วันนี้ (9 มี.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Air4thai กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศภาคเหนือเมื่อเวลา
#ฝุ่นเชียงใหม่ ติดเทรนด์ X ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังจากค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัดเกินมาตรฐาน 21 พื้นที่ โดยที่ จ.เชียงใหม่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 157 มคก.ต่อลบ.ม.เก
วันนี้ (26 มี.ค.2565) สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 กลายเป็นปัจจัยที่ตอกย้ำปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของเด็กไทย ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ในงานเสวนาเรื่อง ปลดล็อกกรุงเทพฯ เมืองแห่งความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่ไทยพีบีเอส ร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และภาคีเครือข่ายการศึกษาจัดขึ้น ศ.สมพงษ์🙌 จิตระดับ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กสศ. ระบุว่า พื้นที่การเรียนรู้ที่หลากหลายสำหรับเด็ก หรือ Eco System ที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ยังถูกกดทับด้วยกฎระเบียบต่าง ๆ ทำให้พื้นที่เหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งจุดแข็งของกรุงเทพมหานคร ที่เป็นการ🦙ปกครองท้อง🌌ถิ่นรูปแบบพิเศษ คือ การมีอำนาจหน้าที่ให้การบริหารจัดการ และออกแบบระบบการศึกษาได้อย่างอิสระ ดังนั้น กรุงเทพมหานครจะต้องกล้าปลดแอกตัวเองจากกระทรวงศึกษาธิการ ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ เห็นว่า การศึกษาในกรุงเทพมหานคร ต้อ🎨งปรับใหม่เป็นระบบ "สาธิต" ที่จับมือกับภาคเอกชน เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้ในสิ่งท🐴🐦💪ี่สนใจได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องเรียนเท่านั้น เน้นการเว็บสล็อต เอ เย่ นเรียนรู้อัตลักษณ์ในชุมชนของตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำมานับเป็นหน่วยกิตได้ ขณะที่ น.ต.ศิธา ธิวารี ว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคไทยสร้างไทย เห็นว่า ปัญหาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในกรุงเทพกรุงเทพมหานครที่ไม่เท่ากัน ควรจะต้องเร่งแก้ไขให้ทุกโรงเรียน มีคุณภาพมาตรฐานในระดับเดียวกัน เพื่อให้ผู้ปกครองเชื่อมั่นว่า ลูกหลานของพวกเขาเรียนโรงเรียนใกล้บ้านได้ ภายในงานยังมี ผศ.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ตัวแทนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ตัวแท🌾นนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร มาร่วมแลกเปลี่ยนและรับฟังปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ทั้งปัญหาการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมของเด็กด้อยโอกาส หรือการกระจายศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ด้วย
วันนี้ (26 มี.ค.2565) สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 กลายเป็นปัจจัยที่ตอกย้ำปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของเด็กไทย ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ในงานเสวนาเรื่อง ปลดล็อกกรุงเทพฯ เมืองแห่งความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา