แนะรัฐบาลให้ความสำคัญการออมเงินของผู้สูงวัย นักวิชาการทีดีอาร์ไอเสนอรัฐบาลให้ความสำคัญในการบริการจัด
วันนี้ (18 มี.ค.2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 11 ประจำปี 2568 วันที่ 18 มี.ค.2568 นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในการประชุม ในการประชุมคณะร
แนะรัฐบาลให้ความสำคัญการออมเงินของผู้สูงวัย นักวิชาการทีดีอาร์ไอเสนอรัฐบาลให้ความสำคัญในการบริการจัดการเå¦åงินออมสำหรับผู้สูงอายุ หลังพบว่าไม่มีการออมเงินในระยะยาวและอาจสร้างปัญหาในการดูแลผู้สูงอายุในอนาคต แนะรัฐบาลให้ความสำคัญการออมเงินของผู้สูงวัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ เสนอผลการศึกษาบัญชีการโอนประชาชาติ หรือเอ็นทีเอ ซึ่งเป็นบัญชีรายได้ที่มีการวัดรายละเอียดด้านประชากร โดยเฉพาะรายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อการบริโภค และการโอนเงินในวัยต่างๆ ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งสูงอายุอย่างเป็นระบบ ในปี 2009 เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยทีMetacritic game่เŸäริ่มตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งมีผู้สูงอายุกว่า 8 ล้านคน จากประชากร 67.4 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 11.9 โดยจากการเปรียบเทียบบัญชีการโอนประชาชาติระหว่างประชากรในเขตเมืองและชนบทพบว่า ผู้สูงอายุไม่ได้พึ่งพาเงินเกื้อหนุนจากลูกเพียงอย่างเดียว แต่กล›ç”ับต้องทำงานและนำรายได้จากสินทรัพย์มาใช้จ่าย ซึ่งผู้สูงอายุในชนบทใช้รายได้ทั้งหมดไปกับการใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว ขณะที่ผู้สูงอายุในเมืองส่วนใหญ่ยังมีเงินเก็บและเป็นผู้เกื้อหนุนสังคมผ่านการเสียภาษี ด��ังนั้นหากกลุ่มคนวัยทำงานไม่รีบเก็บออมหรือสะสมสินทรัพย์ ก็จะสร้างปัญหาในการดูแลผู้สูงอายุ เพราะในอนาคตสัดส่วนในการดูแลผู้สูงอายุของคนวัยทำงาน ซึ่งคนวัยทำงาน 4 คน เลี้ยงดูผู้สูงอายุ 1 คน จะลดลงไปเป็นคนวัยทำงาน 1.6 คน ดูแลผู้สูงอายุ 1 คน รศ.มัทนา พนานิรามัย ผู้ดำเนินการศึกษา เสนอว่า รัฐบาลควรเข้ามามีส่วนในการจัดการเรื่องของการออมให้ประชากรมีเงินออมให้เพียงพอตลอดชีวิต เช่น การควบคุมอัตราเงินเฟ้อ หรือการจัดการสินทรัพย์ของคนในชนบท เช่น ที่ดินให้มีความคล่องตัว
วันนี้ (1 มิ.ย.2567) นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้เปิดให้มีการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน ในขบวนรถด่วนพิเศษและขบวนรถด่วน จ
