เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2564 ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้ากองกำลังสุรสีห์สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแด

จากกรณีชาวบ้าน ต.ทาขุมเงิน อ.แม่ทา จ.ลำพูน ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ลำพูน และ อบจ.ลำพูน คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะ หลังมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างในพื้นที่ วันนี้ (2 ก.พ.2566) นายวิทยา สะคำปัน รองนายกอง

เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2564 ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้ากองกำลังสุรสีห์สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 136 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรไทรโยคและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค ร่วมกันจับกุมนายหรรษา สำราญสุขเสมอ อายุ 27 ปี และนายสุพล ใครหอม อายุ 28 ปี ขณะกำลังขับรถตู้สีเทาติดเครื่องหมายรถพยาบาลฉุกเฉินและติดตราสัญลักษณ์ของมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรีขับผ่านถนนสายบ้านกระทะทอง-พุน้อย หมู่ 7 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกรถตู้คันดังกล่าวให้หยุดเพื่อตรวจสอบปรากฏว่านายหรรษา ซึ่งเป็นคนขับได้พยายามที่จะกลับรถเพื่อขับหลบหนีเจ้าหน้าที่แต่รถเกิดไปติดหล่มข้างทางจึงไม่สามารถหลบหนีได้ เมื่อเข้าตรวจสอบภายในรถตู้พบแรงงานชาวเมียนมา 14 คน นั่งเบียดเสียดอยู่ภายในรถตู้ ซึ่งลักลอบเดินทางจากเมียนมา เพื่อจะเข้ามาทำงานใน จ.นครปฐม และกรุงเทพฯ โดยเสียค่านายหน้าคนละ 15,000 บาท คนขับ ระบุว่า รับหน้าที่ขับรถไปรับแรงงานชาวเมียนมาจากหน้าสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.ไทรโยค เพื่อนำไปส่งให้กับผู้ว่าจ้างชื่อนายเจมส์ที่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรีโดยได้ค่าจ้างคนละ 15,‰ˆ000 บาท แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อน หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ทำการตรวจวัดอุณหภูมิของแรงงานก่อนควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยคดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะเดียวกันที่บริเวณช่องทางธรรมชาติพุชะนีชายป่าเชิงเขาตะนาวศรี ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมแรงงานชาวเมียนมาจำนวน 175 คน ซึ่งเดินทตาราง บอล 7m วัน นี้างมาจากจังหวัดทวาย จังหวัดเมาลำไย จังหวัดเนปิดอ และจังหวัดพะโค ประเทศเมียนมามาตามเส้นทางธรรมชาติและมาหยุดรออยู่ที่ป่าเชิงเขาตะนาวศรีเพื่อรอรถมารับไปส่งนายจ้างในพื้นที่ จ.นครปฐม สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ โดยแรงงานกลุ่มนี้จะต้องเสียค่านายหน้าคนละ 20,000 บาท ให้กับผู้นำพา เบื้องต้น เจ้€าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอไทรโยคได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิของแรงงานกลุ่มนี้ แต่เนื่องจากการจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ตรวจพบผู้นำพาซึ่งเป็นชาวไทยจึงดำเนินการผลักดันแรงงานชาวเมียนมากลับประเทศไปพร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามเส้นทางธรรมชาติที่คาดว่าแรงงานจะลักลอบเดินท”างเข้ามาในประเทศอีก

ประเด็นที่ถูกจับตามองไม่ใช่แค่ความยิ่งใหญ่ แต่เป็นแง่มุมบาดแผลในอดีตของชาวมุสลิมที่สืบเนื่องกับประวัติของวัดแห่งนี้ ท่ามกลางความขัดแย้งที่ฝังรากลึกในสังคมอินเดีย ระหว่างชาวฮินดูกับชาวมุสลิม และการเปิด