วันนี้ (19 ม.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประ
วันนี้ (7 ม.ค.2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 จำนวน 3,780,600 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับกรอบวงเงินตา
วันนี้ (7 ม.ค.2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 จำนวน 3,780,600 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับกรอบวงเงินตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปึงบประมาณ 2569-2572) ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2567 โดยปี พ.ศ. 2569 นี้ เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จำนวน 27,900 ล้านบาท โดยจะมีรายได้สุทธิจำนวน 2,920,600 ล้านบาท และเป็นเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 860,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ สำหรับโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ประกอบด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลได้ขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2567 อย่างเคร่งครัด 4 เรื่อง ดังนี้ 1.ให้กระทรวงการคลังจัดเก็บรายได้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยให้เทียบเคียงการดำเนินการกับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกับประเทศไทย 2.ให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด เพื่อให้มีความคุ้มค่า ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน สำหรับการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้เสนอขอรับเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยให้ความสำคัญกับโครงการลงทุนของภาครัฐ 3.ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่มีเงินนอกงบประมาณ เงินรายได้ หรือเงินสะสม ให้นำเงินเหล่านี้มาใช้ดำเนินโครงการ/ภารกิจในความรับผิดชอบเป็นลำดับแรก รวมทั้งพิจารณาแหล่งเงินอื่นเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินโครงการของหน่วยงานตามความเหมาะสม 4.ให้ทุกกระทรวงและรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งให้รัฐวิสาหกิจพิจารณาลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนและนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประฝาก 10 รับ 100 918kayaทดลอง เล่น คา สิ โนเทศเพิ่มมากขึ้น อ่านข่าว : ครม.ไฟเขียว "บุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่" ของต้องห้าม นร.-นศ. มติ กบฉ.ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินพื้นที่ อ.ยะหา ชงเข้า ครม.
วันนี้ (13 ก.ค.2564) ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ระบุว่า ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 8,685 คน จำแนกเป็นติดเชื้อใหม่ 8,539 คน ติดเชื้อภายในเรือนจำ-ที่ต้องขัง 146 คน หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 3,