แอ พ ผล บอลชæäายหาดป่าตองจ,ังหวัดภูเก็ต เงียบเหงา มากว่า 1 ปีแล้

ยังแกว่งไปมาอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดหุ้นไทย แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 2 สัปดาห์แล้ว หลังเลือกตั้งเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่หุ้นวันนี้ (2มิ.ย.) ราคาเปิดตลาดยังอยู่ที่ 1,529.09 จุด หรือ เพิ่มขึ้น 7.69 จุด หรือ บวก 0.51% หากเปรียบเทียบกับวันประกาศผลการเลือกตั้งอยู่ที่ 1,550.85 ถือเป็นปฏิกิริยาที่สะท้อนผ่านตลาดหุ้น และตลาดการเงิน ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองยังฝุ่นตลบ แต่หยุดนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พยายามกลบรอยร้าว ปมชิงเก้าอี้ประธานรัฐสภา กอดคอโชว์หวาน เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่ตัวเลขในตลาดทุนใหญ่เศรษฐกิจ สะท้อนให้เห็นความไม่มั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อรัฐบาลก้าวไกลในอนาคต นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นจะเป็นตัวชี้อนาคตเศรษฐกิจ และชี้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า และเม🎧ื่อราคาหุ้นตกลงจะทำให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจเศรษฐกิจในอนาคตว่า จะดีเหมือนเดิมหรือไม่ ประเด็นสำคัญ คือ ขณะนี้นักลงทุนยังมีความไม่แน่ใจว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะทำได้หรือไม่ "โจทย์สำคัญที่ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจ คือ นโยบายของรัฐบาลใหม่ที่ระบุว่า จะเข้ามาแก้ปัญหาอิทธิพลของกลุ่มทุนผูกขาด จึงทำให้นักลงทุนบางส่วน ห่วงว่ากลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากนโยบายของรัฐก็ได้ เราไม่ทราบว่า จะมีเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น จึงได้แค่คาดการณ์" นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บรรยากาศของตลาดทุนและตลาดหุ้นทั่วโลก ในสหรัฐอเมริกาก็มีปัญหา เรื่องดอกเบี้ยสูง สงครามการสู้รบยูเครน - รัสเซีย ซึ่งสิ่งนี้จะส่งผลกระทบมาถึงไทยด้วย ขณะที่การเมืองไทยก็ยังไม่นิ่ง โดยเฉพาะการเลือกประธานสภาจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม และได้ตัวนายกรัฐมนตรีเดือนสิงหาคมนี้ นายธนวรรธน์ ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ขณะนี้พรรคการเมืองเสียงข้างมากที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล จะเซ็นเอ็มโอยูแล้ว แต่ตลาดหุ้นยังไม่ดีขึ้น หุ้นยังตกลงต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่านโยบายอาจมีปัญหา นอกจากนี้ปัญหาการถือหุ้นไอทีวีของตัวว่าที่นายกฯ ก็ยังต้องรอ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ยังไม่ชัดเจน นักลงทุนจึงเกรงอาจจะมีความพลิกผันทางการเมือง สอดคล้องกับประเด็นที่นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนเน้นคุณค่า สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์ในรายการโลกในมุมมองของ Value Invester เรื่อง "🎼ตลาดหุ้นกับรัฐบาล" โดยระบุว่า การเมืองรอบนี้มีผลต่อตลาดหุ้นพอสมควร นักลงทุนยังสนใจเรื่องนโยบาย มีปฏิกิริยาตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนได้ "แม้จะยังไม่แน่ใจว่า ใครมาเป็นรัฐบาล แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ตลาดหุ้นคงค่อยๆ ปรับจูนได้ในระยะสั้น และกลับ คืนสู่ภาวะปกติ เพราะกว่าจะตั้งรัฐบาลเสร็จ หุ้นยังคงขึ้นๆ ลงตามสถานการณ์ เลือกตั้งเสร็จแล้ว แต่ก็มีความไม่แน่นอนสูงมาก 50 :50 ต้องจับตาดู" นายนิเวศน์ ยอมรับว่า นโยบายของรัฐบาลใหม่จะมีผลกระทบต่อกลุ่มทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ไฟฟ้า หรือกลุ่มทุนผูกขาดจะได้รับผลกระทบหนัก รวมทั้งกลุ่มอื่นๆ ด้วย สะท้อนให้เห็น ตลาดเชื่อมั่นว่านโยบายที่พรรคก้าวไกลนำเสนอในช่วงเลือกตั้งจะถูกนำไปใช้จริง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องกลุ่มทุนผูกขาด ประเด็นที่นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์กังวล นอกจากการเสียภาษีเพิ่มขึ้นจากการขายหุ้น ภาษีนิติบุคคล หรือที่เรียกว่า ภาษีมั่งคั่ง ซึ่งเจ้าของหุ้นที่เป็นนิติบุคคลที่จะถูกเรียกเก็บเพิ่มขึ้น และภาษีบางประเภทจะไปกระทบกับกิจการโดยตร🔑ง ซึ่งผู้ที่โดนหนักที่สุดคือ เจ้าของบริษัทที่มีอยู่เกินครึ่งในตลาดหลักทรัพย์ นายนิเวศน์ กล่าวว่า หากลงทุนแล้วไม่ได้กำไร นักลงทุนก็จะถอนตัวจากตลาดหุ้น ราคาหุ้นก็จะลงมาก ต้องยอมรับว่า ตลาดทุนสร้างเศรษฐกิจไทย สร้างงาน และเป็นหัวใจ ตลาดทุนในโลกเศรษฐกิจยุคใหม่ที่รวมของความมั่งคั่ง ทรัพย์สิน ซึ่งการลงทุนตามหลักรัฐบาลต้องหนุน แต่ถ้าตัดตรงนี้ไปจะโตยาก หากเศรษฐกิจไม่โต ความเท่าเทียมจะไม่เกิด กูรูนักลงทุน มองว่า ขณะนี้สายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง หรือ wind of change มาถึงไทยแล้ว จึงต้องทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยให้ได้ก่อน การเกิดวิกฤติทางการเมืองทุกครั้งระหว่างกลุ่มเผด็จการและฝ่ายขวา ที่ผ่านมาไล่เลียงจากรัฐบาลทุกยุค จนถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แม้จะมีเหตุการณ์ประท้วง เดินขบวน การเมืองรุนแรง หุ้นก็ยังขึ้น นายนิเวศน์ ระบุอีกตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำรัฐประหารในปี 2557 ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำนานถึง 8 ปี 9 เดือน ราคาหุ้นต🍿อนที่เข้ามามีราคาเปิดตลาดอยู่ที่ 1,562 จุด มาถึงวันนี้ราคาหุ้นอยู่ที่ 1,539 จุด ซึ่งเห็🍉นว่าราคาหุ้นไม่ได้ขยับไปไหน คือ ไม่ขึ้น หรือลงมาก แต่อยู่ในสภาวะนิ่ง ทำให้อัตราการเติบโตเศรษฐกิจช้า บริษัทจดทะเบียนก็เติบโตช้า ไม่มีอแอ พ ผล บอละไรใหม่ นายนิเวศน์ กล่าวอีกว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่ผ่านมา พวกเราไม่ตระหนักว่า หุ้นมันไม่แคร์ มันไปได้ ถ้าทุกอย่างเป็นประชาธิปไตย จะประท้วงก็ประท้วงไป หุ้นรับได้ก็คล้ายๆ ต่างประเทศ ประท้วงก็ประท้วงไป หุ้นก็ไปได้ จะเห็นได้ว่าในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ราคาหุ้นยังไปได้ สำหรับประเด็นใหญ่ขณะนี้ หากประเทศเปลี่ยนเร็ว เป็นแนวเป็นสังคมนิยมอันตรายและเสี่ยงมาก เพราะยังไม่มีใค📸รทราบว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร คงต้องรอจนกว่าจะถึงตั้งรัฐบาลเสร็จ อ่านข่าวอื่นๆ: วิเคราะห์ : ขู่ปลุกม็อบ- “ปลุกผี” รัฐบาลแห่งชาติ ระวังปืนลั่น วิเคราะห์ : นัยความชื่นมื่นของ 8 พรรคที่ “ประชาชาติ”