"โควิด" ยังพีคป่วย 3,256 ตาย 16 คนจับตาช่วงก.ค.นี้

ความคืบหน้ากรณีโรงงานแวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเกิดไฟไหม้เมื่อช่วงกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ถูกตรวจสอบปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรม วันนี้ (30

วันที่ (28 ส.ค.2564) นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมควบคุม

แต่ที่มาแรงแซงโค้ง คือ คำร้องของนักร้องเรียนที่ยื่นผ่านกกต. ระบุพฤติการณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร รวมทั้ง แกนนำ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ที่ไปร่วมประชุมกับนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เรื่องเสนอชื่อบุคคลเป็

การลักลอบตัดไม้กฤษณาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานับสิบปี แต่มีแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลด การลักลอบตัดไม้กฤษณาในป่าอนุรักษ์ได้ก็ คือ "การปลูกเชิงพาณิชย์" ที่ทำให้สามารถปลูกได้ เก็บผลิตได้ และขายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นายเฉลิมชัย สมมุ่ง ประธานวิสาหกิจชุมชนชมรมไม้กฤษณา (ไม้หอม) แห่งประเทศไทย ประธานกรรม-การบริหาร บริษัท อะการ์วูดแพล้นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด และ บริษัท อะการ์วูด ลิสซิ่ง จำกัด ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ไม้กฤษณาถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก เนื่องจากสามารถทำประโยชน์ได้ทั้งต้น น้ำมัน และแก่นไม้ ที่ค่อนข้างมีมูลค่าสูงมาก เมื่อนำไปสกัดและแปรรูป ซึ่งสามารถส่งออกไปได้ในตลาดทั่วโลก ผู้ที่เคยทำไม้จากป่า ก็ได้ชักชวนให้มาทำให้ถูกต้อง เพราะการเพาะปลูกถูกกฎหมาย ไม่ต้องเสี่ยงอันตราย ทั้งจากการถูกสัตว์ทำร้าย ป่วยเป็นไข้ป่า และผิดกฎหมาย เสี่ยงติดคุก และการหาไม้ในป่าก็ไม่ใช่ว่าจะเจอแก่นไม้ได้ง่าย ๆ เพราะไม่ได้มีทุกต้น นายเฉลิมชัย อธิบายถึงการปลูกไม้กฤษณาว่า กฤษณาเป็นพันธุ์พืชอนุรักษ์บัญชี 2 (เช่นเดียวกับกล้วยไม้) จึงต้องขึ้นทะเบียนแปลงปลูกกับไซเตส กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในการส่งออกจะต้องขอหนังสืออนุญาตส่งออก (CITES export permit) จากกรมวิชาการเกษตร จึงจะส่งออกผลิตภัณฑ์จากไม้กฤษณาออกไปขายต่างประเทศได้ อย่างไรก็ตาม การปลูกไม้กฤษณาให้ได้คุณภาพดี ในพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญคือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคเหนือบางส่วน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การปลูกกฤษณาจะต้องมีน้ำที่เพียงพอ ไม่มีน้ำขัง หรือปลูกเป็นไม้แซมในสวนยางพาราก็ได้ ไม้กฤษณามีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูง แต่การปลูกเพื่อให้เกิดแก่น นั้นมีเทคนิกและขั้นตอนที่ค่อนข้างยาก ดังนั้นในช่วงแรกที่มีการส่งเสริมการปลูกกันมาก และไม่ได้ผลผลิตตามที่ต้องการ เนื่องจากผู้ปลูกขาดความรู้และทักษะ ดังนั้นการที่จะปลูกจะต้องมีการอบรมในขั้นตอนต่างๆ ให้ชำนาญ ก่อนที¬ç§่จะตัดสินใจปลูก สำหรับการส่งออกไม้กฤษณาจากไทยไปต่างประเทศ โดยตลาดหลักจะอยู่ที่ตะวันออกกลางและยุโรป สัดส่วน น้ำมันร้อยละ 50 ชิ้นส่วนไม้ และแก่นไม้กฤษณา ร้อยละ 50 ก่อนหน้านี้ ในช่วงก่อนที่จะมีสถานการณ์ COVID-19 ลูกค้าบางส่วนที่เดินทางมายังสำนักงานขาย สามารถเลือกซื้อได้ในรูปแบบของการนำขึ้นเครื่องบิน ได้คนละไม่เกิน 2 กิโลกรัม ซึ่งสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่สนใจได้ ขณะที่การส่งออกน้ำมัน มีราคาที่ค่อนข้างสูงตามเกรดหรือคุณภาพ เช่น เกรด A ราคาอยู่ที่ 6,000 บาท ต่อโตรา (12 ซีซี) เกรด AA ราคาอยู่ที่ 9,500 บาท ต่อโตรา (12 ซีซี) ส่วนของน้ำมันจะส่งไปขายทางยุโรป หรือ ประเทศเยอรมนี ในการผลิตยารักษามะเร็ง ขณะที่แก่นไม้จะส่งออกไปทางตะวันออกกลาง ซึ่งนิยมในการจุดให้ความหอม ขณะประกอบพิธีทางศาสนา ขณะที่ในไทยขณะนี้มีความนิยมในการจุดเพื่อผ่อนคลาย อโรมาเธอราพี โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป›ç”็นข้าราชการหรือผู้บริหารระดับสูง ร้อยละ 85 พระร้อยละ 15 และ ประชาชนทั่วไปร้อยละ 5 นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า หลังจากที่รัฐบาลประกาศให้ไม้ยืนต้น 58 ชนิด เป็นหลักค้ำประกันหลักทรัพย์ได้ ไม้กฤษณาก็สามารถนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์เพื่อขอสินเชื่อได้ด้วย เบื้องต้นหากจะขอสินเชื่อกับบริษัทของตน จะให้มูลค่าสูงสุด ที่ร้อยละ 80 ของต้นไม้ (ไม้กฤษณา) โดยคิดเฉพาะมูลค่าของต้นไม้ ไม่คิดมูลค่าของที่ดิน เนื่องจากต้องการให้ผู้ขอสินเชื่อ ได้เก็บที่ดินไว้ใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ จะมีหลักในการคำนวณราคาของต้นไม้กฤษณาคือ “ความโต” ต้นที่สูงจากพื้นดินมาถึง 130 เซนติเมตร และวัดเส้นรอบวงต้นไม้ “ความสูง” วัดจากพื้นดินไปจนถึง 4 ใน 5 ส่วนของต้นไม้ หรือวัดถึงเรือนยอดของต้นไม้ ลบออก 20 % เรียกว่า “ความสูง” จากนั้นจะประเมินราคาของต้นไม้กฤษณา เช่น ไม้กฤษณา อายุ 7-10 ปี ที่ยังไม่ได้กระตุ้นให้เกิดน้ำมslotxo ฝาก 5 บาท ฟรี 50 บาท ล่าสุดันกฤษณา, ไม้แก่นกฤษณา ราคาประเมิน ลูกบาศก์เมตรละ 10,000 บาท และต้นไม้กฤษณา หลังจากกระตุ้นให้เกิดน้ำมันเกิดแก่น ราคาประเมิน ลูกบาศก์เมตรละ 30,000-35,000 บาท ตามระยะเวลาของการกระตุ้น ขณะที่ราคาประเมินจะสูงสุดคือ ไม้กฤษณา อายุ 36-40 ปี ที่ยังไม่ได้กระตุ้นให้เกิดน้ำมันเกิดแก่น ราคาประเมิน ลบ.เมตรละ35,000 บาท หลังจากกระตุ้นให้เกิดน้ำมันเกิดแก่น ราคาประเมิน ลบ.เมตรละ105,000-110,000 บาท ถ้ามีการกระตุ้น ตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ราคาประเมิน ลบ.เมตรละ 175,000– 195,000 บาท อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ COVID-19 กระทบกับผู้ที่ต้องการปลูกไม้กฤษณาเชิงพาณิชย์ เนื่องจากการปลูกและดูแลรักษาที่ค่อนข้างยาก และหากจะให้มีความชำนาญ จะต้องอบรมก่อนเริ่มปลูก แต่มาตรการห้ามรวมกลุ่ม หรือจัดสัมมนา ทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้ไม้กฤษณามีปัญหาในการส่งออกไปต่างประเทศ เนื่องจากกรมศุลกากรเรียกเก็บภาษีส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มาจากไม้กฤษณา อยู่ในประเภท 5 ภาค 3 แห่งพระราชกำหนดพิกัดศุลกากร พ.ศ. 2530 พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เรียกเก็บภาษีสูงถึงร้อยละ 40 % ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 จึงทำให้เป็นอุปสรรคอย่างมากในการส่งออก ขณะที่ไม้กฤษณาที่อนุญาตให้ส่งออกได้นั้น มีการขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรตามอนุสัญญาไซเตส (CITES) ซึ่งไม่ใช่มาจากป่าหวงห้ามเนื่องจากปลูกในแปลงปลูกของเกษตรกร รวมถึงมีการบันทึกข้อมูลตั้งแต่เพาะปลูก ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวที่สามารถอธิบายหรืออ้างอิงแหล่งที่มาได้ ดังนั้นจึงต้องการให้ลดภาษีการส่งออกให้อยู่ที่ 0 % เช่นเดียวกับพืชเศรษฐกิจอื่น อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 2 วันติด! จับไทย-กัมพูชาลอบตัด "ไม้กฤษณา" บนเขาใหญ่ ทำไม “กฤษณา” ไม้หอมยังมีราคาแพง และไม่เสื่อมความนิยม

การลักลอบตัดไม้กฤษณาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานับสิบปี แต่มีแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลด การลักลอบตัดไม้กฤษณาในป่าอนุรักษ์ได้ก็ คือ "การปลูกเชิงพาณิชย์" ที่ทำให้สามารถปลูกได้ เก็บผลิตไ