วันนี้ (22 ก.พ.2565) โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ออกแถลงการณ์กรณีผู้ป่วย COVID-19 นอนริมถนน ว่า สืบเนื่อง

ระดับ สส.และอดีต สส. เคยเป็นพันธมิตรและอยู่พรรคเดียวกัน อย่าง “หมอสงค์” นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีตรัฐมนตรี นายไพจิต ศรีวรขาน สส.อาวุโส ที่เคยคั่วรัฐมนตรีมาแล้ว และ “ครูแก้ว” นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต “สหา

ระดับ สส.และอดีต สส. เคยเป็นพันธมิตรและอยู่พรรคเดียวกัน อย่าง “หมอสงค์” นพ.ป🌈ระสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีตรัฐมนตรี นายไพจิต ศรีวรข🥩าน สส.อาวุโส ที่เคยคั่วรัฐมนตรีมาแล้ว และ “ครูแก้ว” นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต “สหายแสง” ตั้งแต่ พรรคความหวังใหม่ ต่อด้วยพรรคไทยรักไทย และพลังประชาชน ครั้งนี้กระจายไปคนละทิศละทาง หมอสงค์ วัย 88 ปี ลงชิงนายก อบจ.เสียเอง ในนามอิสระ ขณะที่นายศุภชัยที่โบกมือลาไปอยู่ค่ายสีน้ำเงิน ตั้งแต่พรรคพลังประชาชนถูกยุบ จนได้เป็นรัฐมนตรีช😇่วยเกษตรฯ และรองประธานสภาผู้แทนฯ ครั้งนี้ต้องออกแรงหนักตามลำพัง เพื่อรักษาเก้าอี้นายก อบจ.ของลูกสาว ศุภพานี โพธิ์สุ “แชมป์เก่า” ครั้งที่แล้ว ไม่จางจากนักการเมืองระดับท้องถิ่น อดีตรองประธานสภา อบจ.สมัยที่แล้ว และเป็นขุนพลคนสำคัญขเกม สล็อต pg ฟรีอง “แชมป์เก่า” ครั้งนี้เปลี่ยนข้างไปหนุนนายอนุชิต หงษาดี🍭 ผู้สมัครนายกฯ ค่ายสีแดง ขณะที่อดีตนายก อบจ.ชุดก่อนโน้น ที่เคยแพ้ให้กับ “ลูกสาวสหายแสง” กลับหันมาหนุน “แชมป์เก่า” หลังจากมีชื่อภรรยาของตน ไปเป็นหนึ่งในทีมบริหารของศุภพานี แต่ที่หนักกว่านั้น “แชมป์เก่า” ค่ายสีน้ำเงิน ครั้งนี้ต้องตกเป็นเป้าถล่มหนักจากพรรคเพื่อไทย ราวกับหวังถอนแค้นเอาคืนทั้งต้นทั้งดอก เพราะถึงขณะนี้ มี 3 นางพญาแล้ว ที่ลงมาช่วยหาเสียงให้นายอนุชิต ตั้งแต่ “รัฐมนตรีน้ำ” น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีพลังหญิง และมักจะติดตามนายกฯลงพื้นที่เสม🎨อๆ ครั้งนี้ไปช่วยลุยพื้นที่ ตั้งแต่ก่อนจะเปิดรับสมัครนายก อบจ.เสียอีก รัฐมนตรีพลังหญิงอีกคน คือ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ที่ได้รับมอบหมายจากพรรคเพื่อไทย ให้คุมศึกเลือกตั้งอบจ.ใน 3-4 จังหวัดอีสานตอนบน รวมทั้ง จ.นครพนม โดยมีบุคคลสำคัญในพรรคอย่าง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม คอยให้การสนับสนุนเต็มที่ ว่ากันว่า ครั🐱้งหน้าอาจหวังถึงขั้นเลื่อนชั้นจากรัฐมนตรีช่วย ไปเป็นรัฐมนตรีกว่าการก็เป็นได้ ล่าสุด ถึงคิวนางพญาคนที่ 3 นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เลือกนครพนมเป็นจังหวัดแรก ของการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ลูกพรรค ในสนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่น วันเดียว 3 เวทีรวด และพยายามเอาชนะใจชาวบ้านในพื้นที่ ด้วยการพูดภาษาอีสาน เรียกเสียงฮือฮา “ถอดแบบ” จากนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อ ตอนหาเสียงช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ที่เชียงราย ทั้ง “อู้กำเมือง” และภาษาชาติพันธุ์ ทำตัวกลมกลืนแบบเนียน ๆ ลำพังเจอ 3 นางพญาเหยียบเมือง “สหายแสง” ก็บ่นอุบ ยอมรับว่า เป็นศึกใหญ่สำหรับตนและลูกสาวมากพออยู่แล้ว แต่ยังมีคิว “พ่อใหญ่” นายทักษิณ ที่วางคิวปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงไว้ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 18 มกราคม วันเสาร์หน้า ทำเอาพลิกตำรารับมือไม่ทัน และสะท้อนว่า พรรคค่ายสีแดงเอาจริง หวังปักธงเต็มเหนี่ยวสำหรับ จ.นครพนม มองซ้ายมองขวาก็หา “ตัวช่วย” ระดับผู้ใหญ่หรือหัวหน้าพรรคมาเจอ เพราะเผลอประกาศวางตัวเป็นกลางไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว หากพลิกกลับมาเอาชนะได้ “คนบ้านใหญ่” ระดับประเทศ คงต้องสรรหารางวัลที่คู่ควรยกให้ “สหายแสง” อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะขนาด 3 นางพญากับอีก 1 “พ่อใหญ่” ยังเอาไม่ลง วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส อ่านข่าว : ห่วงกระสุนหมด! บิ๊กเอกชน เสนอรัฐฟื้น “คนละครึ่ง” กระตุ้นกำลังซื้อ ตร.เร่งหาข้อมูลผู้มีพระคุณ สั่งการ "จ่าเอ็ม" ยิงอดีต สส.กัมพูชา เรียกร้อง CPF รับผิดชอบปลาหมอคางดำระบาด

วันนี้ (26 ต.ค.66) ตำรวจกองบังคับการตำรวจน้ำ รับมอบเรือตรวจการณ์ จำนวน 12 ลำ รวมมูลค่ากว่า 75 ล้านบาท จากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เพื่อเพิ่มสมรรถภาพให้กับเจ้าหน้าที่ในการออกกลาดตระ