วันนี้ (13 ส.ค.2567) น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโด เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิก ปารีส
กระแสของภาพยนตร์เรื่องออปเพนไฮเมอร์ (Oppenheimer) ทำให้ชื่อของนักวิทยาศาสตร์ในยุค “ตื่นวิทยาศาสตร์” ของสหรัฐอเมริกา กลายเป็นที่ถูกพูดถึงมากมาย ซึ่งในตอนนั้นนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามาใน
กระแสของภาพยนตร์เรื่องออปเพนไฮเมอร์ (Oppenheimer) ทำให้ชื่อของนักวิทยาศาสตร์ในยุค “ตื่นวิทยาศาสตร์” ของสหรัฐอเมริกา กลายเป็นที่ถูกพูดถึงมากมาย ซึ่งในตอนนั้นนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามาในสหรัฐฯ จนกลายเป็นแหล่งสร้างผลงานด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของโลก นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เราอาจคุ้นชื่อพวกเขาเป็นอย่างดี เช่น จูเลียส รอเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ ผู้ที่ชีวิตของเขาถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ตลอดไปจน แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เจ้าของทฤษฎีสัมพัทธภาพ เอนรีโก แฟร์มี และเออร์เนสต์ ลอว์เรนซ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวิชานิวเคลียร์ฟิสิกส์ แต่หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ฝากผลงานทางฟิสิกส์จนทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศมหาอำนาจด้านวิทยาศาสตร์ ที่เราจะพูดถึงกันในบทความนี้ได้แก่ริชาร์ด ไฟน์แมน นักฟิสิกส์สายเลือดอเมริกันแท้ที่โด่งดังและมีผลงานมากมาย ตั้งแต่การเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์โครงการแมนฮัตตัน การเป็นบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ ในการผลักดันการศึกษานิวเคลียร์ฟิสิกส์ และภายหลังคือฟิสิกส์อนุภาค การเป็นหนึ่งในผู้ให้คำปรึกษากับองค์การนาซา และช่วยสอบสวนอุบัติเหตุกระสวยอวกาศแชลเลนเจอร์ ในปี 1968 แต่หนึ่งในบทบาทสำคัญของไฟน์แมน คือการเป็นอาจารย์ที่สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (แคลเทค) ที่ทำให้เขากลายเป็นอาจารย์คนโปรดของนักฟิสิกส์ทั่วสหรัฐฯ หรือทั่วโลก หนึ่งในหนังสือของไฟน์แมนที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดนอกเหนือจากบทความทางวิชาการ ได้แก่หนังสือชื่อ “Surely You're Joking, Mr. Feynman!” (ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “คุณกำลังล้อเล่นอยู่แน่ ๆ คุณไฟน์แ📺มน”) ที่เขาเขียนขึ้นในปี 1985 💌เนื้อหาในเล่ม เขาได้เขียนปร🌞ะวัติเรื่องราวชีวิตของตัวเองผ่านมุมมองการศึกษาธรรมชาติ และได้พ🧩ูดถึงเหตุการณ์สำคัญ ๆ หลากหลายเหตุการณ์โดยเฉพาะในตอนที่เขาทำงานในโครงการแมนฮัตตัน ซึ่งก็คือในช่วงที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ออปเพนไฮเมอร์ นอกจากการนำเสนอชีวิตส่วนตัวแล้วไฟน์แมนยังเขียนถึงความรักของเขาที่มีต่อวิชาฟิสิกส์และการศึกษาธรรมชาติด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงมีเนื้อหาจิกกัดสังคมและการเมืองสหรัฐฯ ว่ามีความย้อนแย้งในการสนับสนุนพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์อย่างไร รวมถึงมีเนื้อหาที่ฝากความหวังให้กับคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาโลกให้เจริญก้าวหน้าขึ้นผ่านวิทยาศาสตร์ เนื้อหาดังกล่าวถูกเขียนขึ้นด้วยสำนวนแบบเป็นกันเอง ทีเล่นทีจริง เหมือนอาจารย์กำลังเล่🍐🌈🎤าเรื่องราวและมุมมองโลกให้กับลูกศิษย์ได้ฟัง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในบุคลิกความเจ้าคารมของไฟน์แมนตั้งแต่สมัยที่เขายังหนุ่ม แม้กระทั่งชื่อของหนังสือก็ยังมาจากบทสนทนาของเขากับสาวร้านกาแฟที่แปลกใจที่ไฟน์แมนสั่งชาร้อนคู่กับครีมและมะนาวพร้อมกัน แต่สิ่งที่แสบสันที่สุดของไฟแมน คือในบทที่ชื่อว่า “Cargo cult science” ที่ถอดบทมาจากสุนทรพจน์ของเขาในปี 1974 ที่พูดถึง “การก้มหน้าบูชาผลลัพธ์” ที่ไฟน์แมนเปรียบเปรยสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกวงการวิชาการว่าผู้คนต่างสนผลลัพธ์แต่ไม่สนกระบวนการ (ซึ่งเป็นแก่นของวิทยาศาสตร์) และพยายามสร้างเทคโนโลยีต่าง ๆ ขึ้นมาโดยหวังว่าสิ่งเหล่านั้นจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่แท้จริงแล้วพวกเขาต่างแค่เลียนแบบสิ่งที่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาทำสิ่งนั้นไปทำไม คำว่า “Cargo cult” ที่ไฟน์แมนหยิบมาเป็นชื่อของคำอธิบายปรากฏการณ์นี้นั้นก็มาจากการสังเกตพฤติกรรมของชาวเผ่ากลางเกาะที่ถูกใช้เป็นฐานทัพอากาศ ในช่วงสงครามพวกทหารมักจะนำเครื่องบินมาลงจอดพร้อมกับวิทยาการใหม่ ๆ แต่เมื่อสงครามจบแล้วพวกเหล่าชาวเผ่าก็ยังคาดหวังให้มีเครื่องบินมาลงจอดอยู่ พวกเขาจึงพยายามสร้างสนามบินจำลอง นำเอาไฟมาวางเป็นทางคล้ายไฟจากทางวิ่งของเครื่องบิน หรือสร้างหอสูงที่คล้ายกับหอวิทยุ แต่สุดท้ายสิ่งที่พวกเขาทำกลับไม่ได้นำพาพวกเขาไปไหนเลย เพราะพวกเขาสนใจแต่ “สินค้า (Cargo)” ที่พวกเขาได้รับ ไม่ใช่ “กระบวนการการผลิตเครื่องบิน” เท่ากับว่าหอ🦙คอยและทางวิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นสูญเปล่าและไร้ประโยชน์ แนวคิดดังกล่าวส่งผลต่อแนวคิดในการวางนโยบายด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก ซึ่งบรรดานักฟิสิกส์ในยุคนั้นก็ต่างอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นไปในทำนองเดียวกัน เอนรีโก แฟร์มีเอง ยังเคยกล่าวว่า “งานวิจัยวิทยาศาสตร์อาจไตรวจ หวย 1 ธันวาม่ได้ปกป้องประเทศนี้ (สหรัฐฯ) แต่งานวิจัยวิทยาศาสตร์จะทำให้ประเทศควรค่าแก่การปกป้องตะหาก” “Surely You're Joking, Mr. Feynman!” จึงกลายเป็นหนังสือที่หลายสำนักยกย่องในฐานะอิทธิพลสำคัญต่อมุมมองของคน ให้เห็นคุณค่าของงานวิจัยและวิทยาศาสตร์ในแบบที่มันควรจะเป็น --------------------------“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
วันนี้ (23 ธ.ค.2567) จากกรณี นายอัครพณธ์ ภามจำนง อาสาสมัคร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อายุ 50 ปี ก่อเหตุยิงในร้านข้าวต้ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน เพราะไม่พอใจที่เด็กเสิร์ฟเก็บอาหาร ขณะไปนั่งด