หา🔑 ราย ได้ เสริม ไม่ ต้อง ลงทุน
olehNawir Arsyad Akbar, Bayu Adji P Dalam pidatony
฿29009
บาท1
ห้องนอน
76
ห้องน้ำ
390
ตร.ม.
฿ 0198
/ ตารางเมตร
หา🔑 ราย ได้ เสริม ไม่ ต้อง ลงทุน
คนกู้บ้านยิ้ม กนง. ลดดอกเบี้ยรอบ 4 ปี 0.25% หลังแบกหนี้หลังแอ่นมานาน ศูนย์วิจัยกรุงไทยชี้ โอกาสสูงดอกเบี้ยดั้มลงอีก ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรฯ ชี้เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า เหตุหนี้ครัวเรือนยังสูง นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับ คนกู้บ้านยิ้ม หลังแบกหนี้หลังแอ่นมานานกับสินเชื่อดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยที่สูงลิ่วมาหลายปีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศลอยตัว MRR ซึ่งเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทยอยู่ที่ 8.05% ต่อปี โดยมีอัตราต่ำสุดที่ 7.3% ต่อปี และอัตราสูงสุดที่ 10.15% ต่อปี ซึ่งที่ผ่านมาหลายธนาคารมีการลอยตัวอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหมายความว่า ถ้าMRR ขึ้น ดอกเบี้ยที่ได้รับก็จะขึ้นตาม ยอดในการผ่อนชำระแม้จะไม่เพิ่มขึ้นแต่ยอดหักเงินต้นจะลดลงและจะไปเพิ่มในส่วนของดอกเบี้ยแทน ต่างกับดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งเป็นดอกเบี้ยในอัตราต่ำพิเศษ ประมาณ 3 ปีแรกแล้ว ซึ่งแม้ว่าMRR จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง อัตราดอกเบี้ยที่ทำไว้จะไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนหากดอกเบี้ย MRR ลด 0.25% จะได้ลดดอกเบี้ยเท่าไรนั้น ยกตัวอย่างหากกู้เงินมา 1,000,000 บาท ดอกเบี้ยลดลง 0.25% ต่อปี คิดแบบคร่าวๆจะได้ลดดอกเบี้ยลง 2,500 บาทต่อปี ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี สู่ระดับ 2.25% ในการประชุมครั้งที่ 5/2567 ซึ่ง กนง. ประเมินว่าจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง และไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ โดยกนง.มองว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 2.7% ในปี 2567 และ 2.9% ในปี 2568 โตต่อเนื่องจาก 1.9% เมื่อปี 2566 จากแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นตามความต้องการสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวยังมีความแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ที่ 0.5% และ 1.2% ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อในหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากภาวะอากาศแปรปรวน ขณะที่ผลของฐานต่ำในปีก่อนจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงานเพิ่มขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2567 และ 2568 จะอยู่ในระดับต่ำที่ 0.5% และ 0.9% ตามลำดับ ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย วิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้ที่กนง.จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปในอนาคต ซึ่ง สะท้อนจากมุมมองของ กนง. ต่อโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในช่วงหา ราย ได้ เสริม ไม่ ต้อง ลงทุนครึ่งหลังของปี 2567 ที่คาดว่าจีดีพีจะเติบโต 1.0% (เทียบกับ 1.2% ใน 1/67) ตามด้วยแรงส่งที่แผ่วลงต่อเนื่องสู่ 0.6% ในปี 2568 ปัจจัยหลักจากการชะลอตัวของการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกในปีหน้า ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงที่เหลือของปีรวมถึงตัวเลขคาดการณ์ในปี 2568 ที่ 1.2% ยังต่ำกว่าค่ากลางของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญความไม่แน่นอนที่จะส่งผลกระทบต่อภาวะทางการเงิน (Financial conditions) จาก การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางหลักฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะเฟดซึ่ง อยู่ในช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ส่งผลต่อความผันผวนในตลาดการเงินโดยเฉพาะค่าเงินบาท ซึ่งอาจกดดันต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ และ เศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้ากระทบต่อการขยายตัวของสินเชื่อมากกว่าที่ กนง. คาด มองไปข้างหน้า ปัจจัยเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอาจเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมได้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ทำการวิเคราะห์ครัวเรือนไทยชะลอลงตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ในขณะที่ไตรมาส 2/2567 เติบโตเพียง 1.3% นับเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดในสถิติข้อมูลหนี้ครัวเรือนที่ย้อนหลังได้ถึงปี 2546 ซึ่งสะท้อนจาก 4 ได้แก่ หนี้รถทยอยหดตัว สินเชื่อบ้านโตช้า แต่หนี้เพื่ออุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลยังเติบโต และหนี้จากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่แบงก์และ SFIs ทยอยเพิ่มสูงขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า หนี้ครัวเรือนไทยอาจเติบโตต่ำกว่า 1.0% ในปี 2567 เนื่องจากเศรษฐกิจในภาพรวมยังมีสัญญาณฟื้นตัวช้าซึ่งเป็นข้อจำกัดในการฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือนและความสามารถในการก่อหนี้ก้อนใหม่ ซึ่งทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับทบทวนประมาณการสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปี 2567 ลงมาที่กรอบ 88.5-89.5% อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากผลสำรวจหนี้สินครัวเรือนประจำไตรมาส 3/2567 ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ครัวเรือนในแต่ละกลุ่มระดับรายได้มีความสามารถในการรับมือกับภาระหนี้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการลดลงของสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในภาพใหญ่ของทั้งประเทศ จึงไม่อาจสะท้อนว่า ภาระหนี้สินและปัญหาการชำระหนี้ในระดับครัวเรือนจะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามในทันที ไทยพีบีเอสออนไลน์ สอบถามความคิดเห็นประชาชนถึงการประกาศลดดอกเบี้ย ลง0.25% ถึงประโยชน์ที่ได้รับ ว่า เป็นข่าวดีสำหรับคนที่กำลังมีแผนจะซื้อที่อยู่อาศัย และ ผู้ที่มีกู้ซื้อบ้านไปแล้ว รวมถึงคนที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับสถานบันการเงิน ที่จะได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่ถูกลงแม้ว่าจะไม่มากแต่ก็ยังดีที่ช่วยแบ่งเบาภาระในการผ่อนชำระต่อเดือนลงได้บ้าง อ่านข่าว: ส่องค่าใช้จ่าย “คนไทย” เปย์ อะไร ? มากที่สุดในแต่ละเดือน "ขุนคลัง" ชี้ลดดอกเบี้ย 0.25% ลดภาระประชาชน กนง. มติ 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ย 0.25% มีผลทันที
UID: 41158
คนกู้บ้านยิ้ม กนง. ลดดอกเบี้ยรอบ 4 ปี 0.25% หลังแบกหนี้หลังแอ่นมานาน ศูนย์วิจัยกรุงไทยชี้ โอกาสสูงดอ
วันนี้ (28 มิ.ย.2🥇564) นายสุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คนกู้บ้านยิ้ม กนง. ลดดอกเบี้ยรอบ 4 ปี 0.25% หลังแบกหนี้หลังแอ่นมานาน ศูนย์วิจัยกรุงไทยชี้ โอกาสสูงดอกเบี้ยดั้มลงอีก ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรฯ ชี้เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า เหตุหนี้ครัวเรือนยังสูง นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับ คนกู้บ้านยิ้ม หลังแบกหนี้หลังแอ่นมานานกับสินเชื่อดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยที่สูงลิ่วมาหลายปีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศลอยตัว MRR ซึ่งเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทยอยู่ที่ 8.05% ต่อปี โดยมีอัตราต่ำสุดที่ 7.3% ต่อปี และอัตราสูงสุดที่ 10.15% ต่อปี ซึ่งที่ผ่านมาหลายธนาคารมีการลอยตัวอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหมายความว่า ถ้าMRR ขึ้น ดอกเบี้ยที่ได้รับก็จะขึ้นตาม ยอดในการผ่อนชำระแม้จะไม่เพิ่มขึ้นแต่ยอดหักเงินต้นจะลดลงและจะไปเพิ่มในส่วนของดอกเบี้ยแทน ต่างกับดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งเป็นดอกเบี้ยในอัตราต่ำพิเศษ ประมาณ 3 ปีแรกแล้ว ซึ่งแม้ว่าMRR จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง อัตราดอกเบี้ยที่ทำไว้จะไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนหากดอกเบี้ย MRR ลด 0.25% จะได้ลดดอกเบี้ยเท่าไรนั้น ยกตัวอย่างหากกู้เงินมา 1,000,000 บาท ดอกเบี้ยลดลง 0.25% ต่อปี คิดแบบคร่าวๆจะได้ลดดอกเบี้ยลง 2,500 บาทต่อปี ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี สู่ระดับ 2.25% ในการประชุมครั้งที่ 5/2567 ซึ่ง กนง. ประเมินว่าจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง และไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ โดยกนง.มองว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 2.7% ในปี 2567 และ 2.9% ในปี 2568 โตต่อเนื่องจาก 1.9% เมื่อปี 2566 จากแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นตามความต้องการสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวยังมีความแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ที่ 0.5% และ 1.2% ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อในหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากภาวะอากาศแปรปรวน ขณะที่ผลของฐานต่ำในปีก่อนจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงานเพิ่มขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2567 และ 2568 จะอยู่ในระดับต่ำที่ 0.5% และ 0.9% ตามลำดับ ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย วิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้ที่กนง.จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปในอนาคต ซึ่ง สะท้อนจากมุมมองของ กนง. ต่อโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในช่วงหา ราย ได้ เสริม ไม่ ต้อง ลงทุนครึ่งหลังของปี 2567 ที่คาดว่าจีดีพีจะเติบโต 1.0% (เทียบกับ 1.2% ใน 1/67) ตามด้วยแรงส่งที่แผ่วลงต่อเนื่องสู่ 0.6% ในปี 2568 ปัจจัยหลักจากการชะลอตัวของการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกในปีหน้า ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไ🔥ปในช่วงที่เหลือของปีรวมถึงตัวเลขคาดการณ์ในปี 2568 ที่ 1.2% ยังต่ำกว่าค่ากลางของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญความไม่แน่นอนที่จะส่งผลกระทบต่อภาวะทางการเงิน (Financial conditions) จาก การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางหลักฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะเฟดซึ่ง อยู่ในช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ส่งผลต่อความผันผวนในตลาดการเงินโดยเฉพาะค่าเงินบาท ซึ่งอาจกดดันต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ และ เศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้ากระทบต่อการขยายตัวของสินเชื่อมากกว่าที่ กนง. คาด มองไปข้างหน้า ปัจจัยเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอาจเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมได้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ทำการวิเคราะห์ครัวเรือนไทยชะลอลงตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ในขณะที่ไตรมาส 2/2567 เติบโตเพียง 1.3% นับเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดในสถิติข้อมูลหนี้ครัวเรือนที่ย้อนหลังได้ถึงปี 2546 ซึ่งสะท้อนจาก 4 ได้แก่ หนี้รถทยอยหดตัว สินเชื่อบ้านโตช้า แต่หนี้เพื่ออุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลยังเติบโต และหนี้จากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่แบงก์และ SFIs ทยอยเพิ่มสูงขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า หนี้ครัวเรือนไทยอาจเติบโตต่ำกว่า 1.0% ในปี 2567 เนื่องจากเศรษฐกิจในภาพรวมยังมีสัญญาณฟื้นตัวช้าซึ่งเป็นข้อจำกัดในการฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือนและความสามารถในการก่อหนี้ก้อนใหม่ ซึ่งทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับทบทวนประมาณการสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปี 2567 ลงมาที่กรอบ 88.5-89.5% อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากผลสำรวจหนี้สินครัวเรือนประจำไตรมาส 3/2567 ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ครัวเรือนในแต่ละกลุ่มระดับรายได้มีความสามารถในการรับมือกับภาระหนี้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการลดลงของสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในภาพใหญ่ของทั้งประเทศ จึงไม่อาจสะท้อนว่า ภาระหนี้สินและปัญหาการชำระหนี้ในระดับครัวเรือนจะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามในทันที ไทยพีบีเอสออนไลน์ สอบถามความคิดเห็นประชาชนถึงการประกาศลดดอกเบี้ย ลง0.25% ถึงประโยชน์ที่ได้รับ ว่า เป็นข่าวดีสำหรับคนที่กำลังมีแผนจะซื้อที่อยู่อาศัย และ ผู้ที่มีกู้ซื้อบ้านไปแล้ว รวมถึงคนที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับสถานบันการเงิน ที่จะได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่ถูกลงแม้ว่าจะไม่มากแต่ก็ยังดีที่ช่วยแบ่งเบาภาระในการผ่อนชำระต่อเดือนลงได้บ้าง อ่านข่าว: ส่องค่าใช้จ่าย “คนไทย” เปย์ อะไร ? มากที่สุดในแต่ละเดือน "ขุนคลัง" ชี้ลดดอกเบี้ย 0.25% ลดภาระประชาชน กนง. มติ 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ย 0.25% มีผลทันที
จากกรณีเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2566 ที่ กกต. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศรับรองการเลือกตั้ง ส
คนกู้บ้านยิ้ม กนง. ลดดอกเบี้ยรอบ 4 ปี 0.25% หลังแบกหนี้หลังแอ่นมานาน ศูนย์วิจัยกรุงไทยชี้ โอกาสสูงดอ
วันนี้ (28 มิ.ย.2🥇564) นายสุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คนกู้บ้านยิ้ม กนง. ลดดอกเบี้ยรอบ 4 ปี 0.25% หลังแบกหนี้หลังแอ่นมานาน ศูนย์วิจัยกรุงไทยชี้ โอกาสสูงดอกเบี้ยดั้มลงอีก ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรฯ ชี้เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า เหตุหนี้ครัวเรือนยังสูง นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับ คนกู้บ้านยิ้ม หลังแบกหนี้หลังแอ่นมานานกับสินเชื่อดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยที่สูงลิ่วมาหลายปีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศลอยตัว MRR ซึ่งเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทยอยู่ที่ 8.05% ต่อปี โดยมีอัตราต่ำสุดที่ 7.3% ต่อปี และอัตราสูงสุดที่ 10.15% ต่อปี ซึ่งที่ผ่านมาหลายธนาคารมีการลอยตัวอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหมายความว่า ถ้าMRR ขึ้น ดอกเบี้ยที่ได้รับก็จะขึ้นตาม ยอดในการผ่อนชำระแม้จะไม่เพิ่มขึ้นแต่ยอดหักเงินต้นจะลดลงและจะไปเพิ่มในส่วนของดอกเบี้ยแทน ต่างกับดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งเป็นดอกเบี้ยในอัตราต่ำพิเศษ ประมาณ 3 ปีแรกแล้ว ซึ่งแม้ว่าMRR จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง อัตราดอกเบี้ยที่ทำไว้จะไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนหากดอกเบี้ย MRR ลด 0.25% จะได้ลดดอกเบี้ยเท่าไรนั้น ยกตัวอย่างหากกู้เงินมา 1,000,000 บาท ดอกเบี้ยลดลง 0.25% ต่อปี คิดแบบคร่าวๆจะได้ลดดอกเบี้ยลง 2,500 บาทต่อปี ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี สู่ระดับ 2.25% ในการประชุมครั้งที่ 5/2567 ซึ่ง กนง. ประเมินว่าจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง และไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ โดยกนง.มองว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 2.7% ในปี 2567 และ 2.9% ในปี 2568 โตต่อเนื่องจาก 1.9% เมื่อปี 2566 จากแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นตามความต้องการสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวยังมีความแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ที่ 0.5% และ 1.2% ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อในหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากภาวะอากาศแปรปรวน ขณะที่ผลของฐานต่ำในปีก่อนจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงานเพิ่มขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2567 และ 2568 จะอยู่ในระดับต่ำที่ 0.5% และ 0.9% ตามลำดับ ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย วิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้ที่กนง.จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปในอนาคต ซึ่ง สะท้อนจากมุมมองของ กนง. ต่อโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในช่วงหา ราย ได้ เสริม ไม่ ต้อง ลงทุนครึ่งหลังของปี 2567 ที่คาดว่าจีดีพีจะเติบโต 1.0% (เทียบกับ 1.2% ใน 1/67) ตามด้วยแรงส่งที่แผ่วลงต่อเนื่องสู่ 0.6% ในปี 2568 ปัจจัยหลักจากการชะลอตัวของการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกในปีหน้า ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไ🔥ปในช่วงที่เหลือของปีรวมถึงตัวเลขคาดการณ์ในปี 2568 ที่ 1.2% ยังต่ำกว่าค่ากลางของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญความไม่แน่นอนที่จะส่งผลกระทบต่อภาวะทางการเงิน (Financial conditions) จาก การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางหลักฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะเฟดซึ่ง อยู่ในช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ส่งผลต่อความผันผวนในตลาดการเงินโดยเฉพาะค่าเงินบาท ซึ่งอาจกดดันต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ และ เศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้ากระทบต่อการขยายตัวของสินเชื่อมากกว่าที่ กนง. คาด มองไปข้างหน้า ปัจจัยเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอาจเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมได้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ทำการวิเคราะห์ครัวเรือนไทยชะลอลงตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ในขณะที่ไตรมาส 2/2567 เติบโตเพียง 1.3% นับเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดในสถิติข้อมูลหนี้ครัวเรือนที่ย้อนหลังได้ถึงปี 2546 ซึ่งสะท้อนจาก 4 ได้แก่ หนี้รถทยอยหดตัว สินเชื่อบ้านโตช้า แต่หนี้เพื่ออุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลยังเติบโต และหนี้จากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่แบงก์และ SFIs ทยอยเพิ่มสูงขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า หนี้ครัวเรือนไทยอาจเติบโตต่ำกว่า 1.0% ในปี 2567 เนื่องจากเศรษฐกิจในภาพรวมยังมีสัญญาณฟื้นตัวช้าซึ่งเป็นข้อจำกัดในการฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือนและความสามารถในการก่อหนี้ก้อนใหม่ ซึ่งทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับทบทวนประมาณการสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปี 2567 ลงมาที่กรอบ 88.5-89.5% อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากผลสำรวจหนี้สินครัวเรือนประจำไตรมาส 3/2567 ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ครัวเรือนในแต่ละกลุ่มระดับรายได้มีความสามารถในการรับมือกับภาระหนี้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการลดลงของสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในภาพใหญ่ของทั้งประเทศ จึงไม่อาจสะท้อนว่า ภาระหนี้สินและปัญหาการชำระหนี้ในระดับครัวเรือนจะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามในทันที ไทยพีบีเอสออนไลน์ สอบถามความคิดเห็นประชาชนถึงการประกาศลดดอกเบี้ย ลง0.25% ถึงประโยชน์ที่ได้รับ ว่า เป็นข่าวดีสำหรับคนที่กำลังมีแผนจะซื้อที่อยู่อาศัย และ ผู้ที่มีกู้ซื้อบ้านไปแล้ว รวมถึงคนที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับสถานบันการเงิน ที่จะได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่ถูกลงแม้ว่าจะไม่มากแต่ก็ยังดีที่ช่วยแบ่งเบาภาระในการผ่อนชำระต่อเดือนลงได้บ้าง อ่านข่าว: ส่องค่าใช้จ่าย “คนไทย” เปย์ อะไร ? มากที่สุดในแต่ละเดือน "ขุนคลัง" ชี้ลดดอกเบี้ย 0.25% ลดภาระประชาชน กนง. มติ 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ย 0.25% มีผลทันที
จากกรณีเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2566 ที่ กกต. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศรับรองการเลือกตั้ง ส
สิ่งอำนวยความสะดวก
การตกแต่ง
เครื่องปรับอากาศ
ชั้นบน
เตาอบ/ไมโครเวฟ
ความสะดวกโดยรอบ
กล้องวงจรปิด
เครืองปรับอากาศ
โถงรอลิฟท์ร้านอาหาร
ทางเข้าหลัก
ยอดสินเชื่อโดยประมาณ
รายละเอียดสินเชื่อ
ยอดสินเชื่อที่ต้องชำระต่อเดือนโดยประมาณ
฿ 0 / เดือน
฿ 0 เงินต้น
฿ 0 ดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายที่อาจต้องมีเบื้องต้น
เงินดาวน์ทั้งหมด
฿ 0
เงินดาวน์
จำนวนสินเชื่อ ฿ 0 ในอัตรา 0% ของสินเชื่อต่อราคาบ้าน (Loan-to-value)
Sejumlah elite partai politik (parpol) dan tokoh m

JAKARTA - - Inggris menikmati kemenangan 3-1 atasFinlandiaberkat gol dari Jack Grealish, Trent Alexander-Arnold,dan Declan Rice di Stadion Olimpiade Helsinki pada Senin dini hari WIB. Hasil ini mengem
ดูรายละเอียดโครงการคำถามที่พบบ่อย
Universitas Muhammadiyah Jakarta (UMJ) bersama denganINHAUniversity Korea Selatan berkolaborasi dala
Kereta Cepat Whoosh menjadi salah satu moda transportasi favorit para pecinta golf dari Jakarta. Hal
Ribuanburuhyang merayakanHari Buruh Internasional2025 (May Day) mulai meninggalkan kawasan Monas, Ja
SEMARANG – Trend kecelakaan dan penyakit akibat kerja, menurut Direktur Bina Kelembagaan Kesehatan d
Mantan penyidik KPK, Yudi Purnomo Harahap menyoroti Wakil Ketua KPKAlexander Marwatayang dilaporkan
ค้นหาประกาศอื่นรอบๆ ทุ่งพญาไท
จากสิ่งที่คุณค้นหา คุณอาจจะสนใจตัวเลือกต่อไปนี้
slot 24slot 24 jam bri murah jam bri murah
slotxo45888casino ฟรี เครดิต