Home
|
sa แกม มิ ง

วันที่ (2 มี.ค.2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำร

sa แกม มิ ง

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2564 ศูนย์ข้อมูล COVID-19 จ.นนทบุรี เปิดเผยไทม์ไลน์ผู้ป่วย 4 คน รายที่ 263 - 266 (รายที่ 147-150 ของการระบาดรอบใหม่) ) ของ จ.นนทบุรี ดังนี้ ผู้ป่วยรายที่ 263 เป็นชายไทย อายุ 21 ปี อ

วันนี้ (13 พ.ค.2564) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อเชิงรุกประชาชนหมู่ที่ 1, 2 และ 5  ต.สระกรวด อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ หลังพบพนักงานบริษัทเงินกู้แห่งหนึ่งในพื้นที่ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 15 คน

วันนี้ (31 ธ.ค.2566) ยูเครนยิงขีปนาวุธโจมตีโต้กลับรัสเซีย หลังจากที่ยูเครนเปิดเผยว่าขีปนาวุธของรัสเซียได้โจมตีเมืองต่างๆ โดยกล้องหน้ารถยนต์บันทึกภาพนาทีย่านใจกลางเมืองเบลโกรอดถูกโจมตีสร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนในพื้นที่โดยรอบ การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็ก 3 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน โดยวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเหตุโจมตีและสั่งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนแล้ว หนังสือพิมพ์คอมเมอร์ซานต์ สื่อของรัสเซีย รายงานว่า ขีปนาวุธหลายลูกถูกยิงมาจากแคว้นคาร์คีฟของยูเครน โดยเป้าหมายการโจมตีในครั้งนี้ครอบคลุมตั้งแต่จัตุรัสใจกลางเมือง ศูนย์การค้า และที่พักอาศัยของประชาชน นอกจากนี้รัสเซียยังกล่าวsa แกม มิ งหายูเครนว่าใช้ระเบิดลูกปราย หรือ คลัสเตอร์ บอมบ์ ในการโจมตีแบบไม่เลือกหน้าด้วย ด้านแหล่งข่าวหน่วยงานด้านความมั่นคงยูเครน ยืนยันว่า การโจมตีในครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารเท่านั้น ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนมาจากความพยายามยั่วยุของรัสเซียที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ขณะที่ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำองค์การสหประชาชาติร้องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงจัดการประชุมฉุกเฉินในประเด็นนี้ สำหรับที่ตั้งแคว้นเบลโกรอดประชิดพรมแดนตอนเหนือของยูเครนและเผชิญกับการโจมตีหลายระลอกตลอดปีที่ผ่านมา การโจมตีทางอากาศแคว้นเบลโกรอดครั้งล่าสุดเกิดขึ้น 1 วันหลังจากรัสเซียได้เปิดฉากถล่มหลายพื้นที่ของยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 39 คนและบาดเจ็บอีก 160 คนขณะที่สิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ถือเป็นการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ปีที่แล้ว ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รัสเซียถล่มยูเครนครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่สงครามปะทุ เสียชีวิตแล้ว 30 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2566 ที่ผ่านมา ที่ประชุม กสทช.นัดพิเศษ ครั้งที่ 7/2566 ได้พ

วันนี้ (3 ก.ค.2567) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงเหตุเครนล้ม ภายในซอยอ่อนนุช

วันนี้ (31 ธ.ค.2566) ยูเครนยิงขีปนาวุธโจมตีโต้กลับรัสเซีย หลังจากที่ยูเครนเปิดเผยว่าขีปนาวุธของรัสเซ

วันนี้ (31 ธ.ค.2566) ยูเครนยิงขีปนาวุธโจมตีโต้กลับรัสเซีย หลังจากที่ยูเครนเปิดเผยว่าขีปนาวุธของรัสเซียได้โจมตีเมืองต่างๆ โดยกล้องหน้ารถยนต์บันทึกภาพนาทีย่านใจกลางเมืองเบลโกรอดถูกโจมตีสร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนในพื้นที่โดยรอบ การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็ก 3 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน โดยวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเหตุโจมตีและสั่งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนแล้ว หนังสือพิมพ์คอมเมอร์ซานต์ สื่อของรัสเซีย รายงานว่า ขีปนาวุธหลายลูกถูกยิงมาจากแคว้นคาร์คีฟของยูเครน โดยเป้าหมายการโจมตีในครั้งนี้ครอบคลุมตั้งแต่จัตุรัสใจกลางเมือง ศูนย์การค้า และที่พักอาศัยของประชาชน นอกจากนี้รัสเซียยังกล่าวsa แกม มิ งหายูเครนว่าใช้ระเบิดลูกปราย หรือ คลัสเตอร์ บอมบ์ ในการโจมตีแบบไม่เลือกหน้าด้วย ด้านแหล่งข่าวหน่วยงานด้านความมั่นคงยูเครน ยืนยันว่า การโจมตีในครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารเท่านั้น ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนมาจากความพยายามยั่วยุของรัสเซียที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ขณะที่ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำองค์การสหประชาชาติร้องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงจัดการประชุมฉุกเฉินในประเด็นนี้ สำหรับที่ตั้งแคว้นเบลโกรอดประชิดพรมแดนตอนเหนือของยูเครนและเผชิญกับการโจมตีหลายระลอกตลอดปีที่ผ่านมา การโจมตีทางอากาศแคว้นเบลโกรอดครั้งล่าสุดเกิดขึ้น 1 วันหลังจากรัสเซียได้เปิดฉากถล่มหลายพื้นที่ของยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 39 คนและบาดเจ็บอีก 160 คนขณะที่สิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ถือเป็นการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ปีที่แล้ว ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รัสเซียถล่มยูเครนครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่สงครามปะทุ เสียชีวิตแล้ว 30 คน

วันนี้ (26 ส.ค.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะทำงาน ด้านนโยบายการท่องเที่ยว พบปะพูดคุยส