วันนี้ (28 มี.ค.2567) จากกรณีข่าว มูลนิธิแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ส่งเด็กต่างชาติ 19 คน บวชสามเณรภาคฤด
ช่วงค่ำวานนี้ (7 มี.ค.2568) เกิดเหตุต้องสงสัย 1 คน ใช้รถวิทยุบังคับติดประทัดยักษ์ พร้อมกับบังคับให้รถวิ่งไปยังบริเวณสะพาน ซึ่งห่างจากจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ ประมาณ 10 ม.จากนั้นก็เกิดระเบิดขึ้น เหตุเกิดใ
วันนี้ (28 มี.ค.2567) จากกรณีข่าว มูลนิธิแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ส่งเด็กต่างชาติ 19 คน บวชสามเณรภาคฤดูร้อนที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ภายหลังเด็กถูกส่งตัวกลับมายังมูลนิธิเดิม ใน จ.เชียงราย และเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ ณ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย ร่วมกับ ตม.เชียงแสน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า มูลนิธิฯ ที่รับตัวเด็ก ไม่มีใบอนุญาตจัดตั้งเป็นสถานสงเคราะห์เอกชนตามกฎหมาย รวมถึงรับบุคคลต่างด้าวไว้ในความดูแล โดยไม่แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ตม.เชียงแสน จึงส่งตัวเด็กเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ ตามมาตรการและแนวทางแทนการกักตัวเด็กไว้ในสถานกักตัวคนต่างด้าว เพื่อรอการส่งกลับ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.2567 เพื่อให้เด็กได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกรอบกฎหมายภายใน และระหว่างประเทศอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมฯ ระบุว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และรัฐบาลไทย เป็นคู่สัญญาว่าด้วยการปกป้องสิทธิเด็ก ซึ่งเป็นคู่สัญญาที่มีมานานกว่า 30 ปี มีหน้าที่หลักในการดูแลสวัสดิภาพทั้งกายและใจของเด็ก รวมถึงด้านการศึกษาด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการส่งตัวกลับประเทศต้นทางหากไม่ปลอดภัย ด้านนางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. พมจ.เชียงราย บพด.เชียงราย ตม.เชียงแสน และภาคประชาสังคมด้านการคุ้มครองเด็ก ร่วมประชุมทีมสหวิชาชีพ เพื่อหารือแนวทางให้ความช่วยเหลือ โดยมติที่ประชุมให้ชะลอการส่งเด็กกลับครอบครัว เพื่อสืบเสาะข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และดำเนินการด้านกฎหมาย ซึ่งมีแผนการดำเนินการ โดยกรณีเด็กไทยให้ดำเนินการติดตามครอบครัวของsagame6699 sagame6699เด็ก ซึ่งถ้าเด็กมีผู้ปกครอง จะพิจารณาคืนเด็กให้ผู้ปกครอง และร่วมกันวางแผนด้านการศึกษา หากเด็กไม่มีผู้ปกครอง เด็กจะได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพจาก พม. และประสาน ให้เด็กได้เรียนต่อเช่นกัน กรณีเด็กต่างชาติ หากพบว่า มีผู้ปกครองหรือญาติที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งในไทย หรือมีผู้ปกครองเดินทางไป-มา ระหว่างชายแดน และประสงค์ขอรับตัวเด็กกลับไปอุปการะดูแล จะมีการประเมินความพร้อมเพื่อให้มั่นใจว่าเด็กจะปลอดภัย รวมถึงประสานกระทรวงศึกษาธิการเพื่อจัดให้เด็กได้เรียนหนังสือต่อในโรงเรียนประจำในพื้นที่ ทั้งนี้หากไม่สามารถติดตามครอบครัวได้ พม.จะจัดหาสถานรองรับภาครัฐ-เอกชน ที่เหมาะสมในการดูแลและคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กกลุ่มนี้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม พม.เน้นย้ำให้เด็กได้อยู่กับครอบครัว โดยมีรัฐและองค์กรเครือข่ายช่วยเหลือสนับสนุนให้ผู้ปกครองมีความสามารถในการดูแลเด็กให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความปลอดภัย โดย พม.จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือแนวทางการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในสถานการณ์โยกย้ายถิ่นฐาน โดยไม่มีการผลักดันกลับหากไม่ปลอดภัยตามหลัก Non-refoulement และดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามหลักสิทธิเด็กและสิทธิมนุษยชนต่อไป อ่านข่าว : "จักรภพ" เปิดใจขอโอกาสกลับบ้านในรอบ 15 ปีสู้คดีการเมือง "รถไฟฟ้าสายสีเหลือง" ปิดให้บริการทุกสถานี เบื้องต้นแจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้อง รร.พร้อมรับมติ ครม.จ้าง "ภารโรง" ช่วยอยู่เวรแทน "ครู"
นโยบายและหลักเกณฑ์ที่ผู้ผลิตแพลตฟอร์ม TikTok แสดงจุดยืนการนำเสนอข้อมูลที่มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือช่วงการเลือกตั้งปี 2566 โดย Tiktok จะไม่อนุญาตให้โปรโมตหรือทำโฆษณาที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับประเด็นทา