลดลง แต่งบบุคลากรเพิ่มขึ้นมีสาเหตุคือ มีการปรับเงินเดือนข้าราชการตามนโยบายรัฐบาล ที่กำหนดให้เพิ่มเงินเดือน 10% ภายใน 2 ปี และกำลังพลที่เป็นระดับปริญญาตรีให้ปรับเงินเดือนเป็น 1🎧8,000 บาท รวมทั้งการเพิ่มเงินค่าครองชีพชั่วคราวด้วย สาเหตุประการต่อมาคือ มีการปรับค่าตอบแทนพิเศษของทหารกองประจำการ หรือ พลทหาร เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 11,000 บาท นอกจากนั้นยังเพิ่มเงินชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับเงินเดือนแรกบรรจุเข้ารับราชการให้เป็น 18,000 บาทเท่ากัน โดยสรุป คือ คนลดลงแต่มีรายละเอียดของการเพิ่มเงินเดือนแต่ละบุคคลมากขึ้น เป็นสาเหตุให้งบบ📦ุคลากรของกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้น ส่วนกรณีสมุดปกขาว ทบ.ปัจจุบันได้มีแนวทางในการพัฒนาระบบการจัดหายุทโธปกรณ์ เรื่องเรือฟริเกต (Frigate) ส่วนตัวเห็นด้วยกับเหตุผลของสมาชิก เพราะในชั้นส่งคำขอกองทัพเรือขอมาจำนวน 2 ลำ ลำละ 15,000 ล้านบาท รวมเป็น 35,000 ล้านบาท ในระดับนโยบายจึงมีความกังวลว่า หากมีเหตุไม่คาดคิดทำให้การจัดหาไม่เรียบร้อย รัฐบาลจะสูญเสียเงินถึง 35,000 ล้านบาท จึงให้กองทัพเรือทยอยจัดหา 1 ลำก่อน ในวงเงิน 17,500 ล้านบาท พล.อ.ณัฐพล ได้นำเสนอยุทโธปกรณ์บางส่วนที่กองทัพไทยสามารถผลิตได้เองในปัจจุบัน อาทิ การพัฒนาเครื่องยิงลูกระเบิด 120 มม., แบบอัตตาจรล้อยาง (ATMM), ปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มม., จรวดหลายลำกล้องอัตตาจร 122 มม. แบบ DTI-2, หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด รุ่น D-Empir V.4, จรวดหลายลำกล้องอัตตาจร 122 มม. แบบ DTI-2, รถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ แบบ D11A, หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด รุ่น D-Empir V.4, หุ่นยนต์ตรวจการณ์ขนาดพกพา รุ่น NOONAR V.4, ยานเกราะล้อยาง First Win 4x4 ATV, เรือระบายพลขนาดกลาง รวมถึงอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน อ่านข่าว : "ภัณฑิล" อัดสภาของบ 24.9 ล้านทำคลังอาวุธ - สัมมนาปี 67 ใช้มากถึง 800 ล้าน "พิเชษฐ์ - พริษฐ์ " โต้ปมงบประมาณปรับปรุงรัฐสภา ชมสด วันที่ 2 ประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ ถกร่างงบฯปี 69

วานนี้ (29 พ.ค.68) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม ในวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 นายชยพล สท้อนดี สส.กทม.พรรคประชาชน

วันนี้ (9 ม.ค.2568) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวในงานแถลงโดยระบุข่าวว่า กรมสรรพสามิตดำเนินการ

นิยายชีวิต โดย : Gita Amanda
เรื่องและภาพโดย : Gita Amanda
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..