เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ประกาศระหว่าทาง เข¬ç§��้า m,gm11mafia164
นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรั��กษ์ที่ 16 พร้อมด้วยนายพงศ์ภาวัต ใหญ่วงศ์กรณ์ ผูå¦å้,อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า นายมัญญา นาคพน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ปิง และนายพิชิต ปิยะโชต
วันนี้ (10 เม.ย.2568) สหรัฐฯ เป็นประเทศที่พึ่งพาการค้าระหว่างประเทศมากกว่าที่หลายคนคิด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ (U.S. Department of Commerce) ระบุว่า การส่งออกสร้างรายได้ถึงร้อยละ 10-12 ของ GDP สหรัฐฯ ในแต่ละปี ถ้าทุกชาติแบนสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เครื่องบินโบอิง รถยนต์จากดีทรอยต์ หรือผลไม้จากแคลิฟอร์เนีย จะไม่มีตลาดรองรับ Reuters รายงานว่า บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Boeing หรือ General Motors อาจต้องลดการผลิต ปิดโรงงาน หรือปลดพนักงานจำนวนมาก เพราะรายได้จากการส่งออกหายไปในพริบตา The Wall Street Journal คาดการณ์ว่า ถ้าการค้าสะดุดแบบนี้ GDP สหรัฐฯ อาจโตได้แค่ร้อยละ 1 ในปีนี้ หรือแย่กว่านั้นคือเข้าสู่ภาวะถดถอยเต็มตัว ในประเทศเอง คนอเมริกันจะเจอผลกระทบที่หนักหน่วง The New York Times ชี้ว่า สินค้านำเข้าที่เคยราคาถูกและหาง่าย เช่น เสื้อผ้าจากจีน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากเกาหลีใต้ หรื💡ออะโวคาโดจากเม็กซิโก จะหายไปจากชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ต ถ้🎷าสหรัฐฯ ต้องผลิตทุกอย่างเอง นอกจากนี้ เอ็มมา โคชแรน นักการตลาดจากออตตาวา กล่าวในการสัมภาษณ์กับ NBC News ว่าต้นทุนการผลิตในประเทศจะสูงขึ้นมาก เพราะขาดทั้งวัตถุดิบ🧚♀️นำเข้า โครงสร้างพื้นฐาน แล🐬ะแรงงานที่พร้อมทันที ผลคือ ราคาของกินของใช้พุ่งสูง เช่น ค่ากาแฟแก้วโปรดหรือเสื้อยืดตัวเก่งอาจแพงขึ้น 2-3 เท่า เงินในกระเป๋าจะซื้ออะไรได้น้อยลง ยิ่งไปกว่านั้นนักวิเคราะห์การเงินจาก Forbes วิเคราะห์ว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เช่น Apple หรือ Tesla ที่พึ่งพาชิ้นส่วนจากเอเชีย จะเผชิญปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ อาจต้องหยุดสายการผลิตชั่วคราว หรือย้ายฐานไปต่างประเทศ ซึ่งจะยิ่งทำให้งานในสหรัฐฯ หายไปอีก การเงินก็จะวุ่นวาย ค่าเงินดอลลาร์อาจอ่อนลง เพราะต่างชาติไม่ต้องการถือเงินสหรัฐฯ อีกต่อไป ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อพยุงค่าเงิน ซึ่งจะทำให้หนี้ครัวเรือนและธุรกิจแพงขึ้นไปอีก ฝั่งประเทศต่าง ๆ นอกอาณาเขตสหรัฐฯ ก็จะเจอความปั่นป่วนไม่น้อย International Monetary Fund (IMF) คาดว่า เศรษฐกิจโลกอาจโตช้าลงร้อยละ 3.3 ในปี 2568 ถ้าการค้าสหรัฐฯ หยุดชะงัก ประเทศที่พึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดใหญ่ เช่น แคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งส่งออกไปสหรัฐฯ มากถึงร้อยละ 70-80 ของสินค้าทั้งหมด จะเจอปัญหาหนัก อุตสาหกรรมรถยนต์ในเม็กซิโก หรือสินค้าเกษตรในแคนาดา ต้องหยุดชะงัก เพราะหาตลาดใหม่ทดแทนไม่ทัน จีนเองที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ปีละ 500,000 ล้านดอลลาร์ จะต้องหันไปพึ่งยุโรป อาเซียน หรือแอฟริกาแทน ซึ่งอาจทำให้ราคาสินค้าถูกลงในบางภูมิภาค แต่กว่าจะปรับตัวได้ก็ต้องใช้เวลานาน The Economist วิเคราะห์ว่า การค้าโลกอาจแตกออกเป็นกลุ่ม ๆ ยุโรปอาจรวมตัวแน่นขึ้นผ่าน EU เพื่อพึ่งพาตัวเองมากขึ้น จีนอาจครองอิทธิพลในเอเชียด้วยข้อตกลง ขณะที่อินเดียและบราซิลอาจกลายเป็นผู้นำในภูมิภาคของตัวเอง BBC ชี้ว่า ซัปพลายเชนที่เคยเชื่อมโยงกันทั่วโลก เช่น การผลิตสมาร์ตโฟนหรือรถยนต์ จะพังทลายลง สินค้าบางอย่างอาจขาดแคลนชั่วคราว ราคาในหลายประเทศจะสูงขึ้น เพราะต้องหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ ประเทศเล็ก ๆ ที่เคยพึ่งสหรัฐฯ เช่น เวียดนามหรือไทย อาจเจอปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว เพราะเสียตลาดส่งออกใหญ่ แต่โลกอาจได้ประโยชน์ในระยะยาว The Guardian มองว่า การตัดขาดสหรัฐฯ อาจบังคับให้ชาติอื่น ๆ พัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเอง เช่น การผลิตชิปในยุโรป หรือพลังงานทดแทนในอาเซียน ซึ่งจะลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้จะใช้เวลาหลายปี และระหว่างนั้น เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวหนัก แต่เอาเข้าจริงแล้ว การที่ทุกชาติจะร่วมใจกัน "แบนสหรัฐฯ" นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สหรัฐฯ ยังเป็นตลาดใหญ่ที่หลายประเทศเลี่ยง🍩ไม่ได้ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือเยอรมนี อาจไม่อยากตัดขาด เพราะกลัวเสียพันธมิตรด้านความมั่นคงหรือเทคโนโลยี เจยันต์ เมนอน นักวิจัยจากสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak กล่าวกับนิตยสาร TIME บางชาติอาจเลือกวิธีเจรจาขอยกเว้นภาษี แทนการตอบโต้เต็มรูปแบบ เหมือนที่ 75 ประเทศทำหลังทรัมป์ประกาศหยุดภาษี 90 วัน แต่ถ้าทรัมป์ยังเดินหน้าภาษีแบบนี้ต่อไป โดยไม่ยอมผ่อนปรน ความอดทนของโลกอาจถึงขีดสุด อาจเริ่มมีการตั้งกลุ่มการค้าใหม่ที่ไม่พึ่งสหรัฐฯ Bloomberg วิเคราะห์ว่า ถ้าสถานการณ์ถึงจุดแตกหักจริง ๆ สหรัฐฯ อาจพยายามกดดันด้วยวิธีอื่น เช่น คว่ำบาตรทางการเงิน หรือใช้กองทัพ แต่ถ้าทุกชาติรวมตัวกันแข็งแกร่ง อิทธิพลของสหรัฐฯ อาจลดลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าถึงจุดนั้นจริง ๆ สงครามการค้าจะกลายเป็นหายนะ มีราคาที่ทุกคนต้องจ่าย สหรัฐฯ อาจต้องกลับมาคิดใหม่ว่า การเดินเกมภาษีแบบนี้คุ้มหรือไม่ หรือจะยอมถอยก่อนที่โลกจะทิ้งสหรัฐฯ ไปจริง ๆ แหล่งที่มา : TIME, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ, Reuters, Thทาง เข้า mgm11mafia164e Wall Street Journal, The New York Times, International Monetary Fund (IMF), WTO, The Economist, The Guardian อ่านข่าวอื่น : มีผลทันที! ทรัม🎉ป์ซัดจีน 125% เบรกภาษี 75 ประเทศ 90 วัน มหาศึกการค้าสหรัฐฯ-จีน ภาษี 104% เปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจโลก 5 เป้าหมายกำแพงภาษี "ทรัมป์" จ่อประกาศขึ้นภาษีนำเข้ายาครั้งใหญ่
วันนี้ (5 ก.ย.65) จากกรณีปรากฏภาพแหวน-นาฬิกาหรู ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ,รองนายกฯ ใส่ในวันถ่ายรูป
วัน🧁นี้📺 (20 ต.ค.2📸564) สมาพันธ์ฟุตบอลแ🍓ห🍩่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ประกาศปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันฟุต🐙🈵🌽บอลเอ
ทาง เข้า mgm11mafia164-กกต.เผยคำร้องเรียน เลือกตั้ง อบต.ทั่วประเทศ 2¬ç§62 เรื่อง, ซื้อเสียงมากสุด
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ประกาศระหว่าทาง เข¬ç§��้า m,gm11mafia164
นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรั��กษ์ที่ 16 พร้อมด้วยนายพงศ์ภาวัต ใหญ่วงศ์กรณ์ ผูå¦å้,อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า นายมัญญา นาคพน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ปิง และนายพิชิต ปิยะโชต
วันนี้ (10 เม.ย.2568) สหรัฐฯ เป็นประเทศที่พึ่งพาการค้าระหว่างประเทศมากกว่าที่หลายคนคิด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ (U.S. Department of Commerce) ระบุว่า การส่งออกสร้างรายได้ถึงร้อยละ 10-12 ของ GDP สหรัฐฯ ในแต่ละปี ถ้าทุกชาติแบนสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เครื่องบินโบอิง รถยนต์จากดีทรอยต์ หรือผลไม้จากแคลิฟอร์เนีย จะไม่มีตลาดรองรับ Reuters รายงานว่า บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Boeing หรือ General Motors อาจต้องลดการผลิต ปิดโรงงาน หรือปลดพนักงานจำนวนมาก เพราะรายได้จากการส่งออกหายไปในพริบตา The Wall Street Journal คาดการณ์ว่า ถ้าการค้าสะดุดแบบนี้ GDP สหรัฐฯ อาจโตได้แค่ร้อยละ 1 ในปีนี้ หรือแย่กว่านั้นคือเข้าสู่ภาวะถดถอยเต็มตัว ในประเทศเอง คนอเมริกันจะเจอผลกระทบที่หนักหน่วง The New York Times ชี้ว่า สินค้านำเข้าที่เคยราคาถูกและหาง่าย เช่น เสื้อผ้าจากจีน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากเกาหลีใต้ หรื💡ออะโวคาโดจากเม็กซิโก จะหายไปจากชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ต ถ้🎷าสหรัฐฯ ต้องผลิตทุกอย่างเอง นอกจากนี้ เอ็มมา โคชแรน นักการตลาดจากออตตาวา กล่าวในการสัมภาษณ์กับ NBC News ว่าต้นทุนการผลิตในประเทศจะสูงขึ้นมาก เพราะขาดทั้งวัตถุดิบ🧚♀️นำเข้า โครงสร้างพื้นฐาน แล🐬ะแรงงานที่พร้อมทันที ผลคือ ราคาของกินของใช้พุ่งสูง เช่น ค่ากาแฟแก้วโปรดหรือเสื้อยืดตัวเก่งอาจแพงขึ้น 2-3 เท่า เงินในกระเป๋าจะซื้ออะไรได้น้อยลง ยิ่งไปกว่านั้นนักวิเคราะห์การเงินจาก Forbes วิเคราะห์ว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เช่น Apple หรือ Tesla ที่พึ่งพาชิ้นส่วนจากเอเชีย จะเผชิญปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ อาจต้องหยุดสายการผลิตชั่วคราว หรือย้ายฐานไปต่างประเทศ ซึ่งจะยิ่งทำให้งานในสหรัฐฯ หายไปอีก การเงินก็จะวุ่นวาย ค่าเงินดอลลาร์อาจอ่อนลง เพราะต่างชาติไม่ต้องการถือเงินสหรัฐฯ อีกต่อไป ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อพยุงค่าเงิน ซึ่งจะทำให้หนี้ครัวเรือนและธุรกิจแพงขึ้นไปอีก ฝั่งประเทศต่าง ๆ นอกอาณาเขตสหรัฐฯ ก็จะเจอความปั่นป่วนไม่น้อย International Monetary Fund (IMF) คาดว่า เศรษฐกิจโลกอาจโตช้าลงร้อยละ 3.3 ในปี 2568 ถ้าการค้าสหรัฐฯ หยุดชะงัก ประเทศที่พึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดใหญ่ เช่น แคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งส่งออกไปสหรัฐฯ มากถึงร้อยละ 70-80 ของสินค้าทั้งหมด จะเจอปัญหาหนัก อุตสาหกรรมรถยนต์ในเม็กซิโก หรือสินค้าเกษตรในแคนาดา ต้องหยุดชะงัก เพราะหาตลาดใหม่ทดแทนไม่ทัน จีนเองที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ปีละ 500,000 ล้านดอลลาร์ จะต้องหันไปพึ่งยุโรป อาเซียน หรือแอฟริกาแทน ซึ่งอาจทำให้ราคาสินค้าถูกลงในบางภูมิภาค แต่กว่าจะปรับตัวได้ก็ต้องใช้เวลานาน The Economist วิเคราะห์ว่า การค้าโลกอาจแตกออกเป็นกลุ่ม ๆ ยุโรปอาจรวมตัวแน่นขึ้นผ่าน EU เพื่อพึ่งพาตัวเองมากขึ้น จีนอาจครองอิทธิพลในเอเชียด้วยข้อตกลง ขณะที่อินเดียและบราซิลอาจกลายเป็นผู้นำในภูมิภาคของตัวเอง BBC ชี้ว่า ซัปพลายเชนที่เคยเชื่อมโยงกันทั่วโลก เช่น การผลิตสมาร์ตโฟนหรือรถยนต์ จะพังทลายลง สินค้าบางอย่างอาจขาดแคลนชั่วคราว ราคาในหลายประเทศจะสูงขึ้น เพราะต้องหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ ประเทศเล็ก ๆ ที่เคยพึ่งสหรัฐฯ เช่น เวียดนามหรือไทย อาจเจอปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว เพราะเสียตลาดส่งออกใหญ่ แต่โลกอาจได้ประโยชน์ในระยะยาว The Guardian มองว่า การตัดขาดสหรัฐฯ อาจบังคับให้ชาติอื่น ๆ พัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเอง เช่น การผลิตชิปในยุโรป หรือพลังงานทดแทนในอาเซียน ซึ่งจะลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้จะใช้เวลาหลายปี และระหว่างนั้น เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวหนัก แต่เอาเข้าจริงแล้ว การที่ทุกชาติจะร่วมใจกัน "แบนสหรัฐฯ" นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สหรัฐฯ ยังเป็นตลาดใหญ่ที่หลายประเทศเลี่ยง🍩ไม่ได้ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือเยอรมนี อาจไม่อยากตัดขาด เพราะกลัวเสียพันธมิตรด้านความมั่นคงหรือเทคโนโลยี เจยันต์ เมนอน นักวิจัยจากสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak กล่าวกับนิตยสาร TIME บางชาติอาจเลือกวิธีเจรจาขอยกเว้นภาษี แทนการตอบโต้เต็มรูปแบบ เหมือนที่ 75 ประเทศทำหลังทรัมป์ประกาศหยุดภาษี 90 วัน แต่ถ้าทรัมป์ยังเดินหน้าภาษีแบบนี้ต่อไป โดยไม่ยอมผ่อนปรน ความอดทนของโลกอาจถึงขีดสุด อาจเริ่มมีการตั้งกลุ่มการค้าใหม่ที่ไม่พึ่งสหรัฐฯ Bloomberg วิเคราะห์ว่า ถ้าสถานการณ์ถึงจุดแตกหักจริง ๆ สหรัฐฯ อาจพยายามกดดันด้วยวิธีอื่น เช่น คว่ำบาตรทางการเงิน หรือใช้กองทัพ แต่ถ้าทุกชาติรวมตัวกันแข็งแกร่ง อิทธิพลของสหรัฐฯ อาจลดลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าถึงจุดนั้นจริง ๆ สงครามการค้าจะกลายเป็นหายนะ มีราคาที่ทุกคนต้องจ่าย สหรัฐฯ อาจต้องกลับมาคิดใหม่ว่า การเดินเกมภาษีแบบนี้คุ้มหรือไม่ หรือจะยอมถอยก่อนที่โลกจะทิ้งสหรัฐฯ ไปจริง ๆ แหล่งที่มา : TIME, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ, Reuters, Thทาง เข้า mgm11mafia164e Wall Street Journal, The New York Times, International Monetary Fund (IMF), WTO, The Economist, The Guardian อ่านข่าวอื่น : มีผลทันที! ทรัม🎉ป์ซัดจีน 125% เบรกภาษี 75 ประเทศ 90 วัน มหาศึกการค้าสหรัฐฯ-จีน ภาษี 104% เปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจโลก 5 เป้าหมายกำแพงภาษี "ทรัมป์" จ่อประกาศขึ้นภาษีนำเข้ายาครั้งใหญ่
วันนี้ (5 ก.ย.65) จากกรณีปรากฏภาพแหวน-นาฬิกาหรู ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ,รองนายกฯ ใส่ในวันถ่ายรูป
วัน🧁นี้📺 (20 ต.ค.2📸564) สมาพันธ์ฟุตบอลแ🍓ห🍩่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ประกาศปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันฟุต🐙🈵🌽บอลเอ