UID: 36109

วันนี้ (2 พ.ค.ท 2567) ผู้สื่อข่าว รายงานว่า หลังจากที่ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

หลังสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ส่งหนังสือให้ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ชี้แจง

วันนี้ (2 พ.ค.ท 2567) ผู้สื่อข่าว รายงานว่า หลังจากที่ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้จัดแถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) กล่าวว่า ไม่ว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีนี้จะออกมาเช่นใด เฟดจะยังคงมีความเป็นอิสระในการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ส่วนในเรื่องเงินเฟ้อ กรรมการเฟดหลายคนต้องการความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% แต่นับจนถึงขณะนี้เฟดก็ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ทำให้เฟดตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูง จนกว่าสถานการณ์ด้านเงินเฟ้อจะเปลี่ยนแปลงไป “เฟดจะมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่เป้าหมายอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ และเฟดพร้อมที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันตราบที่เราเห็นว่าเหมาะสม และคิดว่าเฟดไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า คือวันที่ 11 -12 มิ.ย.” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าปัจจัยใดจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นายพาวเวลกล่าวว่า คิดว่าจำเป็นต้องเห็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า นโยบายการเงินของเราไม่มีความเข้มงวดมากพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน แต่เราเชื่อว่าเราจะไม่ได้เห็นหลักฐานดังกล่าว ในการแถลงข่าวscr888 ไทย ฟรีเครดิต 2021สล็อต เครดิต ฟรี 200ครั้งนี้ นายพาวเวลได้กล่าวถึงเรื่องงบดุลของเฟด โดยย้ำว่า การชะลอการใช้มาตรการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) นั้น ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจหรือลดการคุมเข้มทางการเงิน สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวของนายพาวเวลมีขึ้น หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่เริ่มวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25% รายงานข่าวจากเว็บไซต์ ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์ ว่า ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทอง เนื่องจากราคาทองปรับตัวขึ้นแรง หลังจากที่ปรับตัวลงแรงหลุด 2300 ดอลลาร์ ประกอบกับเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 5.25-5.50 % และประธานเฟดแถลงเป็นห่วงเงินเฟ้อที่ยังไม่ได้ตามเป้า แต่จะยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งก่อนไปช่วงเดือนมิ.ย. ส่วนกองทุน SPDR ขายทองคำออก 1.15 ตัน ทั้งนี้ตลาด ยังรอติดตามการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา หลังสหรัฐและอียิปต์พยายามผลักดันให้มีการเจรจารอบใหม่เกิดขึ้น แนะนำ Short สัญญา GF10M24 ที่ 41,050 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 40,200 บาท และตัดขาดทุนหากทะลุแนวต้านที่ 41,500 บาท สำหรับราคาทองเปิดตลาด ลบ 50บาท ผันผวน 7 ครั้ง โดยราคาทองคำแท่ง ขายออกบาทละ 40,400 บาท และราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 40,300 บาท ราคาทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 40,900 บาท และราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 39,567.60 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,311 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 36.92 บาทต่อดอลลาร์ อ่านข่าวอื่นๆ: ธพ.สั่งยกเลิกหัวจ่าย "ดีเซลบี 10" เหลือแค่ บี 7-บี 20 มีผล 1 พ.ค.นี้ ราคาทองคำ ดิ่ง 400 คาดลงยาว เหตุ"อิสราเอล-ฮามาส" หยุดยิง "จุลพันธ์" เผยเล็งเพิ่มทุน ธ.ก.ส. 10,000 ล้านเสริมสภาพคล่อง

วันนี้ (5 เม.ย.2565) นายรณรงค์​ พูลพิพัฒน์​ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า​ (สนค.) กระ