m98 เครดิตฟรีวันนæี้,,, (22 ก.คä.2566) เมื่อเวลา 13.40 น.ผู้สื่อข่าว

หากมองงบประมาณ ที่รัฐบาลทุกชุดทุ่มลงไปดับไฟใต้ เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา นับแต่เกิดเหตุการณ์ปล้นปืนที่ค่ายปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อ 4 ม.ค. 2547 -ก.ค.2567 ประเมินตัวเลขกลม🐙🈵🌽 ๆ อยู่ที่จำนวน 497,010.32 แสนล้านบาท หรือเกือบ ๆ 5 แสนล้านบาท ไล่เรียงเฉพาะงบดับไฟใต้ อยู่ในกลุ่มที่ได้รับการจัดสรรงบ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ตั้งแต่เริ่มระบบงบแผนงานบูรณาการ จนถึงปัจจุบัน ปี 2567 พบว่า ในรอบ 8 ปี งบประมาณอยู่ที่ 77, 674.8 ล้านบาท ปี 2560 จำนวน 12,510.11 ล้านบาท ,ปี 2561 จำนวน 13,255.74 ล้านบาท, ปี 2562 จำนวน 11,924.27 ล้านบาท ,ปี 2563 จำนวน 10,641.91 ล้านบาท , ปี 2564 จำนวน 9,563.34 ล้านบาท ,ปี 2565 จำนวน 6,912.07 ล้านบาท , ปี 2566 จำนวน 6,208.92 ล้านบาท , ปี 2567 จำนวน 6,658.4 ล้านบาท อ่านข่าว "ทักษิณ" เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า ทำบุญวันเกิดครบ 75 ปี ในมุมมองของ พ.ญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา อดีตสส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจm98 เครดิตฟรีไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นว่า จากวันนั้น ถึงวันนี้ ไม่มีอะไรคืบหน้า นอกจาก อุตสาหกรรมความมั่นคง นับแต่ปี 2548 รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร มีคำสั่งตั้ง คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ (กอส.) มีข้อเสนอมากมาย...แต่หลังจบรายงาน เกิดการปฏิวัติ รัฐประหาร หลายครั้ง การแก้ไขปัญหาต่างๆในพื้นที่ชายแดนใต้ ไม่มีความเปลี่ยนแปลง ทั้งๆที่งบประมาณที่ถูกทุ่มลงไป ไม่ได้น้อยลงกว่าเดิม ขณะเดียวกัน ยังมีวิธีการใช้งบฯ ที่ไม่ได้อยู่ในแผนบูรณาการจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเดียว แต่ยังกระจายอยู่ตามกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระ ทรวงมหาดไทย และกระทรวงการอุดมศึกษาและวิทยาศาสตร์ แต่ปัญหาเดิมๆ คือ ขาดความต่อเนื่องในการทำงาน แม้ไม่ได้รับผิดชอบปัญหาความมั่นคงในในพื้นที่ชายแดนใต้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลยุคนี้ มีภารกิจรับผิดชอบ ดูแลชีวิตประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย กระทรวงมหาดไทย ในฐานะฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีภารกิจดูแลศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หากมีการปูพื้นฐานด้านการศึกษาเด็กทั่วประเทศ ให้มีคุณภาพ และส่งต่อให้โรงเรียนภายใต้การกำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ หลังพ้นรั้วมัธยมศึกษาก็เข้าสู่มหาวิทยาลัย ก็จะมีกระทรวงการอุดมศึกษาและวิทยาศาสตร์ สนับสนุนทุนทำการวิจัย อ่านข่าว "เฉลิม-ทักษิณ" สิ🐏🚨้นสุดทางเพื่อน 30 ปี หากจับประเด็นถูกทิศทาง ไม่ใช่เรื่องยากที่พรรคภูมิใจไทยจะปักธงเปิดพื้นที่แจ้งเกิดสส.ในสามจังหวัดชายแดนใต้ได้ พ.ญ.เพชรดาว อีกฐานะหนึ่งที่สวมหมวกเป็นที่ปรึกษาของรมว.อว.ค้นพบว่า เมื่อครั้งเป็นกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯได้ให้ทุนนักศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2550 -2567 ถึงจำนวน 5,000 คน ปีละ 4 หมื่นบาท /ปี /คน ผู้ที่ได้รับทุนจะได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพ หลังจบการศึกษา ส่วนใหญ่ 70 เปอร์เซ็นต์ได้กลับมาทำงานในพื้นที่ จ.ชายแดนใต้และที่อื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนทุนการศึกษาต่างประเทศ จากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม ใหม่ๆ ในเดือนก.ย.นี้ จะมีงาน COMTECH ทำเรื่องโอไอซี มาตรฐานฮาราล เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ในพื้นที่ เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนและกระจายให้กับคนในสามจังหวัด "ที่ผ่านมา อว.มีการสนับสนุนแหล่งทุน สตาร์ทอัพ อินโนเวชั่น และนวัตกรรมใหม่ๆ แล้วส่งไปต่อ ยอดที่กระทรวงแรงงาน ...ยอมรับว่า การขับเคลื่อนงานใด ๆ ก็ตาม หากทำตามขั้นตอนจะช้ามาก บางเรื่องจึงต้องใช้ระบบประสานงานหลังบ้าน เช่น จ.ปัตตานี การแก้ไขปัญหาแรงงาน ก็จะประ สาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ขอให้ 5 เสือแรงงานมาหารือ หาทางช่วยเหลือด้านการจ้างงาน การฝึกอาชีพ ให้คนพิการ และชาวบ้าน ก็ได้รับการตอบรับดี" คลุกคลีกับปัญหาชายแดนใต้มาตลอดชีวิต พ.ญ.เพชรดาว บอกว่า ความยุติธรรม คือ สิ่งที่ชาวบ้านต้องการ รวมทั้งความต่อเนื่องในการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการแต่งตั้งสภาที่ปรึกษาของศอ.บต.ที่หายไปในช่วงปฎิวัติ 8 ปี แต่วันนี้คนในพื้นที ได้เรียกร้องให้มีการแต่งตั้งกลับเข้ามาใหม่ เนื่องจากสภาที่ปรึกษาศอ.บต.มาจาก การมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ นักการเมืองท้องถิ่น ผู้หญิงและผู้นำศาสนา โดยตรง คาดว่า เร็วๆนี้น่าจะได้คณะทำงาน พ.ญ.เพชรดาว เล่าว่า กระทรวงอว.ได้ลงไปทำโครงการโมเดลแก้จน ใน 20 จังหวัด แบ่งความยากจนเป็นระดับ เช่น คนยากจนจริง และคนอยากจน โดยมีการจัดกลุ่มคนจน 5 ประเภท คือ จนที่อยู่ได้ ,จนที่อยู่ไม่ได้เลย , จนจริงๆ , จนที่ยังสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และจนประเภทหากได้รับการสนับสนุน ก็จะพัฒนาก้าวพ้นความยากจนไปอยู่อีกระดับหนึ่งได้ เพราะในแต่ละจังหวัด ที่สภาพพื้นที่อยู่ติดทะเล บนบก ชายฝั่ง จะมีโมเดลแก้ปัญหาความยากจนต่างกัน ตัวตนจริง ๆ ของคนในพื้นที่ เขาไม่ได้ทะเยอทะยาน อยากรวย พอเพียง พอมี พอกินก็พอแล้ว บางครั้งรับงานมาก ๆ แล้ว เขาเหนื่อย ไม่ทำ แต่เมื่อเงินหมด ก็มาขอทำงานใหม่ นี่คือ ธรรมชาติของคนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ คำว่า "จน" ในคำนิยามของรัฐ และชาวบ้านแตกต่างกันมาก ชาวบ้านไม่ได้รู้สึกว่า เขาจน กินข้าวอิ่มก็อยู่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้คำว่า "พิเศษ" ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นทุนเข้ามหาวิทยาลัย หรืออื่น ๆ ขณะเดียวกันก็ถูกตั้งคำถามจากกลุ่มคนไทยพุทธ ในพื้นที่ว่า ทำไม สิทธิพิเศษนี้จึงได้เฉพาะกลุ่มคนมุสลิม จะเห็นได้ว่า 20 ปีที่ผ่านมา รัฐเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบ มากที่สุดในโลก เวลาไปแลกเปลี่ยนในเวทียูเอ็น เขาอาจมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ของไทย ไม่แพ้ใคร การเยียวยาดังกล่าว รวมถึงทุนการศึกษาที่รัฐให้กับครอบครัวผู้ตกเป็นเหยื่อจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ โดยให้ทุนกับเด็กกำพร้าเรียนจนจบปริญญาตรี กล่าวคือ ได้รับเงินเยียวยาถึงอายุ 25 ปี แต่ปัญหาที่พบ เด็กส่วนใหญ่ ไม่เรียนต่อ ตัวเลขจากกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า มีจำนวนถึง 3,000-4,000 คน "...ผู้ปกครองเด็กในพื้นที่ ไม่ได้อยากให้ลูกเรียนหนังสือ เพราะมองว่าต้องเสียเวลาถึง 12 ปี แต่หากไปกรีดยาง หรือเก็บลองกอง จะเห็นเงินชัดกว่า ดังนั้นการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้จะต้องครบวงจร จริงๆ " ขณะที่ ในส่วนของชาวบ้าน ก็เริ่มชินกับการได้รับความช่วยเหลือ หากมีงานอะไรให้ทำ จะถูกถามกลับว่า โครงการเป็นอย่างไร มีงบประมาณมาก-น้อยแค่ไหน ซึ่งไม่ต่างจากประเทศที่มีสงคราม ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่า เมื่อเอาเงินมาเป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา คนในพื้นที่จะเริ่มชินกับการเข้าร่วมสัมมนา การแลกเปลี่ยน แล้วจึงจะเข้าร่วม หมอเพชรดาว มองว่า การแก้ไขปัญหา หากไม่อยู่บนรากฐานของข้อเท็จจริ🍰ง ก็ไม่ประสบความสำเร็จ หากย้อนกลับไปดูข้อเรียกร้องในอดีต ตั้งแต่ยุค หะยี สุหรง โต๊ะมีนา จนถึงปัจจุบัน ไม่ไแตกต่างกันเลย คือ การชูในเรื่องอัตลัก🧁ษณ์ …หรือมีโครงการอบรม ครูโรงเรียนตาดีกา แต่ปรากฏว่า เรื่องแรกที่ถูกพูดถึง คือ ค่าตอบแทน ...จริงๆ เราไม่อยากให้เขามองเรื่องเงินเป็นหลัก ต้องการให้เน้นให้ครู มีการฝึกอบรม พัฒนาทักษะ ฝึกสมองเด็ก เพราะวัยทองของเด็ก คือ ช่วงอายุ 0-6 ขวบ อยากให้มีการพัฒนาอาหารสมองเป็นเรื่องหลัก อยากให้ชุมชน ครู ผู้ปกครอง เข้ามามีส่วนร่วม การกลับมุมคิดของชาวบ้าน เรื่องใช้เงินเป็นตัวตั้ง ไม่ง่าย เพราะแทบทุกภาคส่วนในพื้นที่ใช้เงินเป็นตัวขับเคลื่อน...ในขณะที่เรามองในเรื่อง การศึกษาเพื่อความมั่นคง ในระยะยาว อยากให้ใช้มีการใช้ภาษาแม่ เป็นอัตลักษณ์ในการเรียนการสอน เช่น ภาษามลายู เจ๊ะเห พิเทน จีน ฮักกา เนื่องจากในพื้นที่ภาคใต้ 70 % เป็นคนมลายู โดยเขียนเป็นภาษา รูมี หรืออักษรยาวี ก็ได้ แทนที่จะเขียนโดยใช้ภาษาไทยสะกด มันก็จะไม่มีการต่อต้าน ในยุคกอส.เคยมีข้อเสนอให้ใช้ภาษามลายู เป็นภาษาทำงาน แต่ความมั่นคง🥥ไม่เห็นด้วย...ทั้งๆที่มันเป็นต้นทุนดี ๆ ที่จะสื่อสารกับคนมุสลิม 300 ล้านคนทั่วโลก หากมีการยกระดับภาษามลายูบ้านเรา เป็นฐานที่มากให้เป็นภาษามลายูกลาง เพื่อสื่อสารกับ มาเลย์ อินโดนีเซีย บรูไนล์ และสิงคโปร์ได้ เมื่อเด็กเรียนจบ ไปทำงาน ตรงนี้เป็นต้นทุนความมั่นคงของประเทศ และต้นทุนของเย🤩าวชนโดยที่เขาไม่รู้ตัว "...ฝ่ายความมั่นคงต้องเปลี่ยนทัศนคติ หากสร้างเด็กในบ้านเรา ให้สามารถสื่อสารได้หลายภาษา ภาษาอังกฤษ ไทยและมลายู อย่ามองว่า การใช้ภาษามลายูเป็นการทำลายอัตลักษณ์" อ่านข่าวอื่นๆ จ่อฟ้องแพ่งค่าเสียหายคดี สวล."ปลาหมอคางดำ" หลักฐานใหม่ DNA "ปลาหมอคางดำ" ระบาดมีแหล่งที่มาร่วมกัน ศาลสั่ง กทม.-กรุงเทพธนาคม จ่ายหนี้ BTS สายสีเขียว 1.2 หมื่นล้าน