วันนี้ (6 ส.ค.2564) นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึง โครงการเยียว

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติจัดงานครบรอบ 26 ปี โดยจัดเวทีปาฐกถาพิเศษ “อนาคตประเทศไทยหลังเลือกตั้ง” โดยมีนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และนายสมเก

วันนี้ (6 ส.ค.2564) นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึง โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามที่ครม. มีมติอนุมัติมาตรการเยียวยาในกลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากประกาศเคอร์ฟิว และล็อกดาวน์ เริ่มจ่ายเงินรอบแรกแล้ววันที่ 4-6 ส.ค.นี้ วันละ 1 ล้านคน โดยโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนผู้ประกันตนมาตรา33 ใน ˆ9 ประเภทกิจการพื้นที่กทม. นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส แล”ะสงขลา นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 170,613 คน ที่โอนเงินไม่สำเร็จ สาเหตุเพราะยังไม่ผูกพร้อมเพย์911xbet เครดิต ฟรี 20sa demo slot เลขบัตรประชาชนจำนวน 157,058 คนคิดเป็น 90 % ส่วนอีก 13,553 คนหรือคิดเป็น 7 % บัญชีปิดไม่มีความเคลื่อนไหว ผูกพร้อมเพย์กับเบอร์โทรศัพท์ และสาเหตุอื่นๆอีก 1 % ทำให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือทันในการโอนรอบแรกนี้ กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ตกหล่นใน‰ˆการโอนเงินรอบแรกนี้ ให้เร่งตรวจสอบข้อมูลตนเอง หากเช็กแล้วว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ให้รีบไปติดต่อธนาคารด่วน หากยังไม่ผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน ให้รีบไปดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน โดยสามารถทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ ของธนาคารที่ท่านมีบัญชีอยู่ หรือบัญชีปิด ไม่เคลื่อนไหวแล้ว ให้ดำเนินการเปิดบัญชี และผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนให้แล้วเสร็จ ก่อนวันที่ 9 ส.ค.นี้ เพื่อรอรับเงินช่วยเหลือเยียวยา ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม จะโอนให้อีกรอบในวันที่ 13 ส.ค.นี้ พร้อมทั้งเปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ตรวจสอบข้อมูลได้ที่ www.sso.go.th พร้อมแจ้งสาเหตุของกลุ่มที่ตกหล่นว่าเหตุใดจึงโอนเงินเข้าบัญชีไม่ได้ ภายในพรุ่งนี้ ( 7 ส.ค.) อ่านข่าวที่เกี่ยวŸæ‹ข้อง เสียงสะท้อนมาตรการเยียวยาที่หายไป ครม.เคาะอีก 3 หมื่นล้าน เยียวยา ม.33 ขยายให้ 16 จว.สีแดงเข้ม สปส.เปิดระบบตรวจสอบสิทธิเยียวยานายจ้าง - ผู้ประกันตน ม. 33 ใน 10 จังหวัด

ความคืบหน้าคดีนายไพศาล แสงนาราย อายุ 58 ปี กำนัน ต.นางัว อ.บ้านแพง จ.นครพนม ใช้อาวุธปืนพกสั้นกราดยิงในผับแห่งหนึ่ง ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (บ้านแพง-นครพนม) จำนวน 8 นัด ทำให้มีผู้บาดเจ็บจากการถ