4 หน่วยงานจับมือพัฒนาร้านอาหารนำร่องสนามบิน 10 แห่ง กรมอนามัย ร่วมกับกรมควบคุมโรค กรมการบินพลเรือน แepic games bugha
วันนี้ (8 ก.ย.2565)👾 รัตน์ฎา สีเลี้ยง ต้องเดินออกมาจากบ้านเชิงส🎉ะพานข้ามคลองบางบัว เพื่อออกไปซื้อ🐙➕1️⃣กับสิ่งของจำเป็นมาให้อีก 3 ชีวิตในบ้าน หลังฝนตกหนักจ🌍นน้ำท่🐴🐦💪วมขังในบ้านสูงป🏀🎽ระมาณ 60 เซนติเมตร หลานวัย
“หมอประเวศ” แนะยึดภารกิจ 7 ประการ ใช้จังหวัดเป็นฐาน ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย “หมอประเวศ” แนะยึดภารกิจ 7 ประการ ใช้จังหวัดเป็นฐาน ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพฯ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) วบรรยายพิเศษในงานประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเตรียมกระบวนการสมัชชาปฏิรูประดับจังหวัด พื้นที่ภาคกลางหัวข้อ “การขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทยโดยใช้จังหวดเป็นฐาน” จัดโดยสำนักงานปฏิรูป (สปร.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตอนหนึ่งว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในสังคมนำไปสู่ความขัดแย้ง รุนแรงและจลาจลในทุกแห่งทั่วโลก ซึ่งแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาจำเป็นต้อง “ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ” ที่แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่สามารถทำได้โดยประชาชนร่วมปฏิรูป 3 ระดับ ได้แก่ ปฏิรูปตัวเอง ปฏิรูปประดับองค์กร และปฏิรูประดับนโยบาย ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า ปฏิรูปตัวเอง คือ ต้องมีสำนึกในศักดิ์ศรี และคุณค่าความเป็นคน ปฏิรูปประดับองค์กร ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำในระดับชุมชน ตั้งสภาผู้นำชุมชนและสภาองค์กรชุมชน เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของชุมชน เช่น ความยากจน สิ่งแวดล้อม ส่วนปฏิรูประดับนโยบาย จะเป็นการสังเคราะห์และร่วมผลักดันนโยบายโดยประชาชน การที่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตัวเองนั้น ในทุกหมู่บ้าน ควรมีการรวมตัวของผู้นำ เป็นสภาผู้นำชุมชน สำรวจข้อมูลชุมชน แล้วนำข้อมูลมาทำแผนพัฒนาชุมชนอ🪐ย่างบูรณาการ ทั้งด้านเศรษฐกิจ จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษา จากนั้นนำแผนมาเสนอต่อคนในหมู่บ้าน ออกความเห็นร่วมกัน เป็นกระบวนการประชาธิปไตยชุมชน ซึ่งเป็นประชาธิปไตยทางตรง ต่างกับประชาธิปไตยท้องถิ่นและประชาธิปไตยระดับชาติที่เป็นประชาธิปไตยทางอ้อม มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง“นโยบายบริหารประเทศส่วนใหญ่ที่คิดมาจากข้างบน ไม่สามารถเข้าถึงและแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างแท้จริง ดังนั้น การร่วมคิดแผนหรือนโยบายที่มาจากข้างล่าง จะเป็นการกำหนดโดยคนทั้งประเทศ แก้ปัญหาได้จริง ประชาชนในชุมชนก็สามารถร่วมขับเคลื่อนตามแผนนโยบายได้ สังคมก็จะเดินหน้าได้ มีสัมมาชีพเต็มพื้นที่ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยสมาฉันท์ ซึ่งแตกต่างจากแผนและนโยบายที่มาจากภาครัฐ ที่ประชาชนขับเคลื่อนไม่ถูก”ศ.นพ.ประเวศ กล่าว ประธาน คสป. กล่าวต่อว่า ในการที่ท้องถิ่นจัดการตัวเอง จะต้องทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์กรท้องถิ่นเข้มแข็ง แล้วให้ไปหนุนและผลักดันให้เก🐼ิดนโยบายที่มาจากชุมชน ส่วนจังหวัดจัดการตัวเอง จะเป็นศูนย์ประสานงาน ขับเคลื่อนในรูปแบบภาคีพัฒนาจังหวัดอย่างบูรณาการ ยึดให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง มีภารกิจ 7 ประการ คือ 1.การสำรวจข้อมูลจังหวัด 2.ทำแผนพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ 3.ประสานงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ 4.สนับสนุนให้เกิด 1 มหาวิทยาลัย 1 จ👾ังหวัด 5.ถอดบทเรียน และต่อยอดขึ้น 6.มีการสื่อสารภายในจังหวัด และ 7. จัดสมัชชาในระดับตำบล จังหวัดเพื่อสังเคราะห์บทเรียน โดยกระบ🐬วนการดังกล่าวนี้ จะเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อไปยังสมัชชาระดับชาติ ครัepic games bugha้งที่ 2 อีกทั้งยังเป็นกระบวนการที่หนุนเสริมการทำงานของรัฐบาล ไม่ได้ขัดขวาง หรือสวนทางการทำงานของรัฐบาล เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่โรงแรมรามาการ์เด้น กรุ🎃งเทพฯ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) วบรรยายพิเศษในงานประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเตรียมกระบวนการสมัชชาปฏิรูประดับจังหวัด พื้นที่ภาคกลางหัวข้อ “การขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทยโดยใช้จังหวดเป็นฐาน” จัดโดยสำนักงานปฏิรูป (สปร.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตอนหนึ่งว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในสังคมนำไปสู่ความขัดแย้ง รุนแรงและจลาจลในทุกแห่งทั่วโลก ซึ่งแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาจำเป็นต้อง “ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ” ที่แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่สามารถทำได้โดยประชาชนร่วมปฏิรูป 3 ระดับ ได้แก่ ปฏิรูปตัวเอง ปฏิรูปประดับองค์กร และปฏิรูประดับนโยบาย ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า ปฏิรูปตัวเอง คือ ต้องมีสำนึกในศักดิ์ศรี และคุณค่าความเป็นคน ปฏิรูปประดับองค์กร ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำในระดับชุมชน ตั้งสภาผู้นำชุมชนและสภาองค์กรชุมชน เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของชุมชน เช่น ความยากจน สิ่งแวดล้อม ส่วนปฏิรูประดับนโยบาย จะเป็นการสังเคราะห์และร่วมผลักดันนโยบายโดยประชาชน การที่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตัวเองนั้น ในทุกหมู่บ้าน ควรมีการรวมตัวของผู้นำ เป็นสภาผู้นำชุมชน สำรวจข้อมูลชุมชน แล้วนำข้อมูลมาทำแผนพัฒนาชุมชนอย่างบูรณาการ ทั้งด้านเศร⚡ษฐกิจ จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษา จากนั้นนำแผนมาเสนอต่อคนในหมู่บ้าน ออกความเห็นร่วมกัน เป็นกระบวนการประชาธิปไตยชุมชน ซึ่งเป็นประชาธิปไตยทางตรง ต่างกับประชาธิปไตยท้องถิ่นและประชาธิปไตยระดับชาติที่เป็นประชาธิปไตยทางอ้อม มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง“นโยบายบริหารประเทศส่วนใหญ่ที่คิดมาจากข้างบน ไม่สามารถเข้าถึงและแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างแท้จริง ดังนั้น การร่วมคิดแผนหรือนโยบายที่มาจากข้างล่าง จะเป็นการกำหนดโดยคนทั้งประเทศ แก้ปัญหาได้จริง ประชาชนในชุมชนก็สามารถร่วมขับเคลื่อนตามแผนนโยบายได้ สังคมก็จะเดินหน้าได้ มีสัมมาชีพเต็มพื้นที่ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยสมาฉันท์ ซึ่งแตกต่างจากแผนและนโยบายที่มาจากภาครัฐ ที่ประชาชนขับเคลื่อนไม่ถูก”ศ.นพ.ประเวศ กล่าว ประธาน คสป. กล่าวต่อว่า ในการที่ท้องถิ่นจัดการตัวเอง จะต้องทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์กรท้องถิ่นเข้มแข็ง แล้วให้ไปหนุนและผลักดันให้เกิดนโยบายที่มาจากชุมชน ส่วนจังหวัดจัดการตัวเอง จะเป็นศูนย์ประสานงาน ขับเคลื่อนในรูปแบบภาคีพัฒนาจังหวัดอย่างบูรณาการ ยึดให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง มีภารกิจ 7 ประการ คือ 1.การสำรวจข้อมูลจังหวัด 2.ทำแผนพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ 3.ประสานงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ 4.สนับสนุนให้เกิด 1 มหาวิทยาลัย 1 จังหวัด 5.ถอดบทเรียน และต่อยอดขึ้น 6.มีการสื่อสารภายในจังหวัด และ 7. จัดสมัชชาในระดับตำบล จังหวัดเพื่อสังเคราะห์บทเรียน โดยกระบวนการดังกล่าวนี้ จะเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อไปยังสมัชชาระดับชาติ ครั้งที่ 2 อีกทั้งยังเป็นกระบวนการที่หนุนเสริมการทำงานของรัฐบาล ไม่ได้ขัดขวาง หรือสวนทางการทำงานของรัฐบาล
วันนี้ (26 ธ.ค.2566) นายชนาธิป ล.วีระพรรค ผอ.สำนักงานสถาçนธนานุบาลกรุงเท��พมหานคร กล่าวว่า เนื่องในโอกา
“หมอประเวศ” แนะยึดภารกิจ 7 ประการ ใช้จังหวัดเป็นฐาน ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย “หมอประเวศ” ,,,แนะยึดภารก
epic games bugha -เว็บส����;ล็อต แตกง่าย 2020 pantip, เลข ที่ ออก 1 กรกฎาคม 63, ทดลäอง เล่น เกม ฟรี
4 หน่วยงานจับมือพัฒนาร้านอาหารนำร่องสนามบิน 10 แห่ง กรมอนามัย ร่วมกับกรมควบคุมโรค กรมการบินพลเรือน แepic games bugha
วันนี้ (8 ก.ย.2565)👾 รัตน์ฎา สีเลี้ยง ต้องเดินออกมาจากบ้านเชิงส🎉ะพานข้ามคลองบางบัว เพื่อออกไปซื้อ🐙➕1️⃣กับสิ่งของจำเป็นมาให้อีก 3 ชีวิตในบ้าน หลังฝนตกหนักจ🌍นน้ำท่🐴🐦💪วมขังในบ้านสูงป🏀🎽ระมาณ 60 เซนติเมตร หลานวัย
“หมอประเวศ” แนะยึดภารกิจ 7 ประการ ใช้จังหวัดเป็นฐาน ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย “หมอประเวศ” แนะยึดภารกิจ 7 ประการ ใช้จังหวัดเป็นฐาน ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพฯ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) วบรรยายพิเศษในงานประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเตรียมกระบวนการสมัชชาปฏิรูประดับจังหวัด พื้นที่ภาคกลางหัวข้อ “การขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทยโดยใช้จังหวดเป็นฐาน” จัดโดยสำนักงานปฏิรูป (สปร.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตอนหนึ่งว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในสังคมนำไปสู่ความขัดแย้ง รุนแรงและจลาจลในทุกแห่งทั่วโลก ซึ่งแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาจำเป็นต้อง “ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ” ที่แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่สามารถทำได้โดยประชาชนร่วมปฏิรูป 3 ระดับ ได้แก่ ปฏิรูปตัวเอง ปฏิรูปประดับองค์กร และปฏิรูประดับนโยบาย ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า ปฏิรูปตัวเอง คือ ต้องมีสำนึกในศักดิ์ศรี และคุณค่าความเป็นคน ปฏิรูปประดับองค์กร ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำในระดับชุมชน ตั้งสภาผู้นำชุมชนและสภาองค์กรชุมชน เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของชุมชน เช่น ความยากจน สิ่งแวดล้อม ส่วนปฏิรูประดับนโยบาย จะเป็นการสังเคราะห์และร่วมผลักดันนโยบายโดยประชาชน การที่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตัวเองนั้น ในทุกหมู่บ้าน ควรมีการรวมตัวของผู้นำ เป็นสภาผู้นำชุมชน สำรวจข้อมูลชุมชน แล้วนำข้อมูลมาทำแผนพัฒนาชุมชนอ🪐ย่างบูรณาการ ทั้งด้านเศรษฐกิจ จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษา จากนั้นนำแผนมาเสนอต่อคนในหมู่บ้าน ออกความเห็นร่วมกัน เป็นกระบวนการประชาธิปไตยชุมชน ซึ่งเป็นประชาธิปไตยทางตรง ต่างกับประชาธิปไตยท้องถิ่นและประชาธิปไตยระดับชาติที่เป็นประชาธิปไตยทางอ้อม มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง“นโยบายบริหารประเทศส่วนใหญ่ที่คิดมาจากข้างบน ไม่สามารถเข้าถึงและแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างแท้จริง ดังนั้น การร่วมคิดแผนหรือนโยบายที่มาจากข้างล่าง จะเป็นการกำหนดโดยคนทั้งประเทศ แก้ปัญหาได้จริง ประชาชนในชุมชนก็สามารถร่วมขับเคลื่อนตามแผนนโยบายได้ สังคมก็จะเดินหน้าได้ มีสัมมาชีพเต็มพื้นที่ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยสมาฉันท์ ซึ่งแตกต่างจากแผนและนโยบายที่มาจากภาครัฐ ที่ประชาชนขับเคลื่อนไม่ถูก”ศ.นพ.ประเวศ กล่าว ประธาน คสป. กล่าวต่อว่า ในการที่ท้องถิ่นจัดการตัวเอง จะต้องทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์กรท้องถิ่นเข้มแข็ง แล้วให้ไปหนุนและผลักดันให้เก🐼ิดนโยบายที่มาจากชุมชน ส่วนจังหวัดจัดการตัวเอง จะเป็นศูนย์ประสานงาน ขับเคลื่อนในรูปแบบภาคีพัฒนาจังหวัดอย่างบูรณาการ ยึดให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง มีภารกิจ 7 ประการ คือ 1.การสำรวจข้อมูลจังหวัด 2.ทำแผนพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ 3.ประสานงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ 4.สนับสนุนให้เกิด 1 มหาวิทยาลัย 1 จ👾ังหวัด 5.ถอดบทเรียน และต่อยอดขึ้น 6.มีการสื่อสารภายในจังหวัด และ 7. จัดสมัชชาในระดับตำบล จังหวัดเพื่อสังเคราะห์บทเรียน โดยกระบ🐬วนการดังกล่าวนี้ จะเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อไปยังสมัชชาระดับชาติ ครัepic games bugha้งที่ 2 อีกทั้งยังเป็นกระบวนการที่หนุนเสริมการทำงานของรัฐบาล ไม่ได้ขัดขวาง หรือสวนทางการทำงานของรัฐบาล เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่โรงแรมรามาการ์เด้น กรุ🎃งเทพฯ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) วบรรยายพิเศษในงานประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเตรียมกระบวนการสมัชชาปฏิรูประดับจังหวัด พื้นที่ภาคกลางหัวข้อ “การขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทยโดยใช้จังหวดเป็นฐาน” จัดโดยสำนักงานปฏิรูป (สปร.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตอนหนึ่งว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในสังคมนำไปสู่ความขัดแย้ง รุนแรงและจลาจลในทุกแห่งทั่วโลก ซึ่งแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาจำเป็นต้อง “ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ” ที่แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่สามารถทำได้โดยประชาชนร่วมปฏิรูป 3 ระดับ ได้แก่ ปฏิรูปตัวเอง ปฏิรูปประดับองค์กร และปฏิรูประดับนโยบาย ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า ปฏิรูปตัวเอง คือ ต้องมีสำนึกในศักดิ์ศรี และคุณค่าความเป็นคน ปฏิรูปประดับองค์กร ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำในระดับชุมชน ตั้งสภาผู้นำชุมชนและสภาองค์กรชุมชน เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของชุมชน เช่น ความยากจน สิ่งแวดล้อม ส่วนปฏิรูประดับนโยบาย จะเป็นการสังเคราะห์และร่วมผลักดันนโยบายโดยประชาชน การที่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตัวเองนั้น ในทุกหมู่บ้าน ควรมีการรวมตัวของผู้นำ เป็นสภาผู้นำชุมชน สำรวจข้อมูลชุมชน แล้วนำข้อมูลมาทำแผนพัฒนาชุมชนอย่างบูรณาการ ทั้งด้านเศร⚡ษฐกิจ จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษา จากนั้นนำแผนมาเสนอต่อคนในหมู่บ้าน ออกความเห็นร่วมกัน เป็นกระบวนการประชาธิปไตยชุมชน ซึ่งเป็นประชาธิปไตยทางตรง ต่างกับประชาธิปไตยท้องถิ่นและประชาธิปไตยระดับชาติที่เป็นประชาธิปไตยทางอ้อม มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง“นโยบายบริหารประเทศส่วนใหญ่ที่คิดมาจากข้างบน ไม่สามารถเข้าถึงและแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างแท้จริง ดังนั้น การร่วมคิดแผนหรือนโยบายที่มาจากข้างล่าง จะเป็นการกำหนดโดยคนทั้งประเทศ แก้ปัญหาได้จริง ประชาชนในชุมชนก็สามารถร่วมขับเคลื่อนตามแผนนโยบายได้ สังคมก็จะเดินหน้าได้ มีสัมมาชีพเต็มพื้นที่ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยสมาฉันท์ ซึ่งแตกต่างจากแผนและนโยบายที่มาจากภาครัฐ ที่ประชาชนขับเคลื่อนไม่ถูก”ศ.นพ.ประเวศ กล่าว ประธาน คสป. กล่าวต่อว่า ในการที่ท้องถิ่นจัดการตัวเอง จะต้องทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์กรท้องถิ่นเข้มแข็ง แล้วให้ไปหนุนและผลักดันให้เกิดนโยบายที่มาจากชุมชน ส่วนจังหวัดจัดการตัวเอง จะเป็นศูนย์ประสานงาน ขับเคลื่อนในรูปแบบภาคีพัฒนาจังหวัดอย่างบูรณาการ ยึดให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง มีภารกิจ 7 ประการ คือ 1.การสำรวจข้อมูลจังหวัด 2.ทำแผนพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ 3.ประสานงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ 4.สนับสนุนให้เกิด 1 มหาวิทยาลัย 1 จังหวัด 5.ถอดบทเรียน และต่อยอดขึ้น 6.มีการสื่อสารภายในจังหวัด และ 7. จัดสมัชชาในระดับตำบล จังหวัดเพื่อสังเคราะห์บทเรียน โดยกระบวนการดังกล่าวนี้ จะเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อไปยังสมัชชาระดับชาติ ครั้งที่ 2 อีกทั้งยังเป็นกระบวนการที่หนุนเสริมการทำงานของรัฐบาล ไม่ได้ขัดขวาง หรือสวนทางการทำงานของรัฐบาล
วันนี้ (26 ธ.ค.2566) นายชนาธิป ล.วีระพรรค ผอ.สำนักงานสถาçนธนานุบาลกรุงเท��พมหานคร กล่าวว่า เนื่องในโอกา
“หมอประเวศ” แนะยึดภารกิจ 7 ประการ ใช้จังหวัดเป็นฐาน ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย “หมอประเวศ” ,,,แนะยึดภารก