ภาพการลงพื้นที่หาเสียง นายก อบจ. และ สมาชิกสภา อบจ.ของแกนนำพรรคการเมืองคนสำคัญ โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินกçีฬา วัน นี้,x;
กรณีเกิดเหตุเยาวชนชาย 19 ปีถูกวัยรุ🏉🤺⛹️♂️่นฝาแฝด ตามประกบยิง📦เสียชีวิตบนถนนอ่อนนุช 🏖️โดยไม่ทราบสาเหตุ ล่าสุดตำรวจแกะรอยภาพ🎷จากกล้องวงจรปิด พบหลัก🌏ฐานนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุ ภาพวงจรปิดร้านค้าแห่งหนึ่ง ตรงข้า🤖มป
วันนี้ (19 ธ.ค.2565) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว ประชาชนอาจป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หลอดลมอักเสบและปอดบวม ซึ่งนอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นแล้ว การเตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญ กรมอนามัยจึงแนะนำให้ประชาชนออกกำลังกายตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มความอบอุ่น และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย 1.เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี ควรเน้นการออกกำลังกายที่สนุกสæนาน เพื่อให้เด็กใช้เวลาได้นาน ไม่เบื่อหน่าย เช่น วิ่งเก็บของ วิ่งเปี้ยว การละเล่นไทยต่าง ๆ หรือกายบริหารประกอบเพลง ซึ่งเด็กวัยนี้ควรเน้นความสนุกมากกว่าการเอาชนะ 2.ช่วงอายุ 6-17 ปี เป็นช่วงอายุที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มีพัฒนาการที่สมวัย สูงสมส่วน และมีร่างกายแข็งแรง ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 60 นาที (สะสมต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป) สามารถออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ เน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นหลัก เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดตบ กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ บาสเกตบอล ฟุตบอล เป็นต้น ร่วมกับ การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและควากีฬา วัน นี้มอดทนของกล้ามเนื้อ เช่น ซิตอัป ดันพื้น แพลงก์ สควอช โหนบาร์ ยกดัมเบล เป็นต้น และการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความอ่อนตัว เช่น จิงโจ้ยืดตัว กายบริหาร ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โยคะ เป็นต้น 3.วัยทำงานช่วงอายุ 18-59 ปี ควรออกกำลังกายให้หลากหลายเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน แบดมินตัน วัยนี้กล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ และเส้นเอ็นต่าง ๆ เริ่มเสื่อมสภาพลง จึงควรออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที โดยการเดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ เต้นแอโรบิก 4.ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป ความคิด การตัดสินใจช้าลง กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อ การรับรู้ช้าลง มีภาวะสมองเสื่อม จึงควรออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น การเดิน เต้นรำ บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ให้แข็งแรง ควบคู่กับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ 2 วันต่อสัปดาห์ มีการออกกำลังกายฝึกการทรงตัว อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เช่น เต้นบาสโลบ ฟ้อนรำ รำวง รำไท่จี้ชี่กง กิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพ เป็นการฝึกการทรงตัว เพื่อป้องกันการหกล้ม ทั้งนี้ ทุกกลุ่มวัยควรพักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารประเภทผักและผลไม้สด ที่มีวิตามินซีสูงเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และเนื่องจากช่วงอากาศเย็นจะทำให้อาหารจับตัวเป็นไข ก่อนการบริโภค จึงควรนำไปอุ่นให้ร้อน เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร และเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายด้วย อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "เหนือ-อีสาน" อุณหภูมิลดอีก 2-4 องศาฯ - ใต้ฝนหนัก คลื่นลมแรง กทม.หนาวแน่! อุณหภูมิต่ำสุด 14 องศาฯ
ว🦙ันนี้ (6 ม.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ🍿วัน🎶แรกของก🦙ารรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส🎖❤️️.ส.เขต 9 กทม. "หลักส
มากกว่า 70% ของพื้นผิวโลกเป็นมหาสมุทร แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือäใต้ท้องçทะเลกลับ,เต็มไปด้วย "ขยะพลาสติก" ทçี
กีฬา วัน นี้-เกมattack on titan ,ออนไลน์-บาคาร่า แจกเครดิตฟรี 2022
ภาพการลงพื้นที่หาเสียง นายก อบจ. และ สมาชิกสภา อบจ.ของแกนนำพรรคการเมืองคนสำคัญ โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินกçีฬา วัน นี้,x;
กรณีเกิดเหตุเยาวชนชาย 19 ปีถูกวัยรุ🏉🤺⛹️♂️่นฝาแฝด ตามประกบยิง📦เสียชีวิตบนถนนอ่อนนุช 🏖️โดยไม่ทราบสาเหตุ ล่าสุดตำรวจแกะรอยภาพ🎷จากกล้องวงจรปิด พบหลัก🌏ฐานนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุ ภาพวงจรปิดร้านค้าแห่งหนึ่ง ตรงข้า🤖มป
วันนี้ (19 ธ.ค.2565) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว ประชาชนอาจป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หลอดลมอักเสบและปอดบวม ซึ่งนอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นแล้ว การเตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญ กรมอนามัยจึงแนะนำให้ประชาชนออกกำลังกายตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มความอบอุ่น และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย 1.เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี ควรเน้นการออกกำลังกายที่สนุกสæนาน เพื่อให้เด็กใช้เวลาได้นาน ไม่เบื่อหน่าย เช่น วิ่งเก็บของ วิ่งเปี้ยว การละเล่นไทยต่าง ๆ หรือกายบริหารประกอบเพลง ซึ่งเด็กวัยนี้ควรเน้นความสนุกมากกว่าการเอาชนะ 2.ช่วงอายุ 6-17 ปี เป็นช่วงอายุที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มีพัฒนาการที่สมวัย สูงสมส่วน และมีร่างกายแข็งแรง ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 60 นาที (สะสมต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป) สามารถออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ เน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นหลัก เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดตบ กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ บาสเกตบอล ฟุตบอล เป็นต้น ร่วมกับ การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและควากีฬา วัน นี้มอดทนของกล้ามเนื้อ เช่น ซิตอัป ดันพื้น แพลงก์ สควอช โหนบาร์ ยกดัมเบล เป็นต้น และการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความอ่อนตัว เช่น จิงโจ้ยืดตัว กายบริหาร ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โยคะ เป็นต้น 3.วัยทำงานช่วงอายุ 18-59 ปี ควรออกกำลังกายให้หลากหลายเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน แบดมินตัน วัยนี้กล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ และเส้นเอ็นต่าง ๆ เริ่มเสื่อมสภาพลง จึงควรออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที โดยการเดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ เต้นแอโรบิก 4.ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป ความคิด การตัดสินใจช้าลง กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อ การรับรู้ช้าลง มีภาวะสมองเสื่อม จึงควรออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น การเดิน เต้นรำ บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ให้แข็งแรง ควบคู่กับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ 2 วันต่อสัปดาห์ มีการออกกำลังกายฝึกการทรงตัว อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เช่น เต้นบาสโลบ ฟ้อนรำ รำวง รำไท่จี้ชี่กง กิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพ เป็นการฝึกการทรงตัว เพื่อป้องกันการหกล้ม ทั้งนี้ ทุกกลุ่มวัยควรพักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารประเภทผักและผลไม้สด ที่มีวิตามินซีสูงเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และเนื่องจากช่วงอากาศเย็นจะทำให้อาหารจับตัวเป็นไข ก่อนการบริโภค จึงควรนำไปอุ่นให้ร้อน เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร และเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายด้วย อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "เหนือ-อีสาน" อุณหภูมิลดอีก 2-4 องศาฯ - ใต้ฝนหนัก คลื่นลมแรง กทม.หนาวแน่! อุณหภูมิต่ำสุด 14 องศาฯ
ว🦙ันนี้ (6 ม.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ🍿วัน🎶แรกของก🦙ารรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส🎖❤️️.ส.เขต 9 กทม. "หลักส
มากกว่า 70% ของพื้นผิวโลกเป็นมหาสมุทร แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือäใต้ท้องçทะเลกลับ,เต็มไปด้วย "ขยะพลาสติก" ทçี