“ยอโควิช” ชนะ “นาดาล” คว้าแชมป์เทนนิส ยูเอส โอเพ่น

รัฐบาลยินดีที่จะรับข้อเสนอของกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ของเครือข่ายปกป้องอันดามันไปพิจารณา พร้อมเปิดเวทีพูดคุยหาข้อสรุปโดยเร็ว ด้านเครือข่ายปกป้องอันดามัน ขอเวลา 3 ปี สร้างพลังงานทดแทน รองร

วันนี้ (16 ส.ค.2567) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไท

วันนี้ (9 พ.ย.2565) ความคืบหน้ากรณีที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แจ้งให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยใช้เงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิ

วันนี้ (9 พ.ย.2565) ความคืบหน้ากรณีที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แจ้งให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยใช้เงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) เพื่อพิจารณาสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด รวมภาษีมูลค่า 42 ล้านเหรียญ หรือ ประมาณ 1,600 ล้านบาท หลังล่าสุด คณะกรรมการ กสทช. เสียงข้างมาก 4 : 2 เสียง อนุมัติเงินกองทุน กทปส.จำนวน 600 ล้านบาท ให้ กกท.ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ประธาน กสทช.ออกเอกสารชี้แจงโดยให้เหตุผลสำคัญว่า ในการอนุมัติงบประมาณจำนวน 600 ล้านบาทเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน ในการรับชมแบบฟรีทีวีทุกแพลตฟอร์ม เพื่อจะได้รับชมการ818kingถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ขณะที่ คณะกรรมการเสียงข้างน้อย ทั้ง 2 คน ได้แก่ ศ.พิรงรอง รามสูตร และ นายศุภัช ศุภชลาศัย ให้เหตุผลว่า การอนุมัติงบประมาณดังกล่าว อาจไม่เข้าข่ายวัตถุประสงค์ของกองทุน กทปส.ดังที่ควรจะเป็น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนี้ไปต้องติดตามต่อไปว่า เมื่อ กสทช.อนุมัติงบประมาณ 600 ล้านบาท ในการจัดซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก ไปแล้ว โดย กกท.ซึ่งของบประมาณราว 1,600 ล้านบาท โดยเงินจำนวนที่เหลืออีกราว 1,000 ล้านบาท กกท.จะต้องเป็นผู้ดำเนินการหามาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถจัดซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกราว 1,600 ล้านบาท ได้รวมถึงค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ด้วย ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีนักวิชาการจากหลายสถาบัน ออกแถลงการณ์คัดค้านนำเงินกองทุน กทปส.จำนวน 1,600 ล้านบาท มาซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก โดยให้เหตุผลว่า ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกองทุน "กทปส." และไม่ใช่เพื่อประโยชน์สาธารณะ

หลังจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ เริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัดคือ จ.ร้อยเอ็ด, จ.เพชรบุรี, จ.แพร่,จ.นราธิวาส พบว่า หลายพื้นที่ประชานได้รับความสะดวกมาก