ตามที่มีข่าวกระจายไปในสื่อโซเชียลว่ารัฐบาลลักไก่ เตรียมส่งร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐา

วันนี้ (21 มี.ค.2567) พล.ต.อ.วินัย ทองสอง กรรมการและเลขานุการ ในคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แ

ตามที่มีข่าวกระจายไปในสื่อโซเชียลว่ารัฐบาลลักไก่ เตรียมส่งร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน การประชุมของ 2 สภาในวันที่ 7 ก.พ.2566 ที่จะถึงนี้ เป็นวาระแรกของการประชุม ล่าสุดวันjoker 50 รับ 200นี้ (3 ก.พ.2566) นายสุปัน รักเชื้อ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้เปิดเผยกับทาง ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า เรื่องดังกล่าวดูรัฐบาลลุกลี้ลุกลนมาก ถึงขนาดที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำหนังสือถึงประธานรัฐสภา ลงวันที่ 6 ก.ย. 2565 ขอให้นำร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .… ขณะที่ พล.อ.ประวิตร อยู่ในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ให้นำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาแบบเร่งด่วน โดยอ้างถึงร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .…เป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ในหมวดที่ 16 ซึ่งจากการศึกษาร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวของคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายและสิทธิของส€ภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ร่วมกับกรรมการฝ่ายวิชาการของสมาคมผู้สื่อข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มีความเห็นร่วมกันว่ากฎหมายดังกล่าวเขียนขึ้นทับซ้อนกับกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 35 ซึ่งบัญญัติไว้แล้ว ในการรับรองสิทธิและเสรีภาพในการเสนอข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ และร่าง พ.ร.บ.ยังมีข้อบกพร่องหลายประการและอาจจะเป็นอุ��ปสรรคในการทำงานของสื่อเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของการนำเสนอข่าวในอนาคต เช่น ความย้อนแย้งในเหตุผลของการยกร่างที่ระบุว่า ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมีสิทธิปฏิเสธการปฏิบัติตามคำสั่งใด ที่จะมีผลให้เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมสื่อมวลชนโดยมิให้ถือว่าเป็นการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่การใช้สิทธิดังกล่าวต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์และภารกิจของหน่วยงานที่ตนสังกัดอยู่ด้วย ตามข้อเท็จจริงแล้วสื่อ ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการโดยหน่วยงานของรัฐ จะทำงานเสนอข่าวยังŸäไง และที่สำคัญสาระหลักของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้คือการจัดตั้งสภาวิชาชีพสื่อ ถ้าศึกษาตามรายละเอียดในร่าง พ.ร.บ. จะเห็นว่าเป็นการทำงานที่ทับซ้อน กับองค์กรวิชาชีพสื่อและ กสทช. ที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว รวมไปถึงงบประมาณที่รัฐจะสนับสนุนโดยให้เอาเงินจาก กสทช. และกองทุนสื่อปลอดภัย ซึ่งจริงๆ 2 หน่วยงานนี้ก็ให้เงินสนับสนุนสื่อที่ยื่นขอรับการสนับสนุนและมีคุณสมบัติกับโครงการˆที่ผ่านเกณฑ์อยู่แล้ว นายสุปัน กล่าวว่าโดยส่วนตัว ไม่เห็นความจำเป็นในการที่จะมีร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .…ฉบับนี้ ให้สิ้นเปลืองงบประมาณและทำหน้าที่ทับซ้อนกับองค์กรวิชาชีพสื่อและองค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแลสื่อของภาครัฐ ถ้ารัฐเห็นความสำคัญในการส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนตามที่ระบุไว้ในหลักการและเหตุผล รัฐควรส่งเสริมกลไกในใช้สิทธิ์ของประชาชนในการตรวจสอบสื่อทั้งในภาคจริยธรรมและกฎหมาย รวมไปจนถึงให้เสรีภาพในนำเสนอข้อมูลตรวจสอบการทำงานของรัฐอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อคนในวิชาชีพสื่อทั้งของภาคเอกชนและภาครัฐ และประชาชนผู้บริโภคสื่อ นอกจากรัฐมีวัตถุประสงค์อื่น เช่นต้องการควบคุมสื่อผ่านกลไกงบประมาณสนับสนุนสภาวิชาชีพสื่อที่จะตั้งขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางคณะกรรมการสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กับ กรรมการสมาคมคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยกำลังหารือถึงมาตรการคัดค้านร่าง พ.ร.บ. นี้ต่อไป

แม้เป็นเพียงประโยคสั้นๆ แต่ความหมายนั้นกลับมีคุณค่าและเป็นกำลังใจให้กับฮีโร่ตัวจริง "ผู้พิทักษ์ป่า" คนตัวเล็กนับหมื่นชีวิตที่ทำหน้าที่เฝ้าผืนป่า มรดกอันล้ำค่า บ้านของสัตว์ป่าและสิ่งมีชีวิต แหล่งผลิตอา