วันนี้ (20 ก.ค.2564) เปิดแนวทาง "อู่ฮั่น โมเดล" ว่
วันนี้ 4 ม.ค.2566 นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์เรื่องความเหมาะสมของการเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ วงเงิน 33 ล้านบาท ระ
ความคืบหน้าภารกิจการย้าย "พลายดอกแก้ว" 1 ในช้าง 2 เชือกที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่ ของนางแสงเดือน ชัยเลิศ ขอให้นำออกจากพื้นที่เข้ามาอยู่ร่มแดนช้าง Tusker Shelter ตั้งแต่วันที่ 21
วันนี้ 4 ม.ค.2566 นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์เรื่องความเหมาะสมของการเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ วงเงิน 33 ล้านบาท ระบุว่า มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคมตรวจสอบแล้ว และเรื่องนี้มีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตแจก เว็บ เติม ส ปิ น ฟรีรวจสอบด้วย จึงไม่ต้องกังวลว่า นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนขอโต้แย้งสิ่งที่ รัฐมนตรีคมนาคมตอบ ประเด็นแรก ป้าย 33 ล้านบาท จะราคาแพงเกินไปหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่สังคมสงสัยเพียงอย่างเดียว สิ่งที่สังคมสงสัยมากกว่าคือมีความจำเป็นอะไรถึงต้องเปลี่ยนป้ายจริง ๆ เพราะโดยหลักการตั้งชื่อของสถานีขนส่ง ควรเป็นชื่อที่คนจำง่ายและทำให้รู้ว่าตำแหน่งของสถานีอยู่ตรงไหน เช่น สถานีรถไฟชินจูกุ (Shinjuku) ที่ตั้งอยู่ที่แขวงชินจูกุของกรุงโตเกียว สถานีกลางบางซื่อก็ตั้งอยู่ในเขตบางซื่อ กทม. ประชาชนคนต่างจังหวัด คนต่างชาติได้ยินชื่อก็นึกออกว่าต้องไปที่ไหน ดังนั้น ทางออกของเรื่องนี้ง่ายมาก คือให้สถานีมีทั้ง 2 ชื่อ สำหรับชื่อสถานีกลางบางซื่อ ควรคงไว้เพราะเป็นชื่อที่ประชาชนจำง่าย ส่วนชื่อใหม่ให้ใช้ในเอกสารราชการ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนป้ายให้งง 2 ต่อ นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ประเด็นที่สองขอฝากให้ประชาชนติดตามการใช้เงินแบบแปลกๆ ที่รอบนี้มากกว่าแค่ 33 ล้านบาท หลังจาก รมว.คมนาคม เตรียมดัน 9 เมกะโปรเจกต์ วงเงินหลายแสนล้านบาทให้ผ่านคณะรัฐมนตรีภายในเดือน ม.ค. และกุมภาพันธ์ของปีนี้ก่อนเลือกตั้ง เป็นวิธีการที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้มาตั้งแต่เป็นรัฐบาล คสช. น่าสังเกตว่าช่วงก่อนเลือกตั้งกระทรวงคมนาคมจะขยันผิดปกติ รีบดันโครงการโดยไม่มั่นใจว่าได้คำนึงถึงความคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งอาจก่อปัญหาได้ในอนาคต การเร่งสร้างโดยไม่พร้อมก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย เช่น มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-โคราช ใช้แบบเก่าจากปี 2551 มาอนุมัติให้สร้างในปี 2559 ตามแผนคือเสร็จปี 2563 แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เสร็จ เกิดเป็นช่องว่างต้องหางบมาอุดเพิ่มโดยวิธีการเจรจากับเจ้าเดิม งบบานงานช้าแต่โฆษณาเอาหน้าไปเรื่อย เลื่อนเปิดไปเรื่อย ๆ แทนที่ตอนนี้รัฐบาลจะเร่งสร้างของเก่าให้เสร็จ ก็เอาแต่จะเร่งอนุมัติของใหม่ เราทุกคนจึงต้องตั้งคำถามว่าทำไมการอนุมัติโครงการเช่นนี้จึงเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนการเลือกตั้งทุกครั้ง ข่าวที่เกี่ยวข้อง ดีเดย์ "สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์" เปิดให้บริการ 19 ม.ค.นี้ "ศักดิ์สยาม" สั่งสอบป้ายสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้าน ขีดเส้น 7 วันรู้ผล การรถไฟฯ แจงยิบงบฯ 33 ล้าน เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ
การผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 และการเดินทางที่ง่ายขึ้น ทำให้ปัจจุบันหลายประเทศเริ่มเห็นคนเดินทางไปทำงาน
วันนี้ (3 ธ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุเครื่องบินขับไล่ F-5 จากกองบิน 21 อุบลราชธานี ตกในพ
หากนับครั้งล่าสุดวันนี้ (26 ก.พ.2568) เวลาประมาณ 04.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ดูงานจากเทศบาลพรเจริญ
วันนี้ 4 ม.ค.2566 นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์เรื่องความเหมาะสมของการเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ วงเงิน 33 ล้านบาท ระบุว่า มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคมตรวจสอบแล้ว และเรื่องนี้มีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตแจก เว็บ เติม ส ปิ น ฟรีรวจสอบด้วย จึงไม่ต้องกังวลว่า นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนขอโต้แย้งสิ่งที่ รัฐมนตรีคมนาคมตอบ ประเด็นแรก ป้าย 33 ล้านบาท จะราคาแพงเกินไปหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่สังคมสงสัยเพียงอย่างเดียว สิ่งที่สังคมสงสัยมากกว่าคือมีความจำเป็นอะไรถึงต้องเปลี่ยนป้ายจริง ๆ เพราะโดยหลักการตั้งชื่อของสถานีขนส่ง ควรเป็นชื่อที่คนจำง่ายและทำให้รู้ว่าตำแหน่งของสถานีอยู่ตรงไหน เช่น สถานีรถไฟชินจูกุ (Shinjuku) ที่ตั้งอยู่ที่แขวงชินจูกุของกรุงโตเกียว สถานีกลางบางซื่อก็ตั้งอยู่ในเขตบางซื่อ กทม. ประชาชนคนต่างจังหวัด คนต่างชาติได้ยินชื่อก็นึกออกว่าต้องไปที่ไหน ดังนั้น ทางออกของเรื่องนี้ง่ายมาก คือให้สถานีมีทั้ง 2 ชื่อ สำหรับชื่อสถานีกลางบางซื่อ ควรคงไว้เพราะเป็นชื่อที่ประชาชนจำง่าย ส่วนชื่อใหม่ให้ใช้ในเอกสารราชการ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนป้ายให้งง 2 ต่อ นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ประเด็นที่สองขอฝากให้ประชาชนติดตามการใช้เงินแบบแปลกๆ ที่รอบนี้มากกว่าแค่ 33 ล้านบาท หลังจาก รมว.คมนาคม เตรียมดัน 9 เมกะโปรเจกต์ วงเงินหลายแสนล้านบาทให้ผ่านคณะรัฐมนตรีภายในเดือน ม.ค. และกุมภาพันธ์ของปีนี้ก่อนเลือกตั้ง เป็นวิธีการที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้มาตั้งแต่เป็นรัฐบาล คสช. น่าสังเกตว่าช่วงก่อนเลือกตั้งกระทรวงคมนาคมจะขยันผิดปกติ รีบดันโครงการโดยไม่มั่นใจว่าได้คำนึงถึงความคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งอาจก่อปัญหาได้ในอนาคต การเร่งสร้างโดยไม่พร้อมก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย เช่น มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-โคราช ใช้แบบเก่าจากปี 2551 มาอนุมัติให้สร้างในปี 2559 ตามแผนคือเสร็จปี 2563 แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เสร็จ เกิดเป็นช่องว่างต้องหางบมาอุดเพิ่มโดยวิธีการเจรจากับเจ้าเดิม งบบานงานช้าแต่โฆษณาเอาหน้าไปเรื่อย เลื่อนเปิดไปเรื่อย ๆ แทนที่ตอนนี้รัฐบาลจะเร่งสร้างของเก่าให้เสร็จ ก็เอาแต่จะเร่งอนุมัติของใหม่ เราทุกคนจึงต้องตั้งคำถามว่าทำไมการอนุมัติโครงการเช่นนี้จึงเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนการเลือกตั้งทุกครั้ง ข่าวที่เกี่ยวข้อง ดีเดย์ "สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์" เปิดให้บริการ 19 ม.ค.นี้ "ศักดิ์สยาม" สั่งสอบป้ายสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้าน ขีดเส้น 7 วันรู้ผล การรถไฟฯ แจงยิบงบฯ 33 ล้าน เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ
วันนี้ (3 ส.ค.2567) ไทยบันเทิงไทยพีบีเอส รายงานว่า เฟซบุ๊กเพจสมาคมนักร้องลูกทุ่งแห่งประเทศไทย โพสต์แ