จากกรณีเพจในสื่อสังคมออนไลน์โพสต์ถึงพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งที่สร้างสนามกอล์ฟในสนามฟุ
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2567 ร้านขายยาแห่งหนึ่งในพื้นที่เทศบาล ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล เภสัชกรหญิงร้านขายยา เข้าช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งด้วยวิธี Heimlich maneuver หลังจากแม่เด็กนำลูกวัย 1 ขวบมาขอความช่วยเหลื
ขณะที่โครง "คุณสู้ เรา (ยังไม่พร้อมที่จะ) ช่วย" ยังไม่ไปถึงไหน และต้องขยายเวลาต่อถึงเดือนเม.ย.2568 นี้ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ผุดไอเดีย "ซื้อหนี้ประชาชน" ออกจากระบบธนาคาร และล้างเครดิตบูโร เปิดให้ภาคเอกชนมาลงทุน โดยไม่ต้องใช้เงินรัฐ ระหว่างลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา อดีตนายกฯ ทักษิณ บอกว่า ได้พูดคุยกับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ แล้วว่า จะทำอย่างไรให้หนี้สิน🎈ของคนไทยหมดไป และนี่เป็นแค่การ "คิดดังๆ ยังไม่บอกว่าจะทำ" พลันที่มีการโยนหิน ก็มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและคัดค้าน เนื่องจากการ "ซื้อหนี้ประชาชน" มีความเสี่ยงสูง หากรัฐบาลทำได้จริงก็จะอาจจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และยังช่วยลดภาระงบประมาณและหนี้สาธารณะ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากเม็ดเงินลงทุนจากภาคเอกชน ประชาชนก็จะได้ประโยชน์สามารถกลับคืนสู่ระบบ แต่หากทำไม่ได้ และประชาชนที่มีหนี้สิน ไม่แก้ไขพฤติกรรมการเงินของตัวเอง ไม่ว่า รัฐจะมีมาตรการซื้อหนี้อีกกี่ครั้งก็ตาม ผู้ที่ได้รับเดือดร้อน คงหนีไม่พ้นประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องเป็นผู้ใช้หนี้สาธารณะ ขณะที่คนถูกซื้อหนี้ไปแล้ว ก็จะวนลูปกลับมาที่เดิม คือ เป็นหนี้ซ้ำซากไม่จบ-ไม่สิ้น นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าว ถึงแนวคิดดังกล่าวว่า ยังต้องรอดูความชัดเจนของนโยบาย โดยเฉพาะการสื่อสารของภาครัฐ เพราะปัจจุบันประชาชนบางส่วนเข้าใจว่ามาตรการนี้เป็นการ "ยกหนี้" ทั้งที่แท้จริงแล้ว เป็นการซื้อหนี้เสียมาบริหาร ซึ่งแนวคิดดังกล่าวมีข้อดี ในการช่วยบรรเทาภาระของประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ และข้อควรพิจารณาในด้านการดำเนินการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ข้อดี คือ มาตรการนี้อาจช่วยให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เช่น ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง มีโอกาสได้รับ การปรับโครงสร้างหนี้ และกลับมามีเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ และมีโอกาสในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการล้างข้อมูลเครดิตบูโรทั้งหมดอาจส่งผลต่อการประเมินพฤติกรรมการชำระหนี้ของประชาชน ซึ่งจำเป็นต่อการกำหนดแนวทางช่วยเหลือที่เหมาะสม และต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการคัดกรองกลุ่มลูกหนี้ที่สมควรได้รับความช่วยเหลือ "หากรัฐบาลจะเดินหน้ามาตรการนี้ ควรมีเกณฑ์กำกับดูแลที่รัดกุมและชัดเจนโดยมุ่งเน้นไปที่หนี้เสียที่เกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่หนี้ที่เกิดจากพฤติกรรมใช้จ่ายเกินตัว" ประธานหอการค้ากล่าว นอกจากนี้ ควรมีมาตรการเสริม เช่น การให้คำปรึกษาทางการเงิน การสนับสนุนด้านอาชีพ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ และอีกแนว ทางที่สำคัญ คือ การประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงินและภาคเอกชน เพื่อช่วยบริหารจัดการหนี้ในลักษณะที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้กลไกปรับโครงสร้างหนี้ที่มีอยู่ในภาคเอกชนควบคู่ไปกับการช่วยเหลือของภาครัฐ โดยการกำหนดแนวทางต้องหาจุดสมดุลระหว่าง การบรรเทาภาระหนี้ของประชาชน และ การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งในความคิดเห็นของหอการค้า ซึ่งยังต้องมีการระดมความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน ทั้งภาคธุรกิจ ภาคการเงิน หน่วยงานภาครัฐ และผู้เชี่ยว ชาญด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้ได้แนวทางที่เกิดผลเป็นรูปธรรมและสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ "สิ่งสำคัญสุด คือ การเร่งหาทางออกให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นไทยจะไม่สามารถก้าวข้าม “กับดักรายได้ปานกลาง” ได้ และจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว" น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า หากรัฐบาลรับซื้อหนี้เสียคืนจากประชาชน ต้องชัดเจนว่า ประเด็นแรกจะซื้อในปริมาณเท่าไหร่ เนื่องจากนายทักษิณ ระบุว่าจะซื้ออกมาทั้งหมด เพราะเพียงแค่หนี้ Non-Performing Loan หรือ NPL ก็มีมูลค่าหนี้อยู่ที่ 1.2 ล้านล้านบาท แต่เวลาธนาคารขายหนี้ให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ ก็ไม่ได้ขายมูลค่าหนี้สินในราคา 100 เปอร์เซ็นต์ "แม้จะไม่ได้เงิน 1.2 ล้านล้านบาท ก็ยังต้องใช้ถึง 3-5 แสนล้านบาท ขึ้นอยู่กับว่าจะต่อรองกับธนาคารพาณิชย์ว่า จะซื้อในราคาเท่าไหร่ แต่มูลค่าที่ต้องใช้ในการซื้อยังสูงมาก ปัจจุบันเรามีบริษัทในการซื้อหนี้กับธนาคารพาณิชย์อยู่แล้ว หรือ ธนาคารบริหารสินทรัพย์ 87 แห่ง มีมูลค่ารวมของหนี้ที่จัดการกันทั้งหมดแค่ 3 แสนล้านบาท ถ้าจะต้องใช้เงินมากขนาดนี้ บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่ 👌👊🤚🔛เอาเงินมารวมกันก็ยังไม่มีเงินซื้อ" น.ส.ศิริกัญญา กล่าว ส.ส.พรรคประชาชน ระบุว่า การซื้อหนี้เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด และธนาคารพาณิชย์จะได้ประโยชน์ที่สุด เพราะจะเคลียร์หนี้เสียที่มีอยู่ ...ถามว่า จะทำให้เศรษฐกิจดีได้เลยหรือไม่ ก็ยังต้องทำอีกหลายเรื่อง เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคตไม่ดี และสุดท้ายธนาคารก็ยังไม่ปล่อยกู้ใหม่ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต จะมีแต่ต่ำลง กลัวจะไม่ได้เงินคืน ข้อมูลเครดิตบูโร คำนวณโดย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๊วย อึ้งภากรณ์ ปี 2566 ระบุว่า คนไทย 25.5 ล้านคน หรือมากกว่า 1 ใน 3 (38.2%)ของประชากรไทยมีหนี้ มูลค่าหนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 259,291 บาทต่อคน ขณะที่คนที่มีหนี้เกิน 1 ล้านบาท มีสัดส่วนอยู่ที่ 13.5 % คนไทยที่เป็นหนี้ มีหนี้เฉลี่ย 3.3 บัญชีต่อคน หนี้ครัวเรือนของไทยคิดประมาณ 91 % ต่อจีดีพี ส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่อาจไม่สร้างรายได้ โดย 67 เปอร์เซ็นต์ ของบัญชีหนี้ เปนสินเชื่อววนบุคคลและบัต🧙♂️รเครดิต จำนวนนี้เป็นบัญชีหนี้ที่อาจสสร้างรายได้ หรือความมั่งคั่ง เช่น หนี้บ้าน หนี้ธุรกิจและหนี้เพื่อการทำเกษตรมีเพียงประมาณ 17 % และเป็นหนี้เกินต🎻ัว คือ กลุ่มเกษตรกรมีสัดส่วนรายที่นำไปจ่ายคืนหนี้ อยู่ที่ประมาณ 34 % และกลุ่มผู้มีรายได้น้อยอยู่ที่ 41 % ซึ่งทำให้มีเงินเหลือใช้จ่ายในสิ่งจำเป้น หรือเก็บออมน้อยลง โดย 40 % ของลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจ่ายแค่ขั้นต่ำ ทำให้หนี้เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นหนี้เพราะมีเหตุจำเป็น กล่าวคือ มีคนไทยเพียง 22.4 % ที่มีเงินออมเผื่อฉุกเฉินในระดับที่เหมาะสม และสามารถรองรับการหยุดงาน 6 เดือนขึ้นไป ขณะที่เกือบ 50 % ของคนไทยมีเงินออมเผื่อฉุกเฉินไม่เพียงพอ จึงทำให้ต้องก่อหนี้เ เพื่อรองรับเหตุที่ไม่คาดคิด เป็นหนี้เสีย หรือ NPL ( Non-performing Loan ) หรือหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือไม่ได้ชำระคืนตามข้อกำหนดตกลงกันตามสัญญา 23 % หรือประมาณ 1 ใน 5 ของคนไทยที่เป็นหนี้ในเครดิตยูโรมีหนี้เสีย และหนี้เสียของคนไทยเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากปี 2563 ที่ 17% มาเป็น 23 % ในปี 2566 เป็นหนี้นอกระบบ โดย 42.3% ของผู้ตอบแบบสำรวจ มีหนี้นอกระบบ โดยเฉลี่ยคนละ 54,300 บาท และเสียดอกเบี้ย ที่ประมาณ 10 % ต่อเดือน หรือ 120 % ต่อปี ทั้งนี้ลูกหนี้นกระบบที่กู้ยืมเงินแก๊งหมวกกันน็อก ต้องเสียดอกเบี้ยเฉลี่ย 20 % หรือสูงถึง 240 % ที่ผ่านมามีประชาชนลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบตามมาตราการของกระทรวงมหาดไทย สูงถึง 1.46 แสนราย โดยเป็นยอดหนี้ที่สูงถึงกว่า 10,475 ล้านบาท และมีลูกหนี้ที่สามารถไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้สำเร็จแล้วมากกว่า 16,123 ราย ในปี 2544-2549 ยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย "ทักษิณ ชินวัตร" นายกรัฐ มนตรีในขณะนั้น ได้ออกนโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร โดยให้เกษตรกรพักชำระหนี้กับธนาคารการเพื่อการเกษตรแเว็บ บา คา ร่า ฝาก ถอน ออ โต้slot1234 live22ละสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) เป็นเวลา 3 ปี ไม่นับรวมโครงการ "กองทุนหมู่บ้าน" ที่จัดสรรเงินกองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท เพื่อใช้เป็น "แหล่งทุน" ให้ชาวบ้านกู้ยืมไปประกอบอาชีพ แต่กระนั้นก็มีกองทุนจำนวนไม่น้อย ไม่สามารถใช้หนี้ได้ตามกำหนดจนเกิดภาวะ "หนี้เสีย" และ "ล้มละลาย" ต่อมาในปี 2551-2554 เข้าสู่ยุค รัฐบาลประชาธิปัตย์ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ไทยต้องเผชิญปัญหาวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้รัฐบาลต้องนำมาตรการ "พักชำระหนี้" และ "ปรับโครงสร้างหนี้" มาช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจ SMEs ปี 2554-2557 รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ได้เกิดโครงการสินเชื่อเกษตรกรให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และมีโครงการคลินิกแก้หนี้ โดยตั้งศูนย์กลางประสานงาน ระหว่างลูกหนี้กับสถาบันการเงิน ปี 2557-2566 รัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์ จ🔑ันทร์โอชา" ซึ่งทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ทำ🎮ให้รัฐบาลต้องงัดโครงการปรับโครงสร้างหนี้และพักชำระหนี้ ออกมาใช้อีกครั้ง เพื่อช่วยพยุงกลุ่ม SMEs ที่ได้รับผลกระทบหนัก ปี 2567-2568 รัฐบาลพรรคเพื่อไทย เศรษฐา ทวีสิน และ แพทองธาร ชินวัตร ได้มีมาตรการ "พักชำระดอกเบี้ยบ้านและรถยนต์" 3 ปี และโครงการ "บสย.พร้อมช่วย" ผุดโครงการ คุณสู้ เราช่วย และไอเดียล่าสุดของ "ทักษิณ"บิดานายกรัฐมนตรี คือ ซื้อหนี้ประชาชนที่คิดแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำ เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า ที่สุดแล้วมาตรการแก้หนี้ท่วมเมืองให้กับประชาชนด้วยวิธีการดังกล่าวจะสามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ อ่านข่าว: "จุลพันธ์" มั่นใจ "ซื้อหนี้ประชาชน" เกิดในรัฐบาลนี้ “คลัง” เด้งรับ ซื้อหนี้เสียประชาชน ยึดโมเดลปี40 เล็งหารือส.ธนาคารวันนี้ เทียบเปรียบแนวทางแก้หนี้เสีย ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ
ขณะที่โครง "คุณสู้ เรา (ยังไม่พร้อมที่จะ) ช่วย" ยังไม่ไปถึงไหน และต้องขยายเวลาต่อถึงเดือนเม.ย.2568 นี้ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ผุดไอเดีย "ซื้อหนี้ประชาชน" ออกจากระบบธนาคาร และล้างเครดิ