ความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจชาวเยอรมัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ

วันนี้ (22 ก.ค.2567) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่น่าจับตาเป็ดู ผล บอล ครับนอย่างยิ่ง เนื่องจากจะบ่งชี้ถึงทิศทางภูมิทัศน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจโลกหลังจากนี้ ด้วยสหรัฐฯ เป็นประเทศมหาอำนาจเบอร์ 1 ของโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง การทหาร และเทคโนโลยี ในด้านการเมือง นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯ นับเป็นผู้นำประเทศโลกเสรีที่กุมทิศทางการเมืองโลก และด้านเศรษฐกิจ สหรัฐฯ มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มูลค่า 27.36 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ 🥥ในปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.95 ของ GDP โลก และมีรายได้ต่อหัวสูงถึง 81,695.2 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 และเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย รองจากจีนรวมถึงยังเป็นประเทศที🌏่ม🎤ียอดคงค้างเงินลงทุนโดยตรงในไทยเป็นอันดับ 5 รองจาก ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และเนเธอร์แลนด์ ผอ.สนค. กล่าวอีกว่า การดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ส่งผลต่อเศรษฐกิจการค้าโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วง 7 - 8 ปีผ่านมา ในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากการใช้ นโยบายสหรัฐอเมริกาต้องมาก่อน (American First Policy) ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นชาตินิยม การคงไว้ซึ่งการเป็นมหาอำนาจ การปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และการสร้างความมั่นคงของชาติ และการเริ่มทำสงครามการค้ากับจีน ที่ทำให้เศรษฐกิจการค้าโลกและไทยชะลอตัว/หดตัวอย่างชัดเจน ที่มา:AP/John Locher ที่มา:AP/John Locher และในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน ที่มีการทำสงครามเทคโนโลยีกับจีน รวมถึงการออกพระราชบัญญัติชิปและวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ และพระราชบัญญัติการลด🚀เงินเฟ้อ เพื่อจัดการปัญหาเงินเฟ้อและประเด็นภาวะโลกร้อน สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีความพยายามที่จะย้ายฐานการผลิตกลับสู่ประเทศตนเอง ย้ายฐานการผลิตเข้าใกล้ตลาด และย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศพันธมิตรในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของห่วงโซ่อุปทานและเศรษฐกิจโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากกระแสการเคลื่อนย้ายทางการค้าและการลงทุนของโลกที่เร่งตัวขึ้น นายพูนพงษ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย.นี้ คาดว่าจะเป็นการแข่งขันระหว่างพรรคเดโมเครต กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งแม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่าเขาจะยุติการเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมัยที่สอง แต่ก็พร้อมสนับสนุนนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี เป็นตัวแทนลงชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่ง สนค. ประเมินว่า หากพรรคเดโมเครต ชนะการเลือกตั้ง การดำเนินนโยบายด้านการต่างประเทศและการค้าระหว่างประเทศจะเป็นไปในทิศทางเดิม แต่หากทรัมป์ชนะ อาจเห็นการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ 2 มิติ ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง ได้แก่ ด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยจะลดการให้ความช่วยเหลือประเทศที่อยู่ในพื้นที่ขัดแย้ง โดยเฉพาะการยกเลิก/ลดการสนับสนุนยูเครน ซึ่งจะส่งผลให้สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน สิ้นสุดในไม่ช้า แต่ในขณะเดียวกัน การลดบทบาทของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนความมั่นคงในเวทีโลก โดยเฉพาะ NATO อาจทำให้มีความขัดแย้งในพื้นที่อื่น ๆ ปะทุได้ง่ายขึ้น ผอ.สนค.กล่าว่วา การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทุกประเภทจากทุกประเทศร้อยละ 10 และจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนร้อยละ 60 แม้ว่าเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ไบเดนประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีนเฉพาะสินค้าที่ถูกพิจารณาว่ามีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ เซมิคอนดักเตอร์ โซลาร์เซลล์ เหล็กและอะลูมิเนียม รวมถึงแร่ธาตุสำคัญ นอกจากนี้ การกลับมาของทรัมป์ที่น่าจะมาพร้อมกับนโยบาย American First อาจทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการค้าโลกจะมีความยากลำบากมากขึ้น ด้วยการตั้งกำแพงภาษี สกัดสิ🎷นค้านำเข้าจากต่างประเทศ มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมและสร้างงานในประเทศ ซึ่งจะทำให้ประเทศต่าง ๆ ที่เคยได้รับประโยชน์จากการลงทุนของสหรัฐฯ และบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ เผชิญการถอนการลงทุนออก โดยเฉพาะบริษัทในสาขาอุตสาหกรรมที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญที่ปัจจุบันยังตั้งอยู่ในจีน และบริษัทที่ได้ขยาย/ย้ายฐานการผลิตออกจากจีนมาที่ภูมิภาคอาเซียน เช่น เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย ในช่วงก่อนหน้า อาจมีบางส่วนย้ายกลับสหรัฐฯ หรือประเทศในภูมิภาคอเมริกาเหนือ เพื่อลดความเสี่ยงทางการค้า สำหรับประเทศไทยเอง เพื่อรับมือกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลกระทบจากผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้นในบางสาขาอุตสาหกรรม สิ่งที่ผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมปรับตัว เช่น การปรับกลยุทธ์ทางการค้าและการส่ง🦋ออก โดยการเปิดตลาดใหม่ การกระจายความเสี่ยงของตลาดส่งออก รวมถึงการปรับใช้ e-Commerce ในการส่งออกสินค้าไปยังผู้บริโภคทั่วโลกโดยตรง การใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางการค้าที่อาจเกิดขึ้น กรณีมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60 จะทำให้สหรัฐฯ มีแนวโน้มบริโภคสินค้าที่ผลิตในประเทศมากขึ้นหรือนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นทดแทนสินค้าจีน ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ประเทศที่สาม รวมถึงไทย ในการขยายส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ และ ลดความผันผวนทางการค้าและกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยเพิ่มความหลากหลายของแหล่งวัตถุดิบ/สินค้านำเข้า ไม่ให้พึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่สหรัฐฯ ตั้งเป้าหมายขยายการผลิตในประเทศหรือส่งเสริมการย้ายฐานการผลิตกลับประเทศ ผ่านการส่งเสริมการสร้างพันธมิตรทางการค้า และมองหาคู่ค้ารายใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงที่ห่วงโซ่อุปทานจะหยุดชะงัก อ่านข่าว: ราคา “ทองคำ” ยังพุ่ง หลังตลาดตอบรับเฟดลดดอกเบี้ย "ไบเดน" ประกาศถอนตัว หนุน "แฮร์ริส" ชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ปราศรัยคู่! ทรัมป์-แวนซ์ ขึ้นเวทีถาม "เดโมแครต" ใครตัวแทนพรรค ? จับตา "ทรัมป์" เตรียมกล่าวสุนทรพจน์ประชุมใหญ่ "รีพับลิกัน"

วันนี้ (24 ก.พ.2568) นายณฐพร โตประยูร และอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ยื่นหนังสือถึงนายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณารับเรื่องนี้เป

วันนี้ (22 ก.ค.2567) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระท

นิยายชีวิต โดย : Aditya Pratama
เรื่องและภาพโดย : Aditya Pratama
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..