วันนี้ (4 เม.ย.2568) เวลา 09.01 น. ตามเวลาท้องถิ่นเกาหลีใต้ ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ เริ่มการอ่านคำตัด

แม้ต่างฝ่าย-ต่างก็มีเหตุผลอ้างอิงถึงข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติ แต่ก็เป็นที่สังเกตว่า ทั้ง 2 ฝ่าย กลับพูดความจริงแค่ "ครึ่งเดียว" ท่ามกลางคำถามว่า ทั้งรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กำลัง

แม้ต่างฝ่าย-ต่างก็มีเหตุผลอ้างอิงถึงข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติ แต่ก็เป็นที่สังเกตว่า ทั้ง 2 ฝ่าย กลับพูดความจริงแค่ "ครึ่งเดียว" ท่ามกลางคำถามว่า ทั้งรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กำลังรักษาผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองหรือไม่ ย้อนกลับไปช่วงที่รัฐบาล ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก ๆ กรณีขายไฟฟ้าให้เมียนมา แล้วพาดพิง กระทรวงมหาดไทย ไม่ตรวจสอบคู่สัญญาซื้อ-ขาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ออกมาโต้กลับทันควัน "จะไปถามลิงที่ไหน" แล้วก็ย้ำว่า "ที่นี่..คือมหาดไทย ไม่ใช่มหาดเมียนมา" รัฐบาลเมียนมารับรองมาแล้ว แต่เมื่อถูกตั้งคำถามในเชิงเปรียบเทียบว่า ไทยกำลังตกอยู่ในฐานะ ท่อน้ำเลี้ยงขบวนการคอลเซนเตอร์ นายอนุทิน ชี้ว่า หวย ออมสิน 1 เมษายน 2563การขายไฟให้เมียนมาเป็นไปตามมติ ครม.หากจะถูกมองว่า เป็นภัยต่อความมั่นคง ดังนั้นหน่วยงานความมั่นคง จะต้องเป็นผู้สั่งการใ🐨ห้หยุดจ่ายไฟ และอ้างว่า กฟภ.ไม่มีอำนาจตรวจสอบ และต้องพึ่งพาหน่วยงานที่มีอำนาจ ซึ่งตามสัญญามีเงื่อนไขอยู่ จังหวะนี้ จึงเท่ากับเผือกร้อน..ถูกโยนออกมาแล้ว และนายภูมิธรรม เวชยชัย คือผู้ที่รับไว้ ในฐานะรองนายกฯ ด้านความมั่นคง ข้อสังเกตคือ สัญญาขายไฟฟ้า ระหว่าง "มหาดไทยกับคู่สัญญา" หนึ่งมีรัฐบาลเมียนมารับรอง, สองลงนามทำสัญญา ตามมติ ครม.เท่ากับว่า "มหาดไทย" มีอำนาจตามกฎหมายจริง (แต่ก็มีเงื่อนไข) จาก 2🎈 ข้อนี้ด้วย เมื่อเกินอำนาจต้องแจ้ง ครม.และประสานกระทรวงการต่างประเทศ อ่านข่าว : "ภูมิธรรม" เรียก สมช.ถกด่วนเย็นนี้ ปมตัดไฟชายแดน ปมขายไฟให้เมียนมานี้ "มหาดไทย" รับทราบแล้วว่า เป็นปัญหา ซึ่ง "ปัญหา" ตามสัญญาแบ่งออกเป็น 2 กรณี 1.ไม่จ่าย-ขายต่อ-ใช้ผิดประเภท และ 2.เป็นภัยต่อความมั่นคง โดย "มหาดไทย" ชี้ว่า "เป็นภัยต่อความมั่นคง" จึงเป็นที่มาให้ทำหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ "ปปส., ป.ป.ง., สตช. และ สมช. และหลังอ้างว่า "ยังไม่ได้รับคำตอบ" คราวนี้ เรื่องร้อนถึงกระทรวงการต่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ร่วมถก สมช. พร้อมตั้งคณะกรรมการร่วม ติดตาม-แก้ปัญหา ปมขายไฟให้เมียนมา ขณะที่นายอนุทิน ออกมาย้ำอีกว่า พร้อมปิดสวิตช์ทันที เมื่อมีมติ ครม.หรือนายกรัฐมตรีสั่งการ แล้วก็ออกตัว "มหาดไทย" จะไม่รับผิดชอบ เพราะเป็นแค่ผู้ปฏิบัติ-ถูกสั่งให้ขาย ก็ขาย จากนั้น "สมช." และ กองทัพ พร้อม กฟภ.จึงสรุปออกมา 6 ข้อ สมช.สรุป 6 ข้อ ให้ "กฟภ.-มท." พิจารณาปม "ตัดไฟ" เมียนมา นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชี้ว่า รัฐบาลยังไม่สามารถดำเนินการ "ตัดไฟฟ้า" ในเมียนมาได้ แม้จะพบข้อมูลบางส่วนว่า มีการเชื่อมโยงกับ "ขบวนการคอลเซนเตอร์" แต่ไม่ได้เป็นการโยนไปมาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากแต่ต่างคนต่างทำหน้าที่ โดยเฉพาะข้อกฎหมาย และกระบวนการต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจน ส่วนใครจะมีอำนาจในการตัดไฟฟ้า อาจต้องดูข้อกฎหมายเป็นหลัก เลขาฯ สมช.เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) วันนี้ เพื่อประมวลข้อมูลด้านความมั่นคงไปอ้างอิง โดยให้ กฟภ.ไปเจรจากับคู่สัญญาที่ได้ดำเนินการไว้ ก่อนสรุปข้อมูล 6 ข้อ คือ ข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่ตั้งจุดต่าง ๆ ที่เชื่อได้ว่ามีหลักฐานระดับหนึ่งที่เกี่ยวพันกับอาชญากรข้ามชาติ หรือ ขบวนการคอลเซนเตอร์ 🎻ซึ่งมีหลายจุดตั้งแต่แม่สาย-เมียวดี และพญาตองซู รวมถึงอาจมีความเชื่อมโยงของบุคลล ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทสัมปทาน-ขบวนการคอลเซนเตอร์ กับการจำหน่ายไฟฟ้านอกจากนี้ พบว่า ความต้องการขอใช้ไฟเพิ่มขึ้นผิดปกติ และไม่สามารถอธิบายถึงการนำไฟฟ้าไปใช้ ขณะที่รัฐบาล-กฟภ. เคยตัดไฟฟ้า "ชเวก๊กโก-เคเคปาร์ค" แต่ปรากฏว่า ยังประกอบกิจการได้ สัดส่วนการใช้ไฟตามจุดต่าง ๆ ต้องนำมาพิจารณา และสุดท้าย คือจุดที่เคยตัดไฟแล้ว พบหลักฐานมีการหาไฟจากแหล่งอื่นไปทดแทน อ่านข่าว : ตัดไฟทันที! นายกรัฐมนตรี สั่งปิดทางแก๊งคอลเซนเตอร์เมียนมา ปมขายไฟให้เมียนมา "มหาดไทย" เคาะว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง (โดยตามสัญญา) แบ่งออกเป็น 2 ปัญหา ข้อ 1.ไม่จ่าย-ขายต่อ-ใช้ผิดประเภท ซึ่งข้อนี้ ตรงกับ มติ ครม. ปี 2539 เป็นอำนาจของ กฟภ. แต่ถ้าเป็นข้อที่ 2 คือเป็นภัยต่🥗อความมั่นคง ต้องประสานหน่วยงานที่ร่วมรับผิดชอบ ซึ่งเป็นไปตามมติ ครม.ปี 2567 จึงเป็นเหตุให้ "มหาดไทย" ทำหนังสือถึงหน่วยงานต่าง ๆ คือ "ปปส., ป.ป.ง., สตช. และ สมช. ซึ่งอ้างว่า "ยังไม่ได้รับคำตอบ" ร้อนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ "มาริษ เสงี่ยมพงษ์" ร่วมถก สมช. ตั้งคณะกรรมการร่วม"ติดตาม-แก้ปัญหา" แต่นายอนุทิน ก็ยังเล่นบทพร้อมปิดสวิชต์ /ขอแค่ "มติ ครม.หรือข้อสั่งการจากนายกฯ แล้วออกตัวคล้ายกดดัน "ว่าจะไม่รับผิดชอบ เพราะเป็นแค่ผู้ปฏิบัติ-ถูกสั่งให้ขายก็ขาย จากนั้น "สมช." และ กองทัพ พร้อม กฟภ. ได้ข้อสรุปมา 6 ข้อ กับ 3 มติ สาระสำคัญคือ พื้นที่ตั้งหลายจุด ความเชื่อมโยงของบุคคล เกี่ยวพันกับอาชญากรรมข้ามชาติ และขบวนการคอลเซนเตอร์ ส่งเอกสารแจ้ง กฟภ.ดำเนินกา🎁ร และกระทรวงการต่างประเทศ ประสานเรื่อง ก่อนเข้าประชุม ครม.นายภูมิธรรม ออกมารับว่า "ไม่สบายใจ" และอ่านข้อกฎหมายทั้งหมดให้นักข่าวฟัง สรุปคือ "ปมขายไฟให้เมียนมา" กระทบความมั่นคง "สมช." ต้องแจ้งนายกฯ สั่งการ ขณะที่นายอนุทิน ชี้ว่า กฟภ.ต้องปฏิบัติตามขั้นตอน และมีกฎหมายรองรับ 2 สัปดาห์นี้ อากัปกริยาของ นายอนุทิน และนายภูมิธรรม ที่แจกแจงปมขายไฟ📦ให้เมียนมา ผ่านข้อกฎหมาย โดยค่อย ๆ เปิดเงื่อนไขต่าง ๆ ออกมา จนกลายเป็นข้อสังเกตว่า "โยนความรับผิดชอบใส่กัน" แล้วยังมีบางปฏิกริยา ที่สะท้อนให้เห็นถึง "ปมการเมือง ระหว่างรัฐมนตรี 2 พรรค" คือ "เพื่อไทยกับภูมิใจไทย" ที่ส่ออาการงัดข้อกัน ซึ่งอาจกำลังรักษาประโยชน์ฝ่ายตัวเองไว้หรือไม่ อย่างกรณีล่าสุด นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ และย้ำถึง 2 ครั้งว่า "อย่าเห็นแต่จะขาย" แล้วคาดโทษไม่ตัดไฟ จะเรียกมาช่วยราชการ และตามข้อมูล "มหาดไทย" ขายไฟให้เมียนมา ในแต่ละปี มีงบระมาณเข้ากระทรวงตกเป็น "พันล้าน" อ่านข่าว : “โรม” ฝากนายกฯ สั่ง “อนุทิน” เร่งตัดไฟสกัดแก๊งคอลเซนเตอร์เมียนมา "อนุทิน" บอกพร้อมตัดไฟทันที หากเมียนมาแจ้ง เปิด 4 ข้อเสนอ "หลิว จงอี" รัฐบาลไทย ยังโยนวุ่น "ตัดไฟ" เมียนมา

วันนี้ (15 เม.ย.2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่อิหร่านเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศช่วงผ่านมา ได้ยิงโดรนไปยังพื้นที่เป้าหมายในประเทศอิสราเอลได้สั่งการให้ก