จากกรณีโซเชียลโพสต์ภาพเหตุการณ์ขณะรถเก๋งขับออกจากคอนโดมิเนียม และชนนักชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และนักเรียนหญิง 2 คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 บาดเจ็บรวม 3 คน บริเวณทางม้าลายหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านพญาไท
วันนี้ (13 พ.ค.2564) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ไทยพบผู้ติดเชื้อ COVI
วันนี้ (28 ธ.ค.2565) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการการจราจรและป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 คาดว่า ช่วงวันที่ 29 ธ.ค.65 - 4 ม.ค.
ม.บูรพา สร้างTrafficEyes รายงานจราจรทั่วกรุง ผ่านเว็บไซต์-มือถือ-เฟซบุ๊ค หน่วยวิจัยโลจิสติกส์และวิศวกรรมสมองกลฝังตัว BAL-Labs หน่วยงานในสังกัด คณะโลจิสติกส์และภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยบูรพา คิดค้นวิจัยนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยี TrafficEyes หรือ ดวงตาเคลื่อนที่ ใช้ประเมินข้อมูลจราจรในโครงข่ายถนนในกรุงเทพและปริมณฑลแบบเรียลไทม์ ม.บูรพา สร้างTrafficEyes รายงานจราจรทั่วกรุง ผ่านเว็บไซต์-มือถือ-เฟซบุ๊ค ผศ.วิรุฬห์ ศรีบริรักษ์ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ผมและรศ. ดร. ณกร อินทร์พยุง ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัยและกิจการพิเศษ คณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา คิดว่าน่าจะนำระบบโลจิสติกส์และวิศวกรรมมารวมกัน จึงจัดตั้งหน่วยวิจัยโลจิสติกส์และวิศวกรรมสมองกลฝังตัว (BAL-Labs.com) ขึ้นมา โดยเน้นสนับสนุนงานด้านเบื้องหลังเป็นผู้สนับสนุนด้านการวิจัยนวัตกรรม¬ç§และพัฒนาเทคโนโลยีโลจิสติกส์โซลูชั่นสำหรับมหานครกรุงเทพฯ ซึ่งทางเราได้มีการร่วมมือกับบริษัท เดอะโลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเกิดจากการร่วมมือทางธุรกิจกันระหว่าง กลุ่มบริษัทไทยเอซ (แท็กซี่สีฟ้า-1681) และ บริษัทเซ้าท์อี๊สเอเซียเทคโนโลยี่ (ซีเทค) โดยได้รับทุนวิจัยจากหน่วยศูนย์เทคโนโลยีอิเลิกทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติประเทศไทย (NECTEC) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) พัฒนาระบบประเมินข้อมูลจราจรในโครงข่ายถนนในกรุงเทพและปริมณฑลแบบเรียลไทม์ผ่านทางเว็ปไซต์และมือถือ เป็นแหล่งข้อมูลที่ได้จากระบบโครงข่ายอาร์เอฟไอดีและข้อมูลจีพีเอสจากรถแท็กซี่สีฟ้าจำนวนมากกว่า 18,000 คัน รวมทั้ง จากแหล่งข้อมูลจราจรอื่นๆ เช่น จากรถบรรทุกขนส่งและกระจายสินค้าในกรุงเทพฯ ระบบเซ็นเซอร์พิเศษ และข้อมูลอาสาสมัคร TrafficEyes สำหรับหลักการทำงานนั้นจะมี 2 ส่วนคือ เครื่องรับสัญญาณ (B-Base) และเครื่องส่งสัญญาณ (B-Mov) โดย B-Base จะเป็นอุปกรณ์ที่ติดอยู่กับตู้โทรศัพท์ทีโอทีกว่า 150 จุด ทุกระยะประมาณ 1 -2 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลักทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งจะทำหน้าที่รับสัญญาณจาก B-Mov ที่ติดอยู่กับรถเมื่อรถวิ่งผ่าน จากนั้น B-Base ก็จะส่งสัญญาณผ่านไปยังศูนย์ เพื่อตรวจจับตำแหน่งและการเคลื่อนที่ของรถ เพื่อใช้ในการจัดการเดินรถให้กับผู้ให้บริการ และระบบประมวลผลกลางก็จะนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อหาเวลาที่ใช้ในการเดินทาง และการช่วยแจ้งสถานะการเดินรถให้กับผู้ใช้ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยจะนำขึ้นเว็บไซต์เพื่อรายงานการจราจรให้ประชาชนสามารถเข้าไปดูได้แบบเรียลไทม์และสามารถดูย้อนหลังได้ เพื่อช่วยในการเลือกเส้นทางและคำนวณเวล��าในการเดินทาง ทั้งนี้ หากมีรถยนต์ติด B-Mov มากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้การคำนวณแม่นยำมากยิ่งขึ้น และสำหรับค่าใช้จ่ายอุปกรณ์นั้นถ้าเป็นตัวรับสัญญาณ (B-Base) จะอยู่ที่ตัวละประมาณ 20,000 บาท โดยสามารถนำไปติดตั้ง ณ ที่ใดก็ได้ และ เครื่องส่งสัญญาณ (B-Mov) จะอยู่ที่ตัวละ 300-500 บาท นอกจากนั้นข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่เป็นพิกัดและความเร็วของรถ (GPS) ที่ได้มาจากกลุ่มบริษัทไทยเอซ ซึ่งมีแท็กซี่ที่เป็นสมาชิกประมาณ 18,000 คัน ซึ่งถูกส่งผ่านระบบวิทยุสื่อสารระหว่างศูนย์ควบคุมกลางและรถแท็กซี่ผ่าน GPRS/Dedicated Radio เข้าสู่ระบบประมวลผลกลาง ที่ทาง BAL-labs เป็นผู้พัฒนาหน่วยประมวลผลกลาง (Fusion Data Engine) จนในที่สุดระบบก็สามารถได้ข้อมูลจราจรในทุกๆ 5 นาที (5-min interval) ในโครงข่ายถนนในกรุงเทพฯมากกว่า 3,000 เส้นทาง และเปิดให้ใช้งานในเชิงสาธารณะได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ http://www.trafficeyes.net (Fully support Chrome and Safari browsers), TrafficEyes สำหรับ Android mobile และ http://www.facebook.com/TrafficEyes.Net ส่วนประโยชน์ของ TrafficEyes หรือ ดวงตาเคลื่อนที่ นั้นจะช่วยให้เลือกเส้นทางใ,นการเดินทางได้โดยสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางที่การจราจรหนาแน่น, สามารถคำนวณเวลาในการรอรถหรือเวลาในการเดินทางได้และสามารถช่วยสร้างประยุกต์ในการนำไปใช้ในด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้ในอนาคต ผศ.วิรุฬห์ ศรีบริรักษ์ กล่าวว่า ในอนาคตทางเรากำลังจะมีการพัฒนาระบบฯ ให้มีขนาดเล็กกระทัดรัดและใช้พลังงานน้อยสามารถพกพาได้ เพื่อนำมาใช้กับคนโดยเฉพาะคนแก่ โดยจะทำเป็นรูปแบบนาฬิกาข้อมือหรือสร้อยคล้องคอ ซึ่งจะช่วยบอกตำแหน่งเวลามีคนหลงทางหรือสูญหายได้ ผศ.วิรุฬห์ ศรีบริรักษ์ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ผมและรศ. ดร. ณกร อินทร์พยุง ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัยและกิจการพิเศษ คณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา คิดว่าน่าจะนำระบบโลจิสติกส์และวิศวกรรมมารวมกัน จึงจัดตั้งหน่วยวิจัยโลจิสติกส์และวิศวกรรมสมองกลฝังตัว (BAL-Labs.com) ขึ้นมา โดยเน้นสนับสนุนงานด้านเบื้องหลังเป็นผู้สนับสนุนด้านการวิจัยนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยีโลจิสติกส์โซลูชั่นสำหรับมหานครกรุงเทพฯ ซึ่งทางเราได้มีการร่วมมือกับบริษัท เดอะโลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเกิดจากการร่วมมæือทางธุรกิจกันระหว่าง กลุ่มบริษัทไทยเอซ (แท็กซี่สีฟ้า-1681) และ บริษัทเซ้าท์อี๊สเอเซียเทคโนโลยี่ (ซีเทค) โดยได้รับทุนวิจัยจากหน่วยศูนย์เทคโนโลยีอิเลิกทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติประเทศไทย (NECTEC) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) พัฒนาระบบประเมินข้อมูลจราจรในโครงข่ายถนนในกรุงเทพและปริมณฑลแบบเรียลไทม์ผ่านทางเว็ปไซต์และมือถือ เป็นแหล่งข้อมูลที่ได้จากระบบโครงข่ายอาร์เอฟไอดีและข้อมูลจีพีเอสจากรถแท็กซี่สีฟ้าจำนวนมากกว่า 18,000 คัน รวมทั้ง จากแหล่งข้อมูลจราจรอื่นๆ เช่น จากรถบรรทุกขนส่งและกระจายสินค้าในกรุงเทพฯ ระบบเซ็นเซอร์พิเศษ และข้อมูลอาสาสมัคร TrafficEyes สำหรับหลักการทำงานนั้นจะมี 2 ส่วนคือ เครื่องรับสัญญาณ (B-Base) และเครื่องส่งสัญญาณ (B-Mov) โดย B-Base จะเป็นอุปกรณ์ที่ติดอยู่กับตู้โทรศัพท์ทีโอทีกว่า 150 จุด ทุกระยะประมาณ 1 -2 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลักทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งจะทำหน้าที่รับสัญญาณจาก B-Mov ที่ติดอยู่กับรถเมื่อรถวิ่งผ่าน จากนั้น B-Base ก็จะส่งสัญญาณผ่านไปยังศูนย์ เพื่อตรวจจับตำแหน่งและการเคลื่อนที่ของรถ เพื่อใช้ในการจัดการเดินรถให้กับผู้ให้บริการ และระบบประมวลผลกลางก็จะนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อหาเวลาที่ใช้ในการเดินทาง และการช่วยแจ้งสถานะการเดินรถให้กับผู้ใช้ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยจะนำขึ้นเว็บไซต์เพื่อรายงานการจราจรให้ประชาชนสามารถเข้าไปดูได้แบบเรียลไทม์และสามารถดูย้อนหลังได้ เพื่อช่วยในการเลือกเส้นทางและคำนวณเวลาในการเดินทาง ทั้งนี้ หากมีรถยนต์ติด B-Mov มากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้การคำนวณแม่นยำมากยิ่งขึ้น และสำหรับค่าใช้จ่ายอุปกรณ์นั้นถ้าเป็นตัวรับสัญญาณ (B-Base) จะอยู่ที่ตัวละประมาณ 20,000 บาท โดยสามารถนำไปติดตั้ง ณ ที่ใดก็ได้ และ เครื่องส่งสัญญาณ (B-Mov) จะอยู่ที่ตัวละ 300-500 บาท นอกจากนั้นข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่เป็นพิกัดและความเร็วของรถ (GPS) ที่ได้มาจากกลุ่มบริษัทไทยเอซ ซึ่งมีแท็กซี่ที่เป็นสมาชิกประมาณ 18,000 คัน ซึ่งถูกส่งผ่านระบบวิทยุสื่อสารระหว่างศูนย์ควบคุมกลางและรถแท็กซี่ผ่าน GPRS/Dedicated Radio เข้าสู่ระบบประมวลผลกลาง ที่ทาง BAL-labs เป็นผู้พัฒนาหน่วยประมวลผลกลาง (Fusion Data Engine) จนในที่สุดระบบก็สามารถได้ข้อมูลจราจรในทุกๆ 5 นาที (5-min interval) ในโครงข่ายถนนในกรุงเทพฯมากกว่า 3,000 เส้นทาง และเปิดให้ใช้งานในเชิงสาธารณะได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ http://www.trafficeyes.net (Fully support Chrome and Safari browsers), TrafficEyes สำหรับ Android mobile และ http://www.facebook.com/TrafficEyes.Net ส่วนประโยชน์ของ TrafficEyes หรือ ดวงตาเคลื่อนที่ นั้นจะช่วยให้เลือกเส้นทางในการเดินทางได้โดยสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางที่การจราจรหนาแน่น, สามารถคำนวณเวลาในการรอรถหรือเวลาในการเดินทางได้และสามารถช่วยสร้างประยุกต์ในการนำไปใช้ในด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้ในอนาคต ผศ.วิรุฬห์ ศรีบริรักษ์ กล่าวว่า ในอนาคตทางเรากำลังจะมีการพัฒนาระบบฯ ให้มีขนาดเล็กกระทัดรัดและใช้พลังงานน้อยสามารถพกพาได้ เพื่อนำมาใช้กับคนโดยเฉพาะคนแก่ โดยจะทำเป็นรูปแบบนาฬิกาข้อเว็บ พนัน ออนไลน์ ท รู วอ ล เล็ ตมือหรือสร้อยคล้องคอ ซึ่งจะช่วยบอกตำแหน่งเวลามีคนหลงทางหรือสูญหายได้
ม.บูรพา สร้างTrafficEyes รายงานจราจรทั่วกรุง ผ่านเว็บไซต์-มือถือ-เฟซบุ๊ค หน่วยวิจัยโลจิสติกส์และวิศวกรรมสมองกลฝังตัว BAL-Labs หน่วยงานในสังกัด คณะโลจิสติกส์และภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยบูรพา คิด
- เว็บ พนัน ออนไลน์ ท รู วอ ล เล็ ต
- ib888 ดาวน์โหลด888superslot รวมโปรสล็อต joker
- เกมสล็อตคาสิโนgarena
- เว็บ w88 ฝากถอน ไม่มี ขั้นต่ำ
- ตรวจ หวย ลาว วี ไอ พี วัน นี้ ตรวจ หวย ลาว วี ไอ พี วัน นี้
- ทีม ชาติ อา ร์ เจน ติ น่า