คา สิ โน aut,,,o 77 918kiss ฟรี เครดิต ไม่ ต้อง ฝาก
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดอิชิกาวะ ประเทศญี
฿38812
บาท7
ห้องนอน
16
ห้องน้ำ
237
ตร.ม.
฿ 0290
/ ตารางเมตร
คา สิ โน aut,,,o 77 918kiss ฟรี เครดิต ไม่ ต้อง ฝาก
กสม.ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ ผู้นำศาสนา ประชาชน ในจังหวัดชายแดนใต้ วันนี้ (27 ก.ค.2558) กสม. ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอให้กำลังใจประชาชนและผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่รวมถึงให้เร่งติดตามจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ กสม.ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ ผู้นำศาสนา ประชาชน ในคา สิ โน auto 77 918kiss ฟรี เครดิต ไม่ ต้อง ฝากจังหวัดชายแดนใต้ วันนี้ (27 ก.ค.2558) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเนื้อหาดังนี้ แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 กรณีมีคนร้ายลอบวางระเบิดชุดรักษาความปลอดภัยพระภิกษุสงฆ์บริเวณตลาดเก่า ถนนริมแม่น้ำสายบุรี หลัง สภ.สายบุรี เขตเทศบาล ตำบลตะลูบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีพระภิกษุสงฆ์มรณภาพ 1 รูป ขณะออกบิณฑบาตตามปกติทุกวันในตอนเช้า ทหารผู้กล้าเสียชีวิตจำนวน 1 นาย ซึ่งเป็นทหารชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นทหาร ผู้สูงอายุ ประชาชน จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อ ผู้ที่เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว ตลอดจนมีความห่วงใยใน สวัสดิภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กสม. ขอยืนยันว่าหลักการสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม ไม่มีผู้ใดสามารถละเมิดต่อชีวิต ผู้อื่นได้ ไม่ว่ากรณีใด และขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่โหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน ผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สุด และขัดต่อหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ อีกทั้งห้วงระยะเวลาที่ก่อความไม่สงบ เกิดขึ้นในขณะที่พระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาตตามหลักทางศาสนา โดยผู้ที่เสียชีวิตเป็นพระภิกษุสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ต่างเป็นผู้บริสุทธิ์ กสม. ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ในการส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้ และเพื่อให้เกิด ความสงบเรียบร้อยอยู่ร่วมกันด้วยความสันติสุข จึงขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้ 1. กสม. ขอให้ทุกฝ่ายร่วมส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ประชาชนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 2. ขอให้กำลังใจแก่ทุกภาคส่วนในพื้นที่ที่จะร่วมมือกันดูแลระมัดระวัง และรักษาความปลอดภัย รวมถึงต้องขอชื่นชมหน่วยงานความมั่นคงที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวด รัดกุมให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ สตรี ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และประชาชน ผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการปกป้อง และคุ้มครอง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และทำให้ความสงบสุขในพื้นที่กลับคืนมา 3. รัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชนเป็นระยะๆ 4. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ความเสียหาย ฟื้นฟูสภาพจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบและครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ กสม. จะติดตามสถานการณ์และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ อีกทั้งจะดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอสนับสนุนรัฐบาลในการดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ในทุกๆ ด้านให้กลับคืนมา พร้อมเร่งเยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งขอวิงวอน ผู้ที่หลงผิดให้ยุติการกระทำความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และขอให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อนำความสงบและสันติสุขคืนสู่ประเทศไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 27 กรกฎาคม 2558 วันนี้ (27 ก.ค.2558) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเนื้อหาดังนี้ แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 กรณีมีคนร้ายลอบวางระเบิดชุดรักษาความปลอดภัยพระภิกษุสงฆ์บริเวณตลาดเก่า ถนนริมแม่น้ำสายบุรี หลัง สภ.สายบุรี เขตเทศบาล ตำบลตะลูบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีพระภิกษุสงฆ์มรณภาพ 1 รูป ขณะออกบิณฑบาตตามปกติทุกวันในตอนเช้า ทหารผู้กล้าเสียชีวิตจำนวน 1 นาย ซึ่งเป็นทหารชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นทหาร ผู้สูงอายุ ประชาชน จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อ ผู้ที่เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว ตลอดจนมีความห่วงใยใน สวัสดิภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กสม. ขอยืนยันว่าหลักการสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม ไม่มีผู้ใดสามารถละเมิดต่อชีวิต ผู้อื่นได้ ไม่ว่ากรณีใด และขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่โหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน ผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สุด และขัดต่อหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ อีกทั้งห้วงระยะเวลาที่ก่อความไม่สงบ เกิดขึ้นในขณะที่พระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาตตามหลักทางศาสนา โดยผู้ที่เสียชีวิตเป็นพระภิกษุสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ต่างเป็นผู้บริสุทธิ์ กสม. ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ในการส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้ และเพื่อให้เกิด ความสงบเรียบร้อยอยู่ร่วมกันด้วยความสันติสุข จึงขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้ 1. กสม. ขอให้ทุกฝ่ายร่วมส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ประชาชนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 2. ขอให้กำลังใจแก่ทุกภาคส่วนในพื้นที่ที่จะร่วมมือกันดูแลระมัดระวัง และรักษาความปลอดภัย รวมถึงต้องขอชื่นชมหน่วยงานความมั่นคงที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวด รัดกุมให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ สตรี ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และประชาชน ผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการปกป้อง และคุ้มครอง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และทำให้ความสงบสุขในพื้นที่กลับคืนมา 3. รัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชนเป็นระยะๆ 4. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ความเสียหาย ฟื้นฟูสภาพจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบและครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ กสม. จะติดตามสถานการณ์และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ อีกทั้งจะดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอสนับสนุนรัฐบาลในการดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ในทุกๆ ด้านให้กลับคืนมา พร้อมเร่งเยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งขอวิงวอน ผู้ที่หลงผิดให้ยุติการกระทำความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และขอให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อนำความสงบและสันติสุขคืนสู่ประเทศไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 27 กรกฎาคม 2558
UID: 59678
วันนี้ (18 ม.ค.2567) กรณีมีข่าว นายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก ถูกกล่าวหาว่าลงมือฆ่าป้าบัวผันต่อมาถูกปล่อยต
ที่ลานพญานาคคู่ หน้าวัดลำดวน จ.หนองคาย เป็นสถานที่ฝึกซ้อมกีฬาเทควันโดของเยาวชนในตัวเมืองหนองคาย โดยม
กสม.ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ ผู้นำศาสนา ประชาชน ในจังหวัดชายแดนใต้ วันนี้ (27 ก.ค.2558) กสม. ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอให้กำลังใจประชาชนและผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่รวมถึงให้เร่งติดตามจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ กสม.ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ ผู้นำศาสนา ประชาชน ในคา สิ โน auto 77 918kiss ฟรี เครดิต ไม่ ต้อง ฝากจังหวัดชายแดนใต้ วันนี้ (27 ก.ค.2558) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเนื้อหาดังนี้ แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 กรณีมีคนร้ายลอบวางระเบิดชุดรักษาความปลอดภัยพระภิกษุสงฆ์บริเวณตลาดเก่า ถนนริมแม่น้ำสายบุรี หลัง สภ.สายบุรี เขตเทศบาล ตำบลตะลูบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีพระภิกษุสงฆ์มรณภาพ 1 รูป ขณะออกบิณฑบาตตามปกติทุกวันในตอนเช้า ทหารผู้กล้าเสียชีวิตจำนวน 1 นาย ซึ่งเป็นทหารชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นทหาร ผู้สูงอายุ ประชาชน จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อ ผู้ที่เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว ตลอดจนมีความห่วงใยใน สวัสดิภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กสม. ขอยืนยันว่าหลักการสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม ไม่มีผู้ใดสามารถละเมิดต่อชีวิต ผู้อื่นได้ ไม่ว่ากรณีใด และขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่โหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน ผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สุด และขัดต่อหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ อีกทั้งห้วงระยะเวลาที่ก่อความไม่สงบ เกิดขึ้นในขณะที่พระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาตตามหลักทางศาสนา โดยผู้ที่เสียชีวิตเป็นพระภิกษุสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ต่างเป็นผู้บริสุทธิ์ กสม. ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ในการส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้ และเพื่อให้เกิด ความสงบเรียบร้อยอยู่ร่วมกันด้วยความสันติสุข จึงขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้ 1. กสม. ขอให้ทุกฝ่ายร่วมส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ประชาชนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 2. ขอให้กำลังใจแก่ทุกภาคส่วนในพื้นที่ที่จะร่วมมือกันดูแลระมัดระวัง และรักษาความปลอดภัย รวมถึงต้องขอชื่นชมหน่วยงานความมั่นคงที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวด รัดกุมให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ สตรี ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และประชาชน ผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการปกป้อง และคุ้มครอง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และทำให้ความสงบสุขในพื้นที่กลับคืนมา 3. รัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชนเป็นระยะๆ 4. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ความเสียหาย ฟื้นฟูสภาพจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบและครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ กสม. จะติดตามสถานการณ์และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ อีกทั้งจะดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอสนับสนุนรัฐบาลในการดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ในทุกๆ ด้านให้กลับคืนมา พร้อมเร่งเยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งขอวิงวอน ผู้ที่หลงผิดให้ยุติการกระทำความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และขอให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อนำความสงบและสันติสุขคืนสู่ประเทศไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 27 กรกฎาคม 2558 วันนี้ (27 ก.ค.2558) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเนื้อหาดังนี้ แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 กรณีมีคนร้ายลอบวางระเบิดชุดรักษาความปลอดภัยพระภิกษุสงฆ์บริเวณตลาดเก่า ถนนริมแม่น้ำสายบุรี หลัง สภ.สายบุรี เขตเทศบาล ตำบลตะลูบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีพระภิกษุสงฆ์มรณภา,,,พ 1 รูป ขณะออกบิณฑบาตตามปกติทุกวันในตอนเช้า ทหารผู้กล้าเสียชีวิตจำนวน 1 นาย ซึ่งเป็นทหารชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นทหาร ผู้สูงอายุ ประชาชน จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อ ผู้ที่เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว ตลอดจนมีความห่วงใยใน สวัสดิภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กสม. ขอยืนยันว่าหลักการสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม ไม่มีผู้ใดสามารถละเมิดต่อชีวิต ผู้อื่นได้ ไม่ว่ากรณีใด และขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่โหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน ผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สุด และขัดต่อหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ อีกทั้งห้วงระยะเวลาที่ก่อความไม่สงบ เกิดขึ้นในขณะที่พระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาตตามหลักทางศาสนา โดยผู้ที่เสียชีวิตเป็นพระภิกษุสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ต่างเป็นผู้บริสุทธิ์ กสม. ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ในการส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้ และเพื่อให้เกิด ความสงบเรียบร้อยอยู่ร่วมกันด้วยความสันติสุข จึงขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้ 1. กสม. ขอให้ทุกฝ่ายร่วมส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ประชาชนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 2. ขอให้กำลังใจแก่ทุกภาคส่วนในพื้นที่ที่จะร่วมมือกันดูแลระมัดระวัง และรักษาความปลอดภัย รวมถึงต้องขอชื่นชมหน่วยงานความมั่นคงที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวด รัดกุมให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ สตรี ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และประชาชน ผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการปกป้อง และคุ้มครอง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และทำให้ความสงบสุขในพื้นที่กลับคืนมา 3. รัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชนเป็นระยะๆ 4. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ความเสียหาย ฟื้นฟูสภาพจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบและครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ กสม. จะติดตามสถานการณ์และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ อีกทั้งจะดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอสนับสนุนรัฐบาลในการดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ในทุกๆ ด้านให้กลับคืนมา พร้อมเร่งเยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งขอวิงวอน ผู้ที่หลงผิดให้ยุติการกระทำความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และขอให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อนำความสงบและสันติสุขคืนสู่ประเทศไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 27 กรกฎาคม 2558
กสม.ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ ผู้นำศาสนา ประชาชน ในจังหวัดชายแดนใต้ วันนี้ (27
วันนี้ (18 ม.ค.2567) กรณีมีข่าว นายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก ถูกกล่าวหาว่าลงมือฆ่าป้าบัวผันต่อมาถูกปล่อยต
ที่ลานพญานาคคู่ หน้าวัดลำดวน จ.หนองคาย เป็นสถานที่ฝึกซ้อมกีฬาเทควันโดของเยาวชนในตัวเมืองหนองคาย โดยม
กสม.ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ ผู้นำศาสนา ประชาชน ในจังหวัดชายแดนใต้ วันนี้ (27 ก.ค.2558) กสม. ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอให้กำลังใจประชาชนและผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่รวมถึงให้เร่งติดตามจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ กสม.ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ ผู้นำศาสนา ประชาชน ในคา สิ โน auto 77 918kiss ฟรี เครดิต ไม่ ต้อง ฝากจังหวัดชายแดนใต้ วันนี้ (27 ก.ค.2558) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเนื้อหาดังนี้ แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 กรณีมีคนร้ายลอบวางระเบิดชุดรักษาความปลอดภัยพระภิกษุสงฆ์บริเวณตลาดเก่า ถนนริมแม่น้ำสายบุรี หลัง สภ.สายบุรี เขตเทศบาล ตำบลตะลูบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีพระภิกษุสงฆ์มรณภาพ 1 รูป ขณะออกบิณฑบาตตามปกติทุกวันในตอนเช้า ทหารผู้กล้าเสียชีวิตจำนวน 1 นาย ซึ่งเป็นทหารชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นทหาร ผู้สูงอายุ ประชาชน จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อ ผู้ที่เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว ตลอดจนมีความห่วงใยใน สวัสดิภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กสม. ขอยืนยันว่าหลักการสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม ไม่มีผู้ใดสามารถละเมิดต่อชีวิต ผู้อื่นได้ ไม่ว่ากรณีใด และขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่โหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน ผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สุด และขัดต่อหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ อีกทั้งห้วงระยะเวลาที่ก่อความไม่สงบ เกิดขึ้นในขณะที่พระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาตตามหลักทางศาสนา โดยผู้ที่เสียชีวิตเป็นพระภิกษุสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ต่างเป็นผู้บริสุทธิ์ กสม. ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ในการส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้ และเพื่อให้เกิด ความสงบเรียบร้อยอยู่ร่วมกันด้วยความสันติสุข จึงขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้ 1. กสม. ขอให้ทุกฝ่ายร่วมส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ประชาชนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 2. ขอให้กำลังใจแก่ทุกภาคส่วนในพื้นที่ที่จะร่วมมือกันดูแลระมัดระวัง และรักษาความปลอดภัย รวมถึงต้องขอชื่นชมหน่วยงานความมั่นคงที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวด รัดกุมให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ สตรี ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และประชาชน ผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการปกป้อง และคุ้มครอง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และทำให้ความสงบสุขในพื้นที่กลับคืนมา 3. รัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชนเป็นระยะๆ 4. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ความเสียหาย ฟื้นฟูสภาพจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบและครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ กสม. จะติดตามสถานการณ์และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ อีกทั้งจะดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอสนับสนุนรัฐบาลในการดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ในทุกๆ ด้านให้กลับคืนมา พร้อมเร่งเยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งขอวิงวอน ผู้ที่หลงผิดให้ยุติการกระทำความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และขอให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อนำความสงบและสันติสุขคืนสู่ประเทศไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 27 กรกฎาคม 2558 วันนี้ (27 ก.ค.2558) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเนื้อหาดังนี้ แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ของรัฐ สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 กรณีมีคนร้ายลอบวางระเบิดชุดรักษาความปลอดภัยพระภิกษุสงฆ์บริเวณตลาดเก่า ถนนริมแม่น้ำสายบุรี หลัง สภ.สายบุรี เขตเทศบาล ตำบลตะลูบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีพระภิกษุสงฆ์มรณภา,,,พ 1 รูป ขณะออกบิณฑบาตตามปกติทุกวันในตอนเช้า ทหารผู้กล้าเสียชีวิตจำนวน 1 นาย ซึ่งเป็นทหารชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นทหาร ผู้สูงอายุ ประชาชน จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อ ผู้ที่เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว ตลอดจนมีความห่วงใยใน สวัสดิภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กสม. ขอยืนยันว่าหลักการสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม ไม่มีผู้ใดสามารถละเมิดต่อชีวิต ผู้อื่นได้ ไม่ว่ากรณีใด และขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่โหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน ผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สุด และขัดต่อหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ อีกทั้งห้วงระยะเวลาที่ก่อความไม่สงบ เกิดขึ้นในขณะที่พระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาตตามหลักทางศาสนา โดยผู้ที่เสียชีวิตเป็นพระภิกษุสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ต่างเป็นผู้บริสุทธิ์ กสม. ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ในการส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้ และเพื่อให้เกิด ความสงบเรียบร้อยอยู่ร่วมกันด้วยความสันติสุข จึงขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้ 1. กสม. ขอให้ทุกฝ่ายร่วมส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ประชาชนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 2. ขอให้กำลังใจแก่ทุกภาคส่วนในพื้นที่ที่จะร่วมมือกันดูแลระมัดระวัง และรักษาความปลอดภัย รวมถึงต้องขอชื่นชมหน่วยงานความมั่นคงที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวด รัดกุมให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ สตรี ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และประชาชน ผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการปกป้อง และคุ้มครอง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และทำให้ความสงบสุขในพื้นที่กลับคืนมา 3. รัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชนเป็นระยะๆ 4. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ความเสียหาย ฟื้นฟูสภาพจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบและครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ กสม. จะติดตามสถานการณ์และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ อีกทั้งจะดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอสนับสนุนรัฐบาลในการดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ในทุกๆ ด้านให้กลับคืนมา พร้อมเร่งเยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งขอวิงวอน ผู้ที่หลงผิดให้ยุติการกระทำความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และขอให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อนำความสงบและสันติสุขคืนสู่ประเทศไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 27 กรกฎาคม 2558
กสม.ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ ผู้นำศาสนา ประชาชน ในจังหวัดชายแดนใต้ วันนี้ (27
สิ่งอำนวยความสะดวก
การตกแต่ง
เครื่องปรับอากาศ
ชั้นบน
เตาอบ/ไมโครเวฟ
ความสะดวกโดยรอบ
กล้องวงจรปิด
เครืองปรับอากาศ
โถงรอลิฟท์ร้านอาหาร
ทางเข้าหลัก
ยอดสินเชื่อโดยประมาณ
รายละเอียดสินเชื่อ
ยอดสินเชื่อที่ต้องชำระต่อเดือนโดยประมาณ
฿ 0 / เดือน
฿ 0 เงินต้น
฿ 0 ดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายที่อาจต้องมีเบื้องต้น
เงินดาวน์ทั้งหมด
฿ 0
เงินดาวน์
จำนวนสินเชื่อ ฿ 0 ในอัตรา 0% ของสินเชื่อต่อราคาบ้าน (Loan-to-value)
เนื้อหาในจดหมายจากด่านศุลกากรนครพนมที่ชาวบ้าน 3 คน

วานนี้ (23 พ.ค.2566) ปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุ พรรคก้าวไกลจะเสียตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้ หากหวงัผลักดันนโยบายของพรรค โดยมีเนื้อหา ดังนี้ "ประธานสภาผู้แทนรา
ดูรายละเอียดโครงการคำถามที่พบบ่อย
วันนี้ (5ก.ค.2566) นายประเสริฐ ประดิษฐ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากการสู้รบที่
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2565 "ก๊องส์-ธัชกร บัวศรี" นักบิดดาวรุ่งไทย หมายเลข 5 จากประเทศไทย ลงแข่งขันในศึก
กรณีมีการรายงานผู้ป่วยยืนยันราว 100 คนเป็นโรคไอกรน โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในจำนวนนี้พบเด็ก
วันนี้ (28 มี.ค.2565) นายพันธวัช นาควิสุทธิ์ ผู้บริหารบริษัท กองสลากพลัส แถลงข่าวหลังเจ้าหน้าที่เข้า
วันนี้ (5 พ.ค.2566) คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 สงขลา พร้อมด้วยคณะกรรมการประจำหน่วย
ค้นหาประกาศอื่นรอบๆ ทุ่งพญาไท
จากสิ่งที่คุณค้นหา คุณอาจจะสนใจตัวเลือกต่อไปนี้
ตาราง บอล และ ผล บอล
ซา เกมส์ 1668