Home
|
ˆ&#;ตรวจรางวัลที่1เ&#;Ÿæ‹มษายน

ตรวจรางวัลที่1เมษายน��วันนี้ ,,,(16 ม.ค.2568��‰ˆ) กรมที่ดิน ออ”กหนังสือชี้แจง​กร

ˆ&#;ตรวจรางวัลที่1เ&#;Ÿæ‹มษายน

ภายหลังการประชุมร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยต่อสื่อมวลชนที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า นายกฯ ได้ติดตามเรื่องความปลอดภัย คุณภาพสินค้า และการบริการนักท่องเที่ยว ส่วนเรื่องค🐼วามปลอดภัย ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจท่องเที่ยว จะทำงานร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท. สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีนนั้น ได้มีการพูดคุยกับสถานทูตจีน จะมีโครงการลาดตระเวน โดยมีตำรวจจากจีนเดินทางมาที่ประเทศไทย ในสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ซึ่งโครงการลักษณะนี้เคยทำที่อิตาลีและประสบความสำเร็จ เชื่อว่า โครงการนี้จะช่วยยกระดับความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวจีนได้ ผู้ว่า ททท.บอกว่าในวันที่ 15 พ.ย.นี้ จะประชุมเกี่ยวกับโครงการลาดตระเวนร่วมกับสถานทูตจีน ที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และจะแจ้งให้ทราบว่า จะเริ่มโครงการเมื่อไหร่ ซึ่งในช่ตรวจรางวัลที่1เมษายนวงที่นายกฯ เยือนจีนอย่างเป็นทางการ ก็ได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับโครงการนี้ และเมื่อตำรวจจีนเข้ามาประเทศไทย ก็จะช่วยยกระดับความมั่นใจ ให้นักท่องเที่ยวจีนอีกขั้นหนึ่ง และมั่นใจว่าโครงการนี้จะช่วยทำให้ตัวเลขการท่องเที่ยวจีนช่วง 2 เดือนสุดท้ายเป็นไปตามเป้าเดิม ที่กำหนดไว้ที่ 4,000,000 - 4,400,000 คน ในเวลาต่อมา นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวจีนเกิดความเชื่อมั่นว่า ข่าวที่จะให้ตำรวจจีนมาตระเวนดูแลความปลอดภัยนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ความจริงคือการร่วมมือทำงานและให้ข้อมูลเบาะแส เพื่อให้ตำรวจไทยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ประเทศไทยเป็นเอกราชทำไมต้องใช้ตำรวจจีนมาลาดตระเวน ขออย่าบิดเบือนและลากให้ไปโยงกับเรื่องของศักดิ์ศรีของประเทศเช่นนั้น อย่าได้เล่นเกมวาทกรรมทางการเมืองกันจนเกินกว่าเหตุเช่นนี้เลย ให้มุ่งสมาธิให้กับการทำงานรับใช้ประเทศชาติและประชาชนกันดีกว่า ดังนั้น ตำรวจของไทยจึงคิดว่า กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการกำราบกลุ่มจีนสีเทา คือขอให้ตำรวจจีนเป็นผู้ช่วยในการปฎ🚀ิบัติงาน ซึ่งปกติการทำงานร่วมกันของตำรวจสากลมีการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว เพียงแต่ครั้งนี้แสดงออกให้เห็นชัดเจนขึ้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไทยได้รับข้อมูลและเบาะแสที่แม่นยำรวดเร็วขึ้น ซึ่งตำรวจจีนมีข้อมูลและมีเบาะแสพร้อมจะให้ความร่วมมือกับตำรวจไทยเต็ม 100% และพร้อมจะให้ข้🎢อมูลชี้เบาะแสล่วงหน้า ในโซเชียลของจีนยังคงมีการนำเสนอข่าวที่เป็นเชิงลบที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยต่อเนื่อง ทั้งเรื่องตำรวจไทยรีดไถนักท่องเที่ยว การลักพาตัวหวังอวัยวะ เหตุการณ์ยิงในห้างสรรพสินค้า เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ ประเทศไทยในภาพจำของชาวจีนไม่ดีนัก และ บางส่วนก็มองว่าไม่ปลอดภัย ซึ่งเรื่องนี้ นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ATTA อยากให้มีหน่วยงานของรัฐทำหน้าที่ ชี้เเจง⚡หรือ🎧โต้ตอบเพื่อให้มีข้อมูลอีกด้าน เพื่อให้คนจีนพิจารณา และเข้าใจในไทยมากขึ้น ส่วนมาตรการ "วีซาฟรี" ที่ไทยออกมาเพื่อกระตุ้น นายศิษฎิวัชร มองว่า ยังไม่ได้เห็นผลที่ชัดเจน เพราะเป็นไปได้ว่า คนจีนส่วนหนึ่งยังได้รับผลกระทบจากโควิด และ ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ สำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทย ในปี นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจีน ปี 2566 ตั้งเเต่ ม.ค.-ก.ย. อยู่ที่ 2,493,565 คน เอกชนมองว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนอาจจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้มีการตั้งเอาไว้ที่ 4,400,000 คน ซึ่งมาตรการวีซาฟรี อาจจะไม่เห็นผลชัดเจนในปีนี้เลยคาดว🧜‍♀️่ามาตรการนี้จะส่งผลดีในต้นปีหน้าหรือว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนมากกว่า มีหลายประเทศที่มีความร่วมมือกับจีน ในการส่งตำรวจไปลาดตระเวนร่วมกันตามสถานที่หรือเมืองยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจีน โดยส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องการดูแลความปลอดภัย และการสื่อสารกับชาวจีนเป็นหลัก ก่อนหน้านี้สำนักข่าวซินหัวของจีน เคยรายงานว่าจีนเคยส่งตำรวจร่วมลาดตระเวนกับตำรวจของอิตาลี ตามเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั้งโรม และมิลาน โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่าง 2 ประเทศ ในมิติด้านการสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว โครงการ ตร.จีน ในประเทศอิตาลี โครงการ ตร.จีน ในประเทศอิตาลี โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้จะได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศจีน ผ่านการศึกษาและการฝึกอบรมเกี่ยวกับตำรวจสายตรวจ มารยาททางการทูต ความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดจนวัฒนธรรมและประเพณีของอิตาลี อิตาลีมีความร่วมมือนี้กับจีนตั้งแต่ปี 2558 แต่ดูเหมือนแนวทางนี้จะยุติไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว หลังมีประเด็นที่ถูกตั้งข้อสังเกตและการกล่าวหาถึงการตั้ง "สถานีตำรวจ" ในต่างแดน ซึ่งทางจีนได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวอ้างดังกล่าว นอกจากนี้ เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัว ยังได้เคยรายงานว่า มีความร่วมมือระหว่างจีนกับโครเอเชียในลักษณะนี้เช่นกัน โดยได้ส่งตำรวจไปร่วมลาดตระเวนตามเมืองท่องเที่ยว เพื่อสร้างความปลอดภัยให้นักเดินทาง โดยปีนี้ส่งไปจำนวน 8 นาย โดยเอกอัครราชทูตจีนประจำโครเอเชีย ระบุว่า ความร่วมมือที่ผ่านมา ได้ช่วยหนุนประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวชาวจีนในโครเอเชียได้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพ และมีส่วนในการสนับสนุนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างจีน-โครเอเชีย "วันใหม่ไทยพีบีเอส" ยังพบว่า นอกจากนี้ยังมีอีกประเทศที่มีความร่วมมือในลักษณะนี้กับจีน คือเซอร์เบีย โดยในเว็บไซต์ของรัฐบาลเซอร์เบียได้มีการเผยแพร่ข่าวความร่วมมือเป็นครั้งที่ 2 กับจีน ซึ่งมีการส่งตำรวจจากจีนจำนวน 9 นาย ร่วมลาดตระเวนตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีนในกรุงเบลเกรด ร่วมกับตำรวจท้องถิ่น เริ่มตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ย.-26 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลเซอร์เบียยังเคยออกมายืนยันว่า ตำรวจของจีนจะไม่ได้มีอำนาจในการเข้าจับกุมแต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่ช่วยตำรวจท้องถิ่นในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น