วันนี้ (20 เม.ย.2566) เวลา 15.40 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิที่เป็นตัวแทนของครอบครัว นตท.ภูมิพัฒน์ ผู้ก่อเหตุยิง น.ส.พิญชชา ได้เคลื่อนย้ายร่างของ นตท.ภูมิพัฒน์ จากแผนกนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อนำไปบำเ
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ศาลในกรุงปักกิ่ง ตัดสินให้ คริสวู (Kris Wu) หร
วันนี้ (30 เม.ย.2568) พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมภายในงานแห่งหนึ่งบนสื่อสังคมออนไลน์ และปรากฏภาพบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษ
แม้ว่าภาพรวมทั้งเอเชียจะไม่ได้มีปัญหาเรื่องจำนวนประชากรสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามองลึกลงไป จะพบว่าสถานการณ์ในหลายประเทศกำลังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะ 3 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ เกาหลีใต้ครองสถิติประเทศที่มีอัตราเจริญพันธุ์ต่ำที่สุดในโลกมาตั้งแต่ปี 2013 และปัญหานี้ก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ ซึ่งรวมถึงจำนวนเด็กเกิดใหม่ ที่ลดลงจาก 400,000 คนเศษๆ เหลือเพียง 230,000 คน ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามอัดฉีดงบประมาณมากกว่า 360 ล้านล้านวอน หรือมากกว่า 9 ล้านล้านบาท เพื่อกระตุ้นการมีบุตรและสนับสนุนการเลี้ยงดูเด็กนับตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา แต่ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์นี้ได้ ข้อมูลจากสำนักงานบริการข้อมูลสถิติเกาหลี ชี้ว่า อัตราเจริญพันธุ์ในเกาหลีใต้ลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 8 แล้ว จาก 1.239 ในปี 2015 เหลือเพียง 0.72 ในปี 2023 นั่นหมายความว่า ผู้หญิงเกาหลีใต้ 1 คน มีลูกไม่ถึง 1 คน ทั้งๆ ที่ตัวเลขอัตราเจริญพันธุ์เพื่อรักษาจำนวนประชากรอยู่ที่ 2.1 นั่นคือ ผู้หญิง 1 คน ต้องมีลูก 2 คนขึ้นไป ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า อัตราเจริญพันธุ์ของเกาหลีใต้ในปีนี้น่าจะลดต่ำลงอีก เหลือเพียง 0.68 หรือน้อยกว่าตัวเลขที่ควรจะเป็นเกือบ 3 เท่า กรุงโซล ปูซาน อินชอน และ แทกู คือ 4 เมืองที่มีอัตราเจริญพันธุ์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั้scr888 918kissงประเทศ ซึ่งทั้ง 4 เมืองนี้มีจุดร่วมเดียวกัน นั่นคือ เป็นเมืองใหญ่และมีค่าครองชีพสูงติดอันดับต้นๆ ของประเทศ อย่างเมื่อปีที่แล้วกรุงโซลแซงหน้ากรุงโตเกียวของญี่ปุ่น คว้าตำแหน่งเมืองที่มีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก อ่าน : อัตราการเกิดในเกาหลีใต้ ปี 2023 ลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ธนาคารโลกอ้างอิงข้อมูลเมื่อปี 2021 ชี้ว่าเกาหลีใต้มีอัตราเจริญพันธุ์ต่ำที่สุดในเอเชีย ตามมาด้วยสิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น และ ไทย จุดที่น่าสนใจ คือ ล่าสุดทางการสิงคโปร์ออกมาประกาศตัวเลขอัตราเจริญพันธุ์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งลดลงเหลือเพียง 0.97 เท่านั้น นี่นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สิงคโปร์ที่ตัวเลขนี้ลดลงต่ำกว่า 1 ซึ่งรัฐบาลสิงคโปร์ ระบุว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่คูç่รักต้องเลื่อนแผนการแต่งงานในช่วงวิกฤตโควิด-19 ทำให้กระทบกับการวางแผนการมีบุตรตามมาด้วย ส่วนในญี่ปุ่น ประเทศที่มีประชากรสูงอายุมากเป็นอันดับ 2 ของโลก กำลังเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายไม่ต่างกัน โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลขเด็กเกิดใหม่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เหลือไม่ถึง 760,000 คน แต่กลับมีตัวเลขผู้เสียชีวิตใกล้แตะ 1,600,000 คน ทำให้ประชากรทั้งประเทศลดลงมากกว่า 830,000 คน อ่าน : อัตราการเกิดญี่ปุ่นปี 2023 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ยังมีคู่รักจดทะเบียนสมรสในญี่ปุ่นไม่ถึง 500,000 คู่ เป็นครั้งแรกในรอบ 90 ปี ซึ่งด้วยวัฒนธรรมของเอเชียตะวันออก การไม่ได้แต่งงานก็มักตามมาด้วยการไม่มีบุตร โดย สส.ของพรรครัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่าปัญหาอัตราการเกิดต่ำเรียกได้ว่าเป็นภัยคุกคามของชาติ เพราะกระทบไปถึงเศรษฐกิจและความมั่นคงทางสังคม ข้อมูลจากสถาบันวิจัยในจีน ชี้ว่าอัตราค่าเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 18 ปี ในเอเชียกับชาติตะวันตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเกาหลีใต้และจีน ซึ่งถือเป็น 2 ประเทศ ที่ถ้าต้องการจะเลี้ยงเด็กสักคนต้องใช้เงินมากที่สุดในโลก อย่างในเกาหลีใต้ ต้องถือเงินมากกว่า 7 เท่าของรายได้ต่อปี ขณะที่จีนต้องมีมากกว่า 6 เท่า ส่วนญี่ปุ่นดีขึ้นมาหน่อย อยู่ที่ 4.26 สูงกว่าสหรัฐฯ เล็กน้อย ขณะที่พ่อแม่ชาวฝรั่งเศสและออสเตรเลียสบายขึ้นมาหน่อย เพราะอัตราค่าเลี้ยงดูเด็ก 1 คน นาน 18 ปี อยู่ที่ราวๆ 2 เท่าของรายได้ทั้งปี ซึ่งตัวเลขนี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยที่เปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว หรือ GDP ต่อหัวของแต่ละประเทศเท่านั้น เรื่องเงินเป็นปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นค่าเลี้ยงดูเด็ก ค่าครองชีพของพ่อแม่ รวมไปถึงต้นทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือค่าบ้านที่พุ่งสูงขึ้นในหลายประเทศ แต่เงินไม่ใช่ปัญหาเดียว โดยปัจจุบันผู้หญิงหลายคนเลือกไม่มีลูก เนื่องจากไม่ต้องการเสียสละชีวิตและโอกาสของตัวเอง โดยเฉพาะในเรื่องอาชีพการงาน จึงทำให้หลายบ้านผลักแผนมีลูกออกไปก่อน อ่าน : "ญี่ปุ่น" เกิดต่ำ กระทบเทศกาลเปลือยกายอายุกว่าพันปี อย่างเกาหลีใต้เอง ช่วงอายุของผู้หญิงที่มีลูกคนแรก ส่วนใหญ่อยู่ในวัย 30-34 ปี ตามมาด้วยช่วงอายุ 35-39 ปี ซึ่งช่วงวัยที่เลยเลข 3 แบบนี้ สะท้อนว่าผู้หญิงอาจจะแต่งงานช้าลง หรืออาจจะเลือกความมั่นคงในอาชีพก่อนมีลูกก็เป็นได้ อัตราการเกิดต่ำถือเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ยกเว้นในแอฟริกา แต่สถานการณ์นี้จะรุนแรงแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ ซึ่งเอเชียถือเป็นภูมิภาคหนึ่งที่น่าวิตกไม่น้อย ปัญหานี้ต้องเร่งแก้ไข เพราะถ้าเข้าสู่ช่วงที่ประชากรวัยเจริญพันธุ์ลดจำนวนลงแล้ว การเพิ่มจำนวนเด็กเกิดใหม่ก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก อ่าน : ถูกฉาบด้วยสีดอกเลา "ญี่ปุ่น" ขึ้นแท่นแชมป์ผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก
แม้ว่าภาพรวมทั้งเอเชียจะไม่ได้มีปัญหาเรื่องจำนวนประชากรสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามองลึกลงไป จะพบว่าสถานการณ์ในหลายประเทศกำลังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะ 3 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ เกาห
- scr888 918kiss
- slot online ฟรี เครดิต
- joker ทาง เข้า
- หางานทำที่บ้าน
- lucabet666how to check off poker box in jamaica
- ฝาก 10 รับ 100 xoมา ส คา ร่า ที่ ดี ที่สุด 2020