ภาวะใกล้ตาย (near-death experience) ที่ถูกพูดถึงในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่ตนกำลังเคลื่
วันนี้ (4 ก.ค.2567) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางสังคมไทย” ในเวที "ยุทธศาสตร์ประเทศไทย ความท้าทายรัฐบาล" เนื่องในโอกาสครบรอบ 27 ปี สภาการสื่อมวลชนแ
ภาวะใกล้ตาย (near-death experience) ที่ถูกพูดถึงในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้🐝สึกที่ตนกำลังเคลื่อนตัวลงไปในอุโมงค์ที่ปลายทางมีแสงสว่างจ้า การหวนนึกถึงความทรงจำในอดีตที่ผ่🐬านมา หรือแม้กระทั่งการได้ยินหรือมองเห็นญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ล้วนมีที่มาจากผู้คนต่างวัฒนธรรมที่เชื่อกันว่าได้มีโอกาสเผชิญกับความตายมาก่อนแล้วทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าป🐢ระสบการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงภาพหลอนที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ป่วยฟื้นตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มีกลุ่มนักวิจัยจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan Medical School) นำโดยฮิโม บอร์ฮิจิน (Jimo Borjigin) และคณะ ได้ศึกษาคลื่นสมองของกลุ่มผู้ป่วยตัวอย่างทั้งหมดสี่คนที่กำลังจะเสียชีวิตผ่านการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง หรืออีอีจี (Electroencephalography, EEG) โดยคลื่นที่ออกมาจะเกิดจากการทำงานร่วมกันของเซลล์สมองจำนวนมาก และคลื่นแต่ละชนิดจะมีความถี่ที่แตกต่างกัน จากการศึกษาที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าในบรรดาคลื่นสมองทั้งหมดนี้ คลื่นสมองแกมมาซึ่งเป็นคลื่นความถี่สูงเป็นหนึ่งในลักษณะเด่นของการมีสติหรือความรู้สึกตัว (hallmark of consciousness) และยังเกี่ยวข้องกับกระบวนการคิดขั้นสูงและการเรียกคืนความจำ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นหากเกิดคลื่นนี้ในส่วนของสมองที่เรียกสั้นๆว่าทีพีโอจังก์ชัน (Temporo-pariero-occipital junction, TPO) ซึ่งอยู่บริเวณด้านข้างศีรษะทั้งสองด้าน ผลการทดลองปรากฏว่า ในบรรดาผู้ป่วยที่กำลังจะเสียชีวิตทั้ง 4 คนนั้น มี 2 คนที่แสดงสัญญาณของคลื่นแกมมาบริเวณทีพีโอจังก์ชัน โดยหลังจากที่ถอดอุปกรณ์พยุงชีพออก คลื่นแกมมานี้ก็พุ่งสูงขึ้📺นอย่างฉับพล🍐🌈🎤ันอยู่ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่นาที ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ว่าคนกลุ่มนี้มองเห็นอะไรก่อนที่กำลังจะตาย แต่ทางคุณบอร์ฮิจินได้กล่าวว่า "joker สล็อต88899วิเคราะห์บอลกรีซคัพ xo super slotหากพวกเขารอดชีวิต ผู้ป่วยทั้งสองคนนี้อาจจะมีเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังก็เป็นได้" แซม พาร์เนีย (Sam Parnia) จาก NYU Langone Health กล่าวว่า การพุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลันของคลื่นแกมมาอาจจะเกิดขึ้นได้ขณะที่กำลังเสียชีวิต เนื่องจากระดับออกซิเจนที่ลดลง ทำให้ระบบเบรกตามธรรมชาติของสมองที่ทำงานเหมือนกับเบรคเกอร์ไฟฟ้าในบ้านหยุดทำงาน จึงเกิดเหมือนกับไฟกระชากไปชั่วขณะ การค้นพบในครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญไปสู่การรับ🌍รู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ที่มาข้อมูล: New Scientist“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
กรีซแห่ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มเมืองเอเธนส์จนหมด หลังรัฐบาลแจ้งปิดธนาคารทั่วประเทศ 1 สัปดาห์ ชาวกรีกในกรุงเอเธนต์ต่อคิวเพื่อถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มจนหมด เหตุตระหนกกลัวเงินในบัญชีได้รับผลกระทบ หากรัฐบาลกรีซ