Home
|
โปร 29 รับ,‰ˆ 100

โปร 29 รับ 100Ÿæ‹วันนี้ (11 ก.พ.2564) พล.ต&#;.ท.ภัคพงศ์ ¬ç§พงษ์เภตรา, ผู้บ

โปร 29 รับ,‰ˆ 100

"กู้เงินด่วน ดอกเบี้ยต่ำ อาชีพไหนก็กู้ได้" คำเชิญชวนกู้เงินผ่านโซเชียล ดึงคนที่กำลังเดือดร้อน หมดหนทางจากภาวะเศรษฐกิจในยุค COVID-19 กลายเป็นช่องทางพึ่งเงินด่วน หวังประคองปากท้องให้พ้นวิกฤต แต่ความหวังระยะสั้นกลายเป็นทุกข์ระยะยาว “แอปฯ ขอดึ¬ç§งรายชื่อผู้ติดต่อในโทรศัพท์มือถือ” เป็นหนึ่งในพฤติการณ์สำคัญที่แอปฯ กู้เงินใช้ตรวจสอบก่อนอนุมัติ หักเงินค่าธรรมเนียมอย่างน้อย 35 % และโอนเงินส่วนที่เหลือให้ผู้กู้ เมื่อไม่คืนเงินตามกำหนดจะมีคนส่งข้อความ-โทรศัพท์ทวงเงินผ่านเพื่อนฝูง เจ้านาย ด้วยการประจานใช้ถ้อยคำหยาบคาย ข่มขู่ คุกคาม โควิดรอบ 3 ทำให้การทำงานสะดุด ไม่มีเงินติดตัว อยากได้เงินมาหมุนใช้ก่อน เพราะมีลูก 2 คนและคนเล็กอายุแค่ 2 ขวบ น.ส.ดา (นามสมมติ) อายุ 27 ปี แม่ลูกสองที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ พร้อมกับครอบครัว หนึ่งในผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เล่าประสบการณ์กู้เงินผ่านแอปฯ ตอนนี้ไม่ได้ทำงาน เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก รายได้ทั้งหมดจึงมาจากสามีที่มีอาชีพรับเหมาต่อเติมบ้าน เธอบอกว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน แต่มาสะดุดกับโควิด-19 ทำให้ไม่มีงานและไม่มีเงิน เมื่อเงินขาดมือ ดาจึงเริ่มกู้เงินจากนายทุนนอกระบบ ผ่านแอปพลิเคชัน Spin Loan และ PiggyBank หลังจากเห็นโฆษณาในโซเชียลมีเดียว่า กู้เงินด่วน ดอกเบี้ยต่ำ อาชีพไหนก็กู้ได้ ดากู้เงินมาจาก 2 แอปฯ โดยกรอกข้อมูลส่วนตัว พร้อมแนบรูปถ่าย รå­¦åูปบัตรประชาชน รวมถึงกรอกเลขบัญชีธนาคาร จากนั้นจึงได้รับอนุมัติวงเงิน แต่เมื่อกรอกข้อมูลทุกอย่างเข้าไปในแอปฯ แล้ว กลˆับไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ เธอได้รับเงินจริงเพียง 1,800 บาท จากยอดกู้ 3,000 บาท "กรอกเลขบัญชีเสร็จมันเด้งเข้าบัญชีให้เลย ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะไม่รับ ในแอปฯ จะขึ้นจำนวนเงินกู้ 10,000 บาทและให้เรากดเข้าไป พอกรอกข้อมูลเสร็จแล้วมันจะรันให้ขึ้นมา 3,000 บาท แต่ได้จริง 1,800 บาท และให้เราคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยรวม 3,090 บาท โดยให้เวลา 6 วัน ซึ่งแอปฯ ไม่ได้เขียนว่า 6 วัน แต่เป็นเลข 6 ตัวเดียว เราก็ไม่รู้ ตอนนั้นคิดว่าเป็น 6 เดือนจึงกดยินยอม จากนั้นก็กดยกเลิกไม่ได้แล้ว" กู้เงิน 3,000 บาท แต่ได้เงินมาเพียง 1,800 บาท ส่วนต่างที่หายไป แอปฯ ดังกล่าวแจกแจงรายละเอียดว่า เป็นการหักเงินค่าดำเนินการ เช่น ค่าพนักงาน ค่าทำเอกสาร รวมถึงอื่นๆ ผ่านไปไม่กี่วันจึงเริ่มมีการทวงหนี้ "ดา" เล่าวิธีการทวงเงินของแอปฯ เงินกู้ ที่นำข้อมูลของเธอไปประจานกับบุคคลที่ 3 โดยมีการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือไปถึงสามี ลูกสาว ญาติที่ต่างจังหวัด และคนที่เธอรู้จัก เพื่อต้องการให้บุคคลเหล่านั้นเดือดร้อน รำคาญ และมากดดันเธอให้ชดใช้หนี้ นอกจากนี้ แอปฯ เงินกู้ยังนำรูปโปรไฟล์ของดาที่อยู่ในไลน์ แต่ใช้ชื่อของคนอื่น ไปแอบอ้างโฆษณาการกู้เงิน โดยที่ดาบอกว่าไม่มีส่วนรู้เห็น เธอตัดสินใจเข้าแจ้งความกับ บช.สอท. เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา เพราะรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยนำหลักฐานเลขบัญชีและชื่อของคนที่รับโอนเงินไปให้กับตำรวจ เบื้องต้นตำรวจแนะนำให้ปิดการติดต่อทุกช่องทาง ลบแอปฯ ออกจากโทรศัพท์มือถือ เพราะเมื่อโหลดแอปฯ และกดอนุญาต จะทำให้เข้าถึงข้อมูลผู้ติดต่อที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ในวันที่เข้าแจ้งความ ดอกเบี้ยเงินกู้ของดาเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 3,510 บาท เธอจึงเล่าประสบการณ์ครั้งนี้ให้ไทยพีบีเอสออนไลน์ฟัง เพื่อหวังเตือนภัยให้กับผู้ที่โปร 29 รับ 100คิดจะกู้เงินนอกระบบผ่านแอปพลิเคชันในโลกออนไลน์ เมื่อการกู้ยืมเงินถูกใช้เกียรติยศศักดิ์ศรี เป็นตัวค้ำประกัน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล รอง ผบก.สอท.2 อธิบายพฤติการณ์ของขบวนการแอปฯ กู้เงินนอกระบบ ว่า จะใช้เซิร์ฟเวอร์จากต่างประเทศ และอาจมีบุคคลดำเนินการซื้อบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) เบอร์โทรศัพท์ของคนไทย จากนั้นนำซอฟต์แวร์มาให้ผู้กู้ลงทะเบียน โดยดูดข้อมูลจากมือถือของผู้กู้หลังกดข้อความ "ยอมรับเงื่อนไข" รายชื่อผู้ติดต่อทั้งหมดในโทรศัพท์จะถูกเก็บไว้ใช้ทวงหนี้ ภาพ : พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ภาพ : พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ส่วนการเก็บเงินคืน ขบวนการจะจ้างคนไทยเป็นผู้ทวงหนี้ผ่านทั้งโทรศัพท์ และ SMS ที่สำคัญใช้บัญชีม้าทำธุรกรรมผ่าน E-Banking ส่งต่อหลายบัญชี กระทั่งไปถึงบัญชีม้าที่ตะเข็บชายแดน เช่น กัมพูชา เมียนมา และกดเงินออกไปยังประเทศต้นทาง ไม่สามารถติดตามตรวจหาเงินได้ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เชื่อว่ามีผู้กู้หลักหมื่นคนทั่วประเทศ แต่มีผู้เสียหายแจ้งความกับ สอท.หลักพันคน บางคนกู้พร้อมกันถึง 10 แอปฯ ส่วนใหญ่เป็นภาคแรงงานและลูกจ้างในพื้นที่ภาคกลางมากที่สุด 65 % ที่ผ่านมา สอท.ประสานถอนแอปฯ ออกจากจากเพลย์สโตร์แล้ว 60 แอปฯ และจับกุมคนทวงหนี้ได้หลักร้อยคน แต่ก็ผุดแอปฯ ชื่อใหม่ขึ้นมาอีก โดยเงินที่ทำกำไรจากผู้กู้ เชื่อว่าไหลออกไปยังนายทุนต่างประเทศ ขณะนี้ประสานสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโท��รคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สกัดกั้นการก่อความเดือดร้อนรำคาญ หรือข้อความหลอกให้คนหลงเชื่อกู้เงิน รวมถึงการตรวจสอบการเปิดและใช้บัญชีธนาคาร โดยเฉพาะการทำธุรกรรมออนไลน์ หากได้รับความร่วมมือทางเทคนิคอย่างรวดเร็ว ปัญหาก็น่าจะจบได้เร็ว ไทยพีบีเอสวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พบว่า มีแอปพลิเคชันปล่อยกู้นอกระบบอย่างน้อย 52 แอปฯ บนเพลย์สโตร์ ชื่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยมีคำสำคัญ เช่น Loan Cash Money กู้ เงินด่วน เงินกู้ วงเงินให้กู้จะแตกต่างกันในแต่ละแอปพลิเคชัน ตั้งแต่ 500-10,000 บาท หรือ 2,000-5,000 บาท อ้างระยะเวลาการกู้ 91 วัน-1 ปี เพดานวงเงินกู้ 1,000-10,000 บาท โดยบางรายกู้สูงสุด 21 ครั้ง ผ่านแอปพลิเคชันหลายตัว และทั้งหมดเมื่อกู้แล้ว 3-4 ครั้ง ก็จะไม่ชำระหนี้เงินกู้คืน คาดว่า 1 แอปพลิเคชัน รองรับ 3,000 คน หากกู้ขั้นต่ำ 1,000 บาท ต่อคนต่อ 7 วัน (ขั้นสูง 10,000 บาท ค่าเฉลี่ย 5,000 บาท หักค่าธรรมเนียม 35% จากเงินต้นทันที เมื่อคำนวณในระยะเวลา 1 สัปดาห์ กู้ผ่าน 52 แอปฯ รายละ 1,000 บาท จะมียอดเงินหมุนเวียน 156,000,000 บาท หักค่าธรรมเนียมรวม 54,600,000 บาท ขณะที่ระยะเวลา 1 ปี จะมียอดเงินทุนกู้ 4,867,200,000 บาท ในจำนวนนี้แอปฯ หักเป็นค่าธรรมเนียมถึง 2,620,800,000 บาท อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เตือน 5 อาชญากรรมไซเบอร์ รู้ทันก่อนโดน "แฮก-โกง-หลอก" แจ้งความ "NAS App" หลอกลงทุนแล้ว 3,242 คน เสียหาย 453 ล้าน หลงเชื่อลงทุน! เปิดใจผู้เสียหาย Nas App สูญเงินเก็บนับแสน