100 รั,,,บ 100 ล่าสุด
วันนี้ (29 ม.ค.2566) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนัก
฿16059
บาท0
ห้องนอน
93
ห้องน้ำ
683
ตร.ม.
฿ 5307
/ ตารางเมตร
100 รั,,,บ 100 ล่าสุด
โครงการอาร์ทิมิส (Artemis) ที่นาซาประกาศจัดตั้งร่วมกับหน่วยงานอวกาศพันธมิตรทั่วโลก กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้กับเทคโนโลยีอวกาศในยุคปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามเป้าหมายของโครงการนั้นไม่ได้เป็นเพียงการพามนุษย์กลับสู่ดวงจันทร์ในปี ค.ศ. 2025 แต่เป็นการวางรากฐานสู่การสำรวจอวกาศในระยะยาว รวมถึงโจทย์การออกแบบสถานีอวกาศที่โคจรอยู่ในอวกาศห้วงลึก (Deep Space) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเดินทางสู่ดาวอังคารในอนาคต และโครงสร้างพื้นฐานสุดสำคัญในโครงการอาร์ทิมิสที่จะอยู่คู่กับวงการอวกาศไปอีกไม่ต่ำกว่า 10 ปี ก็ได้แก่ ลูนาร์เกตเวย์ (Lunar Gateway) สถานีอวกาศที่ถูกออกแบบให้โคจรรอบดวงจันทร์และเป็นฐานที่มั่นบนวงโคจรให้กับนักบินอวกาศที่ปฏิบัติภารกิจบนผิวดวงจันทร์ ในบางครั้งนาซาจะเรียกสถานีอวกาศแห่งใหม่นี้สั้น ๆ ว่าเกตเวย์ ลูนาร์เกตเวย์ เป็นสถานีอวกาศในลักษณะโมดูลาร์ (Modular) เกิดจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับที่ใช้สร้างสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station) อย่างไรก็ตามเกตเวย์นั้นมีจำนวนโมดูลน้อยกว่าสถานีอวกาศนานาชาติในแบบแผนการออกแบบแรกนี้ แต่ในอนาคตหากมีความจำเป็นก็จะสามารถต่อเติมเพื่อรองรับจำนวนนักบินอวกาศและภารกิจการทดลองที่เพิ่มมากขึ้นได้ ชิ้นส่วนสำคัญที่เป็นหัวใจให้กับเกตเวย์นั้น ได้แก่ ส่วนพลังงานและระบบขับดัน (Power and Propulsion Element) ที่จะเป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าผ่านแผงโซลาร์อาเรย์ขนาดใหญ่ และเป็นที่อยู่ของเครื่องยนต์หลักให้กับสถานีในการใช้ปรับวงโคจร ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องยนต์อิออน (Ion Engine) ไม่ได้เป็นเครื่องสันดาปเชื้อเพลิงเหมือนกับสถานีอวกาศนานาชาติ ในขณะที่ฮาโล (Habitation and Logistic Outpost - HALO) และไอแฮบ (International Habitation Module - I-HAB) จะเป็นที่อยู่ให้กับนักบินอวกาศในการใช้ชีวิตและปฏิบัติงานวิจัย นอกจากนี้จะยังมีโมดูลอื่น ๆ ที่จำเป็นในการทำงานมากกว่า 4 โมดูล และเช่นเดียวกับสถานีอวกาศนานาชาติ เกตเวย์นับว่าเป็นความร่วมมือของหน่วยงานอวกาศต่าง ๆ ที่เป็นพันธมิตรกับนาซา และแต่ละหน่วยงานก็จะพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองเพื่อมาร่วมประกอบสร้างสถานีอวกาศแห่งใหม่นี้ โดยชาติที่เข้าร่วมสร้างโมดูลต่าง ๆ ก็ได้แก่ "องค์การอวกาศยุโรป" (ESA) "องค์การอวกาศญี่ปุ่น" (JAXA) ในขณะที่ "องค์การอวกาศแคนาดา" (CSA) รับหน้าที่ออกแบบแขนกลรุ่นใหม่สำหรับใช้งานนอกตัวสถานี เกตเวย์ถูกออกแบบให้โคจรอยู่ในวงโคจรที่เรียกว่า Near Rectilinear Halo Orbit (NRHO) มีลักษณะเป็นวงรี ตัดผ่านขั้วเหนือและใต้ของดวงจันทร์ โค้งเข้าใกล้พื้นผิวของดวงจันทร์มากที่สุดฝั่งขั้วเหนือ และออกห่างจากผิวดวงจันทร์มากที่สุดที่ขั้วใต้ เหตุผลที่ออกแบบเช่นนี้ก็เพราะเป็นการใช้ประโยชน์จากกฎฟิสิกส์วงโคจรที่เมื่อวัตถุโคจรห่างจากจุดศูนย์กลางเท่าใด ระยะเวลาที่ใช้ในการโคจรก็จะมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเกตเวย์จะมีช่วงการโคจรเหนือขั้วใต้ของดวงจันทร์มากกว่า กล่าวคือจะอยู่เหนือเส้นขอบฟ้าของดวงจันทร์เป็นเวลานานหากมองจากขั้วใต้ สิ่งนี้เป็นประโยชน์กับนักบินอวกาศที่กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ ณ ขั้วใต้ของดวงจันทร์ เพราะสามารถติดต่อสื่อสารกับสถานีได้เป็นระยะเวลานาน ในขณะที่เมื่อยานโคจรเข้ามาใกล้บริเวณขั้วเหนือซึ่งจะมีคาบการโคจรที่เร็ว แต่มีระยะห่างจากพื้นผิวดวงจันทร์ไม่มากนักจะเอื้ออำนวยในการส่งยานอวกาศขึ้นและลงจากพื้นผิวของดวงจันทร์ ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงและระยะเวลาในการเดินทางระหว่างขั้วใต้ของดวงจันทร์และเกตเวย์ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2022 นาซาได้ส่งยานอวกาศชื่อว่าแคปสโตน (CAPSTONE) เดินทางไปทดลองโคจรในวงโคจร100 รับ 100 ล่าสุดดังกล่าว เพื่อฝึกซ้อมการปฏิบัติงานควบคุมเกตเวย์ ซึ่งภารกิจก็เป็นไปได้ด้วยดี การเดินทางไปยังเกตเวย์จากโลกนั้น นับว่ามีความท้าทายเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวยานอวกาศจำเป็นต้องใช้เชื้อเพลิงมากกว่าการเดินทางไปยังสถานีอวกาศนานาชาติหลายเท่า ซึ่งทำให้จำเป็นต้องใช้จรวดขนส่งขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม นาซาได้มีการว่าจ้างให้บริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ศึกษาและพัฒนายานอวกาศ ดรากอน เอ็กซ์แอล (Dragon XL) เป็นยานอวกาศหลักในการขนส่งเสบียงให้กับเกตเวย์ โดยตัวยานดรากอนรุ่นใหม่นี้เมื่อใช้ร่วมกับจรวดฟัลคอนเฮฟวี (Falcon Heavy) จะสามารถนำส่งสัมภาระหนักกว่า 5,000 กิโลกรัมสู่วงโคจรของดวงจันทร์ได้ ส่วนการขนส่งมนุษย์นั้นนาซาตั้งเป้าจะใช้ยานอวกาศโอไรออน (Orion) ที่จะเป็นพาหนะหลักในการเดินทางระหว่างโลกกับดวงจันทร์ของมนุษย์ ซึ่งนาซาใช้เวลาวิจัยและพัฒนานานนับทศวรรษ แต่ยานโอไรออนนั้นไม่ได้มีความสามารถในการลงจอดบนผิวของดวงจันทร์ ทำให้การเดินทางระหว่างเกตเวย์และผิวของดวงจันทร์จำเป็นต้องใช้บริการยานอวกาศรุ่นใหม่ของสเปซเอ็กซ์ ได้แก่ ยานสตาร์ชิป (Starship) ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา ทั้งหมดนี้จะประกอบสร้างเป็นกระบวนขั้นตอนในการเดินทางระหว่างโลก เกตเวย์ และผิวดวงจันทร์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักบินอวกาศได้ศึกษา วิจัย และสร้างการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดวงจันทร์ของมนุษย์ และยังเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การสำรวจอวกาศที่ไกลออกไป เช่น การสำรวจดาวอังคาร นาซาตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถส่งโมดูลแรกของเกตเวย์ขึ้นสู่วงโคจรได้ภายในปี ค.ศ. 2026 โดยนักบินอวกาศกลุ่มแรกที่จะได้ใช้งานสถานีอวกาศแห่งใหม่นี้ก็ได้แก่นักบินอวกาศในภารกิจอาร์ทิมิส 4 ที่มาข้อมูลและภาพ: NASA“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
UID: 12309
ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา มีข่าวปรากฏผ่านสื่อเกี่ยวกับการลงโทษนักเรียนโดยใช้วิธีการที่ไม่เหมาะส
วันนี้ (2 ธ.ค.2565) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19
โครงการอาร์ทิมิส (Artemis) ที่นาซาประกาศจัดตั้งร่วมกับหน่วยงานอวกาศพันธมิตรทั่วโลก กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้กับเทคโนโลยีอวกาศในยุคปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามเป้าหมายของโครงการนั้นไม่ได้เป็นเพียงการพามนุษย์กลับสู่ดวงจันทร์ในปี ค.ศ. 2025 แต่เป็นการวางรากฐานสู่การสำรวจอวกาศในระยะยาว รวมถึงโจทย์การออกแบบสถานีอวกาศที่โคจรอยู่ในอวกาศห้วงลึก (Deep Space) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเดินทางสู่ดาวอังคารในอนาคต และโครงสร้างพื้นฐานสุดสำคัญในโครงการอาร์ทิมิสที่จะอยู่คู่กับวงการอวกาศไปอีกไม่ต่ำกว่า 10 ปี ก็ได้แก่ ลูนาร์เกตเวย์ (Lunar Gateway) สถานีอวกาศที่ถูกออกแบบให้โคจรรอบดวงจันทร์และเป็นฐานที่มั่นบนวงโคจรให้กับนักบินอวกาศที่ปฏิบัติภารกิจบนผิวดวงจันทร์ ในบางครั้งนาซาจะเรียกสถานีอวกาศแห่งใหม่นี้สั้น ๆ ว่าเกตเวย์ ลูนาร์เกตเวย์ เป็นสถานีอวกาศในลักษณะโมดูลาร์ (Modular) เกิดจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับที่ใช้สร้างสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station) อย่างไรก็ตามเกตเวย์นั้นมีจำนวนโมดูลน้อยกว่าสถานีอวกาศนานาชาติในแบบแผนการออกแบบแรกนี้ แต่ในอนาคตหากมีความจำเป็นก็จะสามารถต่อเติมเพื่อรองรับจำนวนนักบินอวกาศและภารกิจการทดลองที่เพิ่มมากขึ้นได้ ชิ้นส่วนสำคัญที่เป็นหัวใจให้กับเกตเวย์นั้น ได้แก่ ส่วนพลังงานและระบบขับดัน (Power and Propulsion Element) ที่จะเป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าผ่านแผงโซลาร์อาเรย์ขนาดใหญ่ และเป็นที่อยู่ของเครื่องยนต์หลักให้กับสถานีในการใช้ปรับวงโคจร ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องยนต์อิออน (Ion Engine) ไม่ได้เป็นเครื่องสันดาปเชื้อเพลิงเหมือนกับสถานีอวกาศนานาชาติ ในขณะที่ฮาโล (Habitation and Logistic Outpost - HALO) และไอแฮบ (International Habitation Module - I-HAB) จะเป็นที่อยู่ให้กับนักบินอวกาศในการใช้ชีวิตและปฏิบัติงานวิจัย นอกจากนี้จะยังมีโมดูลอื่น ๆ ที่จำเป็นในการทำงานมากกว่า 4 โมดูล และเช่นเดียวกับสถานีอวกาศนานาชาติ เกตเวย์นับว่าเป็นความร่วมมือของหน่วยงานอวกาศต่าง ๆ ที่เป็นพันธมิตรกับนาซา และแต่ละหน่วยงานก็จะพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองเพื่อมาร่วมประกอบสร้างสถานีอวกาศแห่งใหม่นี้ โดยชาติที่เข้าร่วมสร้างโมดูลต่าง ๆ ก็ได้แก่ "องค์การอวกาศยุโรป" (ESA) "องค์การอวกาศญี่ปุ่น" (JAXA) ในขณะที่ "องค์การอวกาศแคนาดา" (CSA) รับหน้าที่ออกแบบแขนกลรุ่นใหม่สำหรับใช้งานนอกตัวสถานี เกตเวย์ถูกออกแบบให้โคจรอยู่ในวงโคจรที่เรียกว่า Near Rectilinear Halo Orbit (NRHO) มีลักษณะเป็นวงรี ตัดผ่านขั้วเหนือและใต้ของดวงจันทร์ โค้งเข้าใกล้พื้นผิวของดวงจันทร์มากที่สุดฝั่งขั้วเหนือ และออกห่างจากผิวดวงจันทร์มากที่สุดที่ขั้วใต้ เหตุผลที่ออกแบบเช่นนี้ก็เพราะเป็นการใช้ประโยชน์จากกฎฟิสิกส์วงโคจรที่เมื่อวัตถุโคจรห่างจากจุดศูนย์กลางเท่าใด ระยะเวลาที่ใช้ในการโคจรก็จะมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเกตเวย์จะมีช่วงการโคจรเหนือขั้วใต้ของดวงจันทร์มากกว่า กล่าวคือจะอยู่เหนือเส้นขอบฟ้าของดวงจันทร์เป็นเวลานานหากมองจากขั้วใต้ สิ่งนี้เป็นประโยชน์กับนักบินอวกาศที่กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ ณ ขั้วใต้ของดวงจันทร์ เพราะสามารถติดต่อสื่อสารกับสถานีได้เป็นระยะเวลานาน ในขณะที่เมื่อยานโคจรเข้ามาใกล้บริเวณขั้วเหนือซึ่งจะมีคาบการโคจรที่เร็ว แต่มีระยะห่างจากพื้นผิวดวงจันทร์ไม่มากนักจะเอื้ออำนวยในการส่งยานอวกาศขึ้นและลงจากพื้นผิวของดวงจันทร์ ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงและระยะเวลาในการเดินทางระหว่างขั้วใต้ของดวงจันทร์และเกตเวย์ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2022 นาซาได้ส่งยานอวกาศชื่อว่าแคปสโตน (CAPSTONE) เดินทางไปทดลองโคจรในวงโคจร100 รับ 100 ล่าสุดดังกล่าว เพื่อฝึกซ้อมการปฏิบัติงานควบคุมเกตเวย์ ซึ่งภารกิจก็เป็นไปได้ด้วยดี การเดินทางไปยังเกตเวย์จากโลçกนั้น นับว่ามีความท้าทายเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวยานอวกาศจำเป็นต้องใช้เชื้อเพลิงมากกว่าการเดินทางไปยังสถานีอวกาศนานาชาติหลายเท่า ซึ่งทำให้จำเป็นต้องใช้จรวดขนส่งขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม นาซาได้มีการว่าจ้างให้บริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ศึกษาและพัฒนายานอวกาศ ดรากอน เอ็กซ์แอล (Dragon XL) เป็นยานอวกาศหลักในการขนส่งเสบียงให้กับเกตเวย์ โดยตัวยานดรากอนรุ่นใหม่นี้เมื่อใช้ร่วมกับจรวดฟัลคอนเฮฟวี (Falcon Heavy) จะสามารถนำส่งสัมภาระหนักกว่า 5,000 กิโลกรัมสู่วงโคจรของดวงจันทร์ได้ ส่วนการขนส่งมนุษย์นั้นนาซาตั้งเป้าจะใช้ยานอวกาศโอไรออน (Orion) ที่จะเป็นพาหนะหลักในการเดินทางระหว่างโลกกับดวงจันทร์ของมนุษย์ ซึ่งนาซาใช้เวลาวิจัยและพัฒนานานนับทศวรรษ แต่ยานโอไรออนนั้นไม่ได้มีความสามารถในการลงจอดบนผิวของดวงจันทร์ ทำให้การเดินทางระหว่างเกตเวย์และผิวของดวงจันทร์จำเป็นต้องใช้บริการยานอวกาศรุ่นใหม่ของสเปซเอ็กซ์ ได้แก่ ยานสตาร์ชิป (Starship) ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา ทั้งหมดนี้จะประกอบสร้างเป็นกระบวนขั้นตอนในการเดินทางระหว่างโลก เกตเวย์ และผิวดวงจันทร์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักบินอวกาศได้ศึกษา วิจัย และสร้างการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดวงจันทร์ของมนุษย์ และยังเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การสำรวจอวกาศที่ไกลออกไป เช่น การสำรวจดาวอังคาร นาซาตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถส่งโมดูลแรกของเกตเวย์ขึ้นสู่วงโคจรได้ภายในปี ค.ศ. 2026 โดยนักบินอวกาศกลุ่มแรกที่จะได้ใช้งานสถานีอวกาศแห่งใหม่นี้ก็ได้แก่นักบินอวกาศในภารกิจอาร์ทิมิส 4 ที่มาข้อมูลและภาพ: NASA“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
โครงการอาร์ทิมิส (Artemis) ที่นาซาประกาศจัดตั้งร่วมกับหน่วยงานอวกาศพันธมิตรทั่วโลก กลายเป็นแรงผลักดั
ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา มีข่าวปรากฏผ่านสื่อเกี่ยวกับการลงโทษนักเรียนโดยใช้วิธีการที่ไม่เหมาะส
วันนี้ (2 ธ.ค.2565) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19
โครงการอาร์ทิมิส (Artemis) ที่นาซาประกาศจัดตั้งร่วมกับหน่วยงานอวกาศพันธมิตรทั่วโลก กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้กับเทคโนโลยีอวกาศในยุคปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามเป้าหมายของโครงการนั้นไม่ได้เป็นเพียงการพามนุษย์กลับสู่ดวงจันทร์ในปี ค.ศ. 2025 แต่เป็นการวางรากฐานสู่การสำรวจอวกาศในระยะยาว รวมถึงโจทย์การออกแบบสถานีอวกาศที่โคจรอยู่ในอวกาศห้วงลึก (Deep Space) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเดินทางสู่ดาวอังคารในอนาคต และโครงสร้างพื้นฐานสุดสำคัญในโครงการอาร์ทิมิสที่จะอยู่คู่กับวงการอวกาศไปอีกไม่ต่ำกว่า 10 ปี ก็ได้แก่ ลูนาร์เกตเวย์ (Lunar Gateway) สถานีอวกาศที่ถูกออกแบบให้โคจรรอบดวงจันทร์และเป็นฐานที่มั่นบนวงโคจรให้กับนักบินอวกาศที่ปฏิบัติภารกิจบนผิวดวงจันทร์ ในบางครั้งนาซาจะเรียกสถานีอวกาศแห่งใหม่นี้สั้น ๆ ว่าเกตเวย์ ลูนาร์เกตเวย์ เป็นสถานีอวกาศในลักษณะโมดูลาร์ (Modular) เกิดจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับที่ใช้สร้างสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station) อย่างไรก็ตามเกตเวย์นั้นมีจำนวนโมดูลน้อยกว่าสถานีอวกาศนานาชาติในแบบแผนการออกแบบแรกนี้ แต่ในอนาคตหากมีความจำเป็นก็จะสามารถต่อเติมเพื่อรองรับจำนวนนักบินอวกาศและภารกิจการทดลองที่เพิ่มมากขึ้นได้ ชิ้นส่วนสำคัญที่เป็นหัวใจให้กับเกตเวย์นั้น ได้แก่ ส่วนพลังงานและระบบขับดัน (Power and Propulsion Element) ที่จะเป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าผ่านแผงโซลาร์อาเรย์ขนาดใหญ่ และเป็นที่อยู่ของเครื่องยนต์หลักให้กับสถานีในการใช้ปรับวงโคจร ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องยนต์อิออน (Ion Engine) ไม่ได้เป็นเครื่องสันดาปเชื้อเพลิงเหมือนกับสถานีอวกาศนานาชาติ ในขณะที่ฮาโล (Habitation and Logistic Outpost - HALO) และไอแฮบ (International Habitation Module - I-HAB) จะเป็นที่อยู่ให้กับนักบินอวกาศในการใช้ชีวิตและปฏิบัติงานวิจัย นอกจากนี้จะยังมีโมดูลอื่น ๆ ที่จำเป็นในการทำงานมากกว่า 4 โมดูล และเช่นเดียวกับสถานีอวกาศนานาชาติ เกตเวย์นับว่าเป็นความร่วมมือของหน่วยงานอวกาศต่าง ๆ ที่เป็นพันธมิตรกับนาซา และแต่ละหน่วยงานก็จะพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองเพื่อมาร่วมประกอบสร้างสถานีอวกาศแห่งใหม่นี้ โดยชาติที่เข้าร่วมสร้างโมดูลต่าง ๆ ก็ได้แก่ "องค์การอวกาศยุโรป" (ESA) "องค์การอวกาศญี่ปุ่น" (JAXA) ในขณะที่ "องค์การอวกาศแคนาดา" (CSA) รับหน้าที่ออกแบบแขนกลรุ่นใหม่สำหรับใช้งานนอกตัวสถานี เกตเวย์ถูกออกแบบให้โคจรอยู่ในวงโคจรที่เรียกว่า Near Rectilinear Halo Orbit (NRHO) มีลักษณะเป็นวงรี ตัดผ่านขั้วเหนือและใต้ของดวงจันทร์ โค้งเข้าใกล้พื้นผิวของดวงจันทร์มากที่สุดฝั่งขั้วเหนือ และออกห่างจากผิวดวงจันทร์มากที่สุดที่ขั้วใต้ เหตุผลที่ออกแบบเช่นนี้ก็เพราะเป็นการใช้ประโยชน์จากกฎฟิสิกส์วงโคจรที่เมื่อวัตถุโคจรห่างจากจุดศูนย์กลางเท่าใด ระยะเวลาที่ใช้ในการโคจรก็จะมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเกตเวย์จะมีช่วงการโคจรเหนือขั้วใต้ของดวงจันทร์มากกว่า กล่าวคือจะอยู่เหนือเส้นขอบฟ้าของดวงจันทร์เป็นเวลานานหากมองจากขั้วใต้ สิ่งนี้เป็นประโยชน์กับนักบินอวกาศที่กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ ณ ขั้วใต้ของดวงจันทร์ เพราะสามารถติดต่อสื่อสารกับสถานีได้เป็นระยะเวลานาน ในขณะที่เมื่อยานโคจรเข้ามาใกล้บริเวณขั้วเหนือซึ่งจะมีคาบการโคจรที่เร็ว แต่มีระยะห่างจากพื้นผิวดวงจันทร์ไม่มากนักจะเอื้ออำนวยในการส่งยานอวกาศขึ้นและลงจากพื้นผิวของดวงจันทร์ ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงและระยะเวลาในการเดินทางระหว่างขั้วใต้ของดวงจันทร์และเกตเวย์ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2022 นาซาได้ส่งยานอวกาศชื่อว่าแคปสโตน (CAPSTONE) เดินทางไปทดลองโคจรในวงโคจร100 รับ 100 ล่าสุดดังกล่าว เพื่อฝึกซ้อมการปฏิบัติงานควบคุมเกตเวย์ ซึ่งภารกิจก็เป็นไปได้ด้วยดี การเดินทางไปยังเกตเวย์จากโลçกนั้น นับว่ามีความท้าทายเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวยานอวกาศจำเป็นต้องใช้เชื้อเพลิงมากกว่าการเดินทางไปยังสถานีอวกาศนานาชาติหลายเท่า ซึ่งทำให้จำเป็นต้องใช้จรวดขนส่งขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม นาซาได้มีการว่าจ้างให้บริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ศึกษาและพัฒนายานอวกาศ ดรากอน เอ็กซ์แอล (Dragon XL) เป็นยานอวกาศหลักในการขนส่งเสบียงให้กับเกตเวย์ โดยตัวยานดรากอนรุ่นใหม่นี้เมื่อใช้ร่วมกับจรวดฟัลคอนเฮฟวี (Falcon Heavy) จะสามารถนำส่งสัมภาระหนักกว่า 5,000 กิโลกรัมสู่วงโคจรของดวงจันทร์ได้ ส่วนการขนส่งมนุษย์นั้นนาซาตั้งเป้าจะใช้ยานอวกาศโอไรออน (Orion) ที่จะเป็นพาหนะหลักในการเดินทางระหว่างโลกกับดวงจันทร์ของมนุษย์ ซึ่งนาซาใช้เวลาวิจัยและพัฒนานานนับทศวรรษ แต่ยานโอไรออนนั้นไม่ได้มีความสามารถในการลงจอดบนผิวของดวงจันทร์ ทำให้การเดินทางระหว่างเกตเวย์และผิวของดวงจันทร์จำเป็นต้องใช้บริการยานอวกาศรุ่นใหม่ของสเปซเอ็กซ์ ได้แก่ ยานสตาร์ชิป (Starship) ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา ทั้งหมดนี้จะประกอบสร้างเป็นกระบวนขั้นตอนในการเดินทางระหว่างโลก เกตเวย์ และผิวดวงจันทร์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักบินอวกาศได้ศึกษา วิจัย และสร้างการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดวงจันทร์ของมนุษย์ และยังเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การสำรวจอวกาศที่ไกลออกไป เช่น การสำรวจดาวอังคาร นาซาตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถส่งโมดูลแรกของเกตเวย์ขึ้นสู่วงโคจรได้ภายในปี ค.ศ. 2026 โดยนักบินอวกาศกลุ่มแรกที่จะได้ใช้งานสถานีอวกาศแห่งใหม่นี้ก็ได้แก่นักบินอวกาศในภารกิจอาร์ทิมิส 4 ที่มาข้อมูลและภาพ: NASA“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
โครงการอาร์ทิมิส (Artemis) ที่นาซาประกาศจัดตั้งร่วมกับหน่วยงานอวกาศพันธมิตรทั่วโลก กลายเป็นแรงผลักดั
สิ่งอำนวยความสะดวก
การตกแต่ง
เครื่องปรับอากาศ
ชั้นบน
เตาอบ/ไมโครเวฟ
ความสะดวกโดยรอบ
กล้องวงจรปิด
เครืองปรับอากาศ
โถงรอลิฟท์ร้านอาหาร
ทางเข้าหลัก
ยอดสินเชื่อโดยประมาณ
รายละเอียดสินเชื่อ
ยอดสินเชื่อที่ต้องชำระต่อเดือนโดยประมาณ
฿ 0 / เดือน
฿ 0 เงินต้น
฿ 0 ดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายที่อาจต้องมีเบื้องต้น
เงินดาวน์ทั้งหมด
฿ 0
เงินดาวน์
จำนวนสินเชื่อ ฿ 0 ในอัตรา 0% ของสินเชื่อต่อราคาบ้าน (Loan-to-value)
วันนี้ (8 ก.พ.2566) ร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร หรือผู

จากกรณีมีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภูทับเบิก โพสต์ในโซเชียลว่า พบการก่อสร้างรีสอร์ตและอาคารที่พักใกล้กับผาหัวสิงห์ ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ทำให้บดบังทัศนียภาพอันสวยงามของผาหัวสิงห์ วันนี้ (28
ดูรายละเอียดโครงการคำถามที่พบบ่อย
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2565 พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที
วันนี้ 31 มี.ค.2564 เวลา 14.00 น. สภ.ท่าพระ ได้ฝึกยุทธวิธีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ณ ถนนมิตรภาพขาล่อง
วันนี้ (24 เม.ย.2567) พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นหนังสื
วันนี้ (14 เม.ย.2564) จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวนมาก เชื่อมโยงคลัสเตอร์สถานบันเทิ
วันนี้ (15 ส.ค.2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ต้องเดินทางกลับ จากปฏิบัติภารกิจที่ต่า
ค้นหาประกาศอื่นรอบๆ ทุ่งพญาไท
จากสิ่งที่คุณค้นหา คุณอาจจะสนใจตัวเลือกต่อไปนี้
gclub online ผ่าน เว็บ