หลังจากที่ในปี 2022 นาซาประสบความสำเร็จในการทดสอบอ
วัดอรัญญวาส หรือ วัดบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ใช้พื้นที่ของวัดปลูกข้าวร่วมกับชาวบ้าน โดยข้าวที่ได้นอกจากใช้ในกิจการของวัด ยังแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่มีฐานะยากจน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในครอบค
วันนี้ (2 ก.พ.64) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีที่นายเตชินท์ พลอยเพชร หรือ ดีเจมะตูม ที่ติดเชื้อ COVID-19 และมีการจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านสาทร และมีผู
นายกฯ ไม่ยืนยันซื้อเรือดำน้ำทันในรัฐบาลชุดนี้ วันนี้ (7 ก.ค.2558) คณะรัฐมนตรียังไม่มีการพิจารณาการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ นายกรัฐมนตรีไม่ยืนยันว่าจะทันการจัดซื้อในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมปฏิเสธว่าความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกซื้อเรือดำน้ำจากจีน นายกฯ ไม่ยืนยันซื้อเรือดำน้ำทันในรัฐบาลชุดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้ความเห็นจำเป็นหรือไม่ที่จะจัดซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำจากจีน ด้วยงบประมาณ 36,000 ล้านบาท แต่ชี้ว่าเป็นแผนงานพัฒนากองทัพที่วางไว้ 10-20 ปี แล้ว และไม่ยืนยันว่าจะจัดซื้อในรัฐบาลนี้หรือไม่ ขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของกระทรวงกลาโหม ยังไม่มีการนำเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรีในวันนี้ การจัดซื้อเรือดำน้ำเพื่อประจำการในกองทัพเรือถูกบรรจุในแผนพัฒนากองทัพเรือทุกครั้งตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยเป็นรูปธรรม โดย พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เผยเมื่อวันที่ 2 ก.ค.2558 ว่าคณะกรรมการของกองทัพเรือ มีมติเลือกจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน และเตรียมเสนอให้กระทรวงกลาโหมเพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าขณะนี้ตนยังไม่ได้พิจารณาข้อเสนอเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ และตอบไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.เมื่อไหร่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังชี้แจงด้วยว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาศักยภาพของกองทัพเรือที่วางไว้นานแล้ว และการจัดซื้อก็ไม่ใช่ว่าจะต้องจ่ายเงินในคราวเดียว 3 หมื่นกว่าล้านบาท แต่เป็นการทยอยจ่าย พร้อมกับปฏิเสธว่าเหตุที่กองทัพเรือเสนอให้ซื้อเรือดำน้ำจากจีนนั้นไม่เกี่ยวกับการที่รัฐบาลชุดนี้หรือการที่ตนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน แต่พิจารณาจากราคาและประสิทธิภาพที่เหมาะสมของยุทโธปกรณ์ "คุณจะบอกว่าซื้อเรือดำน้ำเหมือนซื้อปาท่องโก๋ได้ไหม เรือดำน้ำเป็นยุทธภัณฑ์หลักและอยู่ในเรื่องของการพัฒนากองทัพเรือ หน่วยเรือดำน้ำมีมานานแล้วและมีผบ.อยู่แต่ไม่มีเรือ เพราะจะซื้อก็ซื้อไม่ได้ เพราะมักมีการวิจารณ์ว่าซื้อเรือดำน้ำต้องใช้เงินเยอะ ขณะที่ชาวบ้านยังยากจน แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้มีการวางแผนกันมานานแล้ว กองทัพเรือวางแผนมานาน 20 ปีแล้ว แต่ก็มีเรือดำน้ำไม่ได้สักที มาถึงตอนนี้พอรัฐบาลนี้เข้ามา กองทัพเรือก็อยากจะได้เรือดำน้ำ เขาก็ทำเรื่องหารือมายังกระทรวงกลาโหม ซึ่งเสนอมาหลายครั้งแล้ว ตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็เห็นชอบว่าน่าจะมีเรือดำน้ำ รัฐบาลนี้ก็เช่นกัน แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้ให้ว่าไปซื้อเพราะต้องเข้าคณะรัฐมนตรีก่อน ซึ่งกองทัพเรือได้ประเมินไว้แล้วว่าต้องใช้งบประมาณอย่างไร อย่างเช่นถ้าซื้อในปีนี้ อีก 5 ปีถึงจะได้ ถ้ามีการอนุมัติให้ซื้อ ปีเริ่มต้นโครงการจะใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท มันไม่ใช่เป็นการจ่ายทีเดียว 3 หมื่นกว่าล้านบาท" พล.อ.ประวิตรกล่าว "การซื้อเรือดำน้ำเป็นข้อเสนอของกองทัพเรือ ไม่ใช่ของรัฐบาล แต่กองทัพเรือต้องถามรัฐบาล และการจัดซื้อเขาก็ให้แต่ละประเทศเสนอมา ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปซื้อเรือดำน้ำ มันมีขั้นตอนการดำเนินการของเขาอยู่" ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนการที่รัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งพล.อ.ประวิตรเองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนนั้นเป็นเหตุที่ทำให้เลือกซื้อเรือดำน้ำจากจีนหรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประวิตรตอบว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่าใครมีความสัมพันธ์กับจีนหรือเปล่า แต่เราต้องพิจารณาว่าใครมีของถูก ของดี มีประสิทธิภาพ เอามาใช้งานได้เลย นี่ไม่ใช่เรเกม ใหม่ ค่าย pgื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว พร้อมกับย้ำว่าขณะนี้ตนยังไม่อนุมัติและยังไม่เข้าครม. "ประเทศรอบบ้านก็มีเรือดำน้ำหมดแล้ว เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเราก็ไม่ได้เป็นประเทศเล็กๆ ในอาเซียน เวลาไปฝึกร่วมกับเขา เราไม่มีเขามี มันเป็นเรื่องการพัฒนาศักยภาพของกองทัพ" พล.อ.ประวิตรกล่าวและระบุว่าหากไม่ซื้อเรือดำน้ำ กองทัพเรือก็จะนำงบประมาณที่เตรียมไว้ไปซื้ออย่างอื่นเพื่อพัฒนากองทัพเรือแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้ความเห็นจำเป็นหรือไม่ที่จะจัดซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำจากจีน ด้วยงบประมาณ 36,000 ล้านบาท แต่ชี้ว่าเป็นแผนงานพัฒนากองทัพที่วางไว้ 10-20 ปี แล้ว และไม่ยืนยันว่าจะจัดซื้อในรัฐบาลนี้หรือไม่ ขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของกระทรวงกลาโหม ยังไม่มีการนำเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรีในวันนี้ การจัดซื้อเรือดำน้ำเพื่อประจำการในกองทัพเรือถูกบรรจุในแผนพัฒนากองทัพเรือทุกครั้งตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยเป็นรูปธรรม โดย พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เผยเมื่อวันที่ 2 ก.ค.2558 ว่าคณะกรรมการของกองทัพเรือ มีมติเลือกจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน และเตรียมเสนอให้กระทรวงกลาโหมเพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าขณะนี้ตนยังไม่ได้พิจารณาข้อเสนอเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ และตอบไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.เมื่อไหร่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังชี้แจงด้วยว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาศักยภาพของกองทัพเรือที่วางไว้นานแล้ว และการจัดซื้อก็ไม่ใช่ว่าจะต้องจ่ายเงินในคราวเดียว 3 หมื่นกว่าล้านบาท แต่เป็นการทยอยจ่าย พร้อมกับปฏิเสธว่าเหตุที่กองทัพเรือเสนอให้ซื้อเรือดำน้ำจากจีนนั้นไม่เกี่ยวกับการที่รัฐบาลชุดนี้หรือการที่ตนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน แต่พิจารณาจากราคาและประสิทธิภาพที่เหมาะสมของยุทโธปกรณ์ "คุณจะบอกว่าซื้อเรือดำน้ำเหมือนซื้อปาท่องโก๋ได้ไหม เรือดำน้ำเป็นยุทธภัณฑ์หลักและอยู่ในเรื่องของการพัฒนากองทัพเรือ หน่วยเรือดำน้ำมีมานานแล้วและมีผบ.อยู่แต่ไม่มีเรือ เพราะจะซื้อก็ซื้อไม่ได้ เพราะมักมีการวิจารณ์ว่าซื้อเรือดำน้ำต้องใช้เงินเยอะ ขณะที่ชาวบ้านยังยากจน แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้มีการวางแผนกันมานานแล้ว กองทัพเรือวางแผนมานาน 20 ปีแล้ว แต่ก็มีเรือดำน้ำไม่ได้สักที มาถึงตอนนี้พอรัฐบาลนี้เข้ามา กองทัพเรือก็อยากจะได้เรือดำน้ำ เขาก็ทำเรื่องหารือมายังกระทรวงกลาโหม ซึ่งเสนอมาหลายครั้งแล้ว ตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็เห็นชอบว่าน่าจะมีเรือดำน้ำ รัฐบาลนี้ก็เช่นกัน แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้ให้ว่าไปซื้อเพราะต้องเข้าคณะรัฐมนตรีก่อน ซึ่งกองทัพเรือได้ประเมินไว้แล้วว่าต้องใช้งบประมาณอย่างไร อย่างเช่นถ้าซื้อในปีนี้ อีก 5 ปีถึงจะได้ ถ้ามีการอนุมัติให้ซื้อ ปีเริ่มต้นโครงการจะใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท มันไม่ใช่เป็นการจ่ายทีเดียว 3 หมื่นกว่าล้านบาท" พล.อ.ประวิตรกล่าว "การซื้อเรือดำน้ำเป็นข้อเสนอของกองทัพเรือ ไม่ใช่ของรัฐบาล แต่กองทัพเรือต้องถามรัฐบาล และการจัดซื้อเขาก็ให้แต่ละประเทศเสนอมา ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปซื้อเรือดำน้ำ มันมีขั้นตอนการดำเนินการของเขาอยู่" ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนการที่รัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งพล.อ.ประวิตรเองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนนั้นเป็นเหตุที่ทำให้เลือกซื้อเรือดำน้ำจากจีนหรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประวิตรตอบว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่าใครมีความสัมพันธ์กับจีนหรือเปล่า แต่เราต้องพิจารณาว่าใครมีของถูก ของดี มีประสิทธิภาพ เอามาใช้งานได้เลย นี่ไม่ใช่เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว พร้อมกับย้ำว่าขณะนี้ตนยังไม่อนุมัติและยังไม่เข้าครม. "ประเทศรอบบ้านก็มีเรือดำน้ำหมดแล้ว เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเราก็ไม่ได้เป็นประเทศเล็กๆ ในอาเซียน เวลาไปฝึกร่วมกับเขา เราไม่มีเขามี มันเป็นเรื่องการพัฒนาศักยภาพของกองทัพ" พล.อ.ประวิตรกล่าวและระบุว่าหากไม่ซื้อเรือดำน้ำ กองทัพเรือก็จะนำงบประมาณที่เตรียมไว้ไปซื้ออย่างอื่นเพื่อพัฒนากองทัพเรือแทน
นายกฯ ไม่ยืนยันซื้อเรือดำน้ำทันในรัฐบาลชุดนี้ วันนี้ (7 ก.ค.2558) คณะรัฐมนตรียังไม่มีการพิจารณาการจั
วันนี้ (8 มี.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนบนเกาะช้าง จ.ตราด มีการแบ่งเส้นจราจรไม่ชัดเจน ซึ่งบางช่
วันนี้ (31 ธ.ค.2567) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ที่สุดแห่งปี
นายกฯ ไม่ยืนยันซื้อเรือดำน้ำทันในรัฐบาลชุดนี้ วันนี้ (7 ก.ค.2558) คณะรัฐมนตรียังไม่มีการพิจารณาการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ นายกรัฐมนตรีไม่ยืนยันว่าจะทันการจัดซื้อในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมปฏิเสธว่าความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกซื้อเรือดำน้ำจากจีน นายกฯ ไม่ยืนยันซื้อเรือดำน้ำทันในรัฐบาลชุดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้ความเห็นจำเป็นหรือไม่ที่จะจัดซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำจากจีน ด้วยงบประมาณ 36,000 ล้านบาท แต่ชี้ว่าเป็นแผนงานพัฒนากองทัพที่วางไว้ 10-20 ปี แล้ว และไม่ยืนยันว่าจะจัดซื้อในรัฐบาลนี้หรือไม่ ขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของกระทรวงกลาโหม ยังไม่มีการนำเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรีในวันนี้ การจัดซื้อเรือดำน้ำเพื่อประจำการในกองทัพเรือถูกบรรจุในแผนพัฒนากองทัพเรือทุกครั้งตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยเป็นรูปธรรม โดย พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เผยเมื่อวันที่ 2 ก.ค.2558 ว่าคณะกรรมการของกองทัพเรือ มีมติเลือกจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน และเตรียมเสนอให้กระทรวงกลาโหมเพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าขณะนี้ตนยังไม่ได้พิจารณาข้อเสนอเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ และตอบไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.เมื่อไหร่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังชี้แจงด้วยว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาศักยภาพของกองทัพเรือที่วางไว้นานแล้ว และการจัดซื้อก็ไม่ใช่ว่าจะต้องจ่ายเงินในคราวเดียว 3 หมื่นกว่าล้านบาท แต่เป็นการทยอยจ่าย พร้อมกับปฏิเสธว่าเหตุที่กองทัพเรือเสนอให้ซื้อเรือดำน้ำจากจีนนั้นไม่เกี่ยวกับการที่รัฐบาลชุดนี้หรือการที่ตนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน แต่พิจารณาจากราคาและประสิทธิภาพที่เหมาะสมของยุทโธปกรณ์ "คุณจะบอกว่าซื้อเรือดำน้ำเหมือนซื้อปาท่องโก๋ได้ไหม เรือดำน้ำเป็นยุทธภัณฑ์หลักและอยู่ในเรื่องของการพัฒนากองทัพเรือ หน่วยเรือดำน้ำมีมานานแล้วและมีผบ.อยู่แต่ไม่มีเรือ เพราะจะซื้อก็ซื้อไม่ได้ เพราะมักมีการวิจารณ์ว่าซื้อเรือดำน้ำต้องใช้เงินเยอะ ขณะที่ชาวบ้านยังยากจน แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้มีการวางแผนกันมานานแล้ว กองทัพเรือวางแผนมานาน 20 ปีแล้ว แต่ก็มีเรือดำน้ำไม่ได้สักที มาถึงตอนนี้พอรัฐบาลนี้เข้ามา กองทัพเรือก็อยากจะได้เรือดำน้ำ เขาก็ทำเรื่องหารือมายังกระทรวงกลาโหม ซึ่งเสนอมาหลายครั้งแล้ว ตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็เห็นชอบว่าน่าจะมีเรือดำน้ำ รัฐบาลนี้ก็เช่นกัน แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้ให้ว่าไปซื้อเพราะต้องเข้าคณะรัฐมนตรีก่อน ซึ่งกองทัพเรือได้ประเมินไว้แล้วว่าต้องใช้งบประมาณอย่างไร อย่างเช่นถ้าซื้อในปีนี้ อีก 5 ปีถึงจะได้ ถ้ามีการอนุมัติให้ซื้อ ปีเริ่มต้นโครงการจะใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท มันไม่ใช่เป็นการจ่ายทีเดียว 3 หมื่นกว่าล้านบาท" พล.อ.ประวิตรกล่าว "การซื้อเรือดำน้ำเป็นข้อเสนอของกองทัพเรือ ไม่ใช่ของรัฐบาล แต่กองทัพเรือต้องถามรัฐบาล และการจัดซื้อเขาก็ให้แต่ละประเทศเสนอมา ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปซื้อเรือดำน้ำ มันมีขั้นตอนการดำเนินการของเขาอยู่" ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนการที่รัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งพล.อ.ประวิตรเองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนนั้นเป็นเหตุที่ทำให้เลือกซื้อเรือดำน้ำจากจีนหรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประวิตรตอบว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่าใครมีความสัมพันธ์กับจีนหรือเปล่า แต่เราต้องพิจารณาว่าใครมีของถูก ของดี มีประสิทธิภาพ เอามาใช้งานได้เลย นี่ไม่ใช่เรเกม ใหม่ ค่าย pgื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว พร้อมกับย้ำว่าขณะนี้ตนยังไม่อนุมัติและยังไม่เข้าครม. "ประเทศรอบบ้านก็มีเรือดำน้ำหมดแล้ว เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเราก็ไม่ได้เป็นประเทศเล็กๆ ในอาเซียน เวลาไปฝึกร่วมกับเขา เราไม่มีเขามี มันเป็นเรื่องการพัฒนาศักยภาพของกองทัพ" พล.อ.ประวิตรกล่าวและระบุว่าหากไม่ซื้อเรือดำน้ำ กองทัพเรือก็จะนำงบประมาณที่เตรียมไว้ไปซื้ออย่างอื่นเพื่อพัฒนากองทัพเรือแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้ความเห็นจำเป็นหรือไม่ที่จะจัดซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำจากจีน ด้วยงบประมาณ 36,000 ล้านบาท แต่ชี้ว่าเป็นแผนงานพัฒนากองทัพที่วางไว้ 10-20 ปี แล้ว และไม่ยืนยันว่าจะจัดซื้อในรัฐบาลนี้หรือไม่ ขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของกระทรวงกลาโหม ยังไม่มีการนำเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรีในวันนี้ การจัดซื้อเรือดำน้ำเพื่อประจำการในกองทัพเรือถูกบรรจุในแผนพัฒนากองทัพเรือทุกครั้งตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยเป็นรูปธรรม โดย พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เผยเมื่อวันที่ 2 ก.ค.2558 ว่าคณะกรรมการของกองทัพเรือ มีมติเลือกจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน และเตรียมเสนอให้กระทรวงกลาโหมเพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าขณะนี้ตนยังไม่ได้พิจารณาข้อเสนอเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ และตอบไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.เมื่อไหร่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังชี้แจงด้วยว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาศักยภาพของกองทัพเรือที่วางไว้นานแล้ว และการจัดซื้อก็ไม่ใช่ว่าจะต้องจ่ายเงินในคราวเดียว 3 หมื่นกว่าล้านบาท แต่เป็นการทยอยจ่าย พร้อมกับปฏิเสธว่าเหตุที่กองทัพเรือเสนอให้ซื้อเรือดำน้ำจากจีนนั้นไม่เกี่ยวกับการที่รัฐบาลชุดนี้หรือการที่ตนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน แต่พิจารณาจากราคาและประสิทธิภาพที่เหมาะสมของยุทโธปกรณ์ "คุณจะบอกว่าซื้อเรือดำน้ำเหมือนซื้อปาท่องโก๋ได้ไหม เรือดำน้ำเป็นยุทธภัณฑ์หลักและอยู่ในเรื่องของการพัฒนากองทัพเรือ หน่วยเรือดำน้ำมีมานานแล้วและมีผบ.อยู่แต่ไม่มีเรือ เพราะจะซื้อก็ซื้อไม่ได้ เพราะมักมีการวิจารณ์ว่าซื้อเรือดำน้ำต้องใช้เงินเยอะ ขณะที่ชาวบ้านยังยากจน แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้มีการวางแผนกันมานานแล้ว กองทัพเรือวางแผนมานาน 20 ปีแล้ว แต่ก็มีเรือดำน้ำไม่ได้สักที มาถึงตอนนี้พอรัฐบาลนี้เข้ามา กองทัพเรือก็อยากจะได้เรือดำน้ำ เขาก็ทำเรื่องหารือมายังกระทรวงกลาโหม ซึ่งเสนอมาหลายครั้งแล้ว ตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็เห็นชอบว่าน่าจะมีเรือดำน้ำ รัฐบาลนี้ก็เช่นกัน แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้ให้ว่าไปซื้อเพราะต้องเข้าคณะรัฐมนตรีก่อน ซึ่งกองทัพเรือได้ประเมินไว้แล้วว่าต้องใช้งบประมาณอย่างไร อย่างเช่นถ้าซื้อในปีนี้ อีก 5 ปีถึงจะได้ ถ้ามีการอนุมัติให้ซื้อ ปีเริ่มต้นโครงการจะใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท มันไม่ใช่เป็นการจ่ายทีเดียว 3 หมื่นกว่าล้านบาท" พล.อ.ประวิตรกล่าว "การซื้อเรือดำน้ำเป็นข้อเสนอของกองทัพเรือ ไม่ใช่ของรัฐบาล แต่กองทัพเรือต้องถามรัฐบาล และการจัดซื้อเขาก็ให้แต่ละประเทศเสนอมา ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปซื้อเรือดำน้ำ มันมีขั้นตอนการดำเนินการของเขาอยู่" ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนการที่รัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งพล.อ.ประวิตรเองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนนั้นเป็นเหตุที่ทำให้เลือกซื้อเรือดำน้ำจากจีนหรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประวิตรตอบว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่าใครมีความสัมพันธ์กับจีนหรือเปล่า แต่เราต้องพิจารณาว่าใครมีของถูก ของดี มีประสิทธิภาพ เอามาใช้งานได้เลย นี่ไม่ใช่เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว พร้อมกับย้ำว่าขณะนี้ตนยังไม่อนุมัติและยังไม่เข้าครม. "ประเทศรอบบ้านก็มีเรือดำน้ำหมดแล้ว เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเราก็ไม่ได้เป็นประเทศเล็กๆ ในอาเซียน เวลาไปฝึกร่วมกับเขา เราไม่มีเขามี มันเป็นเรื่องการพัฒนาศักยภาพของกองทัพ" พล.อ.ประวิตรกล่าวและระบุว่าหากไม่ซื้อเรือดำน้ำ กองทัพเรือก็จะนำงบประมาณที่เตรียมไว้ไปซื้ออย่างอื่นเพื่อพัฒนากองทัพเรือแทน
วันนี้ (30 ธ.ค.2564) นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต เปิดเผยถึงกรณีภาวะซึมเศร้าในช่วงปีใหม่