joker123 joker888
Kepala Pusat Penerangan (Kapuspen) TNI Mayjen TNI
฿37310
บาท2
ห้องนอน
49
ห้องน้ำ
436
ตร.ม.
฿ 7651
/ ตารางเมตร
joker123 joker888
JAKARTA – Sikap PresidenPrabowo Subiantoyang secar
UID: 52784
วันนี้ (27 ต.ค.2564) พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศา
กองทุนพัฒนาไฟฟ้า ฤาจะซ้ำรอยเดิม ? โดย จรุงพัฒน์ ใจวงศ์ผาบ โครงการปฏิบัติงานสื่อสารออนไลน์เพื่อส่งเสร
กองทุนพัฒนาไฟฟ้า ฤาจะซ้ำรอยเดิม ? โดย จรุงพัฒน์ ใจวงศ์ผาบ โครงการปฏิบัติงานสื่อสารออนไลน์เพื่อส่งเสริมสิทธิพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ 2550 กองทุนพัฒนาไฟฟ้า ฤาจะซ้ำรอยเดิม ? ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ ล้วนปลดปล่อยมลพิษออกสู่ชั้นบรรยากาศแทบทั้งสิ้น ยิ่งกระบวนการผลิตไฟฟ้าที่ต้องพึ่งพาซากฟอสซิลอย่างถ่านหินด้วยแล้ว ยิ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามลพิษจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการผลิตกระแสไฟฟ้านั้นร้ายแรงเพียงใด ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องดีที่สังคมจะมีกลไกในการเยียวยาและชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้าทั่วประเทศ ทว่ากว่าที่กลไกดังกล่าวจะออกมาในรูปของ “กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” ดังที่กำลังมีการคัดเลือกคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ อยู่ในขณะนี้นั้น ภาคประชาชนโดยเฉพาะชาวแม่เมาะที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหินมาตั้งแต่ปี 2535 ก็ต้องตั้งตาคอยและออกแรงผลักดันเรียกร้องมานานแสนนาน คุณมะลิวัลย์ นาควิโรจน์ เลขาธิการเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ กล่าวถึงที่มาของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าว่า ผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้เรียกร้องให้ภาครัฐจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว ต่อมาคณะรัฐมนตรีในยุคที่คุณปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จึงมีมติจัดตั้งเป็น“กองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า” ขึ้นทั่วประเทศเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2550 เพื่อให้ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าทั้งหมดได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ดีคุณมะลิวัลย์ เห็นว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ในพื้นที่จังหวัดลำปางที่ผ่านมา ยังไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าเท่าใดนัก โดยส่วนใหญ่มีการนำงบประมาณไปใช้ในการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์หลักของกองทุนฯ แต่อย่างใด เช่น การสร้างหลักกิโลเมตรขนาดใหญ่เพื่อประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว ในขณะที่ผู้ป่วยจำนวนมากยังต้องออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลด้วยเงินส่วนตัว เป็นต้น ทั้งนี้หากพิจารณาถึงอุปสรรคปัญหาในการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องความโปร่งใสในการบริหารจัดการกองทุนฯ การใช้เงินกองทุนไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ การขาดกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลที่ดีเพียงพอ ฯลฯ จะพบว่าสาเหตุสำคัญประการหนึ่งมาจากการดำเนินการจัดตั้งกองทุนฯ ที่มีเพียงมติคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีกฎหมายเฉพาะมารองรับ ดังนั้นทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จึงได้ดำเนินการร่างระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 97(3) แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 โดยมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน นักวิชาการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาทนายความ เอ็นจีโอ ฯลฯ ซึ่งข้อคิดเห็นที่ได้นำมาสู่การตกผลึกเป็น “ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๕๓” ซึ่งได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 โดยคุณเจตน์ อริยะสมบัติ ประธานชมรมเพื่อนสื่อสาธารณะจังหวัดลำปาง หนึ่งในคณะอนุกรรมการยกร่างระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า กล่าวว่า ระเบียบของกองทุนฉบับใหม่ พยายามวางกรอบอย่างรัดกุมเพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์มากที่สุด เช่น การกำหนดให้สัดส่วนตัวแทนภาคประชาชนมีจำนวนไม่น้อยกว่าสองในสามของคณะกรรมการทั้งหมด และต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในนิติกรรมสัญญาที่ทำกับกองทุนฯ อีกทั้งยังมีการให้อำนาจคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.) สำหรับการบริหารจัดการกองทุนประเภท ก (ขนาดใหญ่) ให้สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าตำบล (คพรต.) เพื่อช่วยให้การดำเนินของงานกองทุนเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากขึ้น รวมถึงได้ปรับเปลี่ยนขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าจ่ายเงินไปยังบัญชีที่กำกับดูแลโดย สกพ. โดยตรงทุกเดือน จากนั้นให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ทำแผนเสนอมายัง สกพ. ทาง สกพ. จึงเบิกจ่ายเงินมายังกองทุนฯ ทุกๆ 3 เดือน จากเดิมที่เคยให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าจ่ายเงินเข้ากองทุนฯ โดยตรง และให้คณะกรรมการฯ สามารถบริหารจัดการกองทุนได้โดยอิสระตามมติที่ประชุม ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาบางประการ เช่น ความโปร่งใสในการบริหารเงินกองทุนฯ และการจ่ายเงินของผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าล้าช้า เป็นต้น นอกจากนี้ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ 2553 ยังมีกลไกในการตรวจสอบการบริหารงานของกองทุนฯ ทั้งการตรวจสอบจากภายใน (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) และการตรวจสอบจากภายนอก (องค์กรอิสระต่างๆ และภาคประชาชน) แต่เนื่องจากเงินกองทุนฯ มีงบประมาณมหาศาล คุณเจตน์จึงอยากฝากให้ภาคประชาชนให้ความสำคัญกับตัวแทนที่จะเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เป็นอย่างมาก “ประชาชนต้องเลือกคนที่มีจิตสาธารณะเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เพราะระเบียบฯ นี้ นอกจากการบริหารกองทุนแล้ว ยังมีอำนาจทั้งการเข้าไปตรวจสอบการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าและสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อสั่งปิดโรงไฟฟ้าได้อีกด้วย” ทางด้านคุณกมล ปิ่นทอง ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักงานประจำเขต สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า กพช. มีมติให้คณะกรรมการกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้ายุติการอนุมัติโครงการและการเบิกจ่ายเงินของกองทุนฯ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2553 เพื่อรอการสรรหาคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าชุดใหม่ ตามระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ 2553 ซึ่งน่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการภายในปี 2554 โดยแนวทางการเบิกจ่ายเงินของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามระเบียบใหม่นั้น หลังจากการสรรหา คพรฟ. เสร็จสิ้นแล้ว คพรฟ. จะต้องจัดทำโครงการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ เสนอมายัง กกพ. และเมื่อโครงการดังกล่าวผ่านการเห็นชอบจาก กกพ. แล้ว กกพ. จึงจะทำการโอนเงินไปยัง คพรฟ. เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าต่อไป อย่างไรก็ดีแม้ว่าขณะนี้จะมีระเบียบของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่ดูจะมีความรัดกุมยิ่งขึ้น แต่การบริหารงานของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ชุดใหม่ที่กำลังจะคลอดออกมานั้น ยังต้องรอการพิสูจน์ว่าจะสามารถบริหารจัดการกองทุนฯ ให้เป็นไปเพื่อประโยชน์และความต้องการของประชาชนในพื้นรอบโรงไฟฟ้ามากน้อยเพียงใด และผู้ป่วยชาวแม่เมาะที่ยังคงรอคอยการเยียวยาอย่างเป็นธรรมจากโรงไฟฟ้ามานานเกือบสองทศวรรษ จะได้รับการเยียวยาหรือไม่ ฤาจะซ้ำรอยของอีกหลายชีวิตที่ต้องลาจากโลกใบนี้ไป โดยที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าแม้แต่บาทเดียว กว่าจะเป็นกองทุนพัฒนาไฟฟ้า 2544 - กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ได้เรียกร้องให้ภาครัฐจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า 2546 - เครื่อข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองให้ กฟผ.จ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ได้รับ ผลกระทบทางสุขภาพ ในขณะเดียวกันก็ได้เรียกร้องให้ภาครัฐจริงใจในการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า 2548 - กระทรวงพลังงานเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า 2550 - ครม.เห็นชอบแนวทางการจัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ตามมติที่ประชุมของ กพช. 2551 - มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า จำนวน 72 กองทุนฯ 2552 - เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะเข้าร้องเรียนต่อ กกพ. ว่าการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ก.พ. 2553 - คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ หมดวาระการดำรงตำแหน่งและ กพช.มีมติให้คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว รักษาการไปจนกว่าจะมีคณะกรรมการฯ ชุดใหม่ 15 ธ.ค. 2553 - กพช. มีมติให้คณะกรรมการฯ ยุติการอนุมัติโครงการและการเบิกจ่ายเงินของกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจนกว่าจะมีคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ตามระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553 20 ธ.ค. 2553 - ระเบียบว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อกำกับการบริหารจัดการด้านการเงินของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา 8 ก.พ. 2554 - ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท รวมทั้งสิ้น 145 กองทุน ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ ล้วนปลดปล่อยมลพิษออกสู่ชั้นบรรยากาศแทบทั้งสิ้น ยิ่งกระบวนการผลิตไฟฟ้าที่ต้องพึ่งพาซากฟอสซิลอย่างถ่านหินด้วยแล้ว ยิ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามลพิษจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการผลิตกระแสไฟฟ้านั้นร้ายแรงเพียงใด ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องดีที่สังคมจะมีกลไกในการเยียวยาและชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้าทั่วประเทศ ทว่ากว่าที่กลไกดังกล่าวจะออกมาในรูปของ “กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” ดังที่กำลังมีการคัดเลือกคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ อยู่ในขณะนี้นั้น ภาคประชาชนโดยเฉพาะชาวแม่เมาะที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหินมาตั้งแต่ปี 2535 ก็ต้องตั้งตาคอยและออกแรงผลักดันเรียกร้องมานานแสนนาน คุณมะลิวัลย์ นาควิโรจน์ เลขาธิการเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ กล่าวถึงที่มาของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าว่า ผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้เรียกร้องให้ภาครัฐจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว ต่อมาคณะรัฐมนตรีในยุคที่คุณปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จึงมีมติจัดตั้งเป็น“กองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า” ขึ้นทั่วประเทศเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2550 เพื่อให้ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าทั้งหมดได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ดีคุณมะลิวัลย์ เห็นว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ในพื้นที่จังหวัดลำปางที่ผ่านมา ยังไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าเท่าใดนัก โดยส่วนใหญ่มีการนำงบประมาณไปใช้ในการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์หลักของกองทุนฯ แต่อย่างใด เช่น การสร้างหลักกิโลเมตรขนาดใหญ่เพื่อประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว ในขณะที่ผู้ป่วยจำนวนมากยังต้องออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลด้วยเงินส่วนตัว เป็นต้น ทั้งนี้หากพิจารณาถึงอุปสรรคปัญหาในการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องความโปร่งใสในการบริหารจัดการกองทุนฯ การใช้เงินกองทุนไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ การขาดกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลที่ดีเพียงพอ ฯลฯ จะพบว่าสาเหตุสำคัญประการหนึ่งมาจากการดำเนินการจัดตั้งกองทุนฯ ที่มีเพียงมติคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีกฎหมายเฉพาะมารองรับ ดังนั้นทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จึงได้ดำเนินการร่างระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 97(3) แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 โดยมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน นักวิชาการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาทนายความ เอ็นจีโอ ฯลฯ ซึ่งข้อคิดเห็นที่ได้นำมาสู่การตกผลึกเป็น “ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๕๓” ซึ่งได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 โดยคุณเจตน์ อริยะสมบัติ ประธานชมรมเพื่อนสื่อสาธารณะจังหวัดลำปาง หนึ่งในคณะอนุกรรมการยกร่างระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า กล่าวว่า ระเบียบของกองทุนฉบับใหม่ พยายามวางกรอบอย่างรัดกุมเพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์มากที่สุด เช่น การกำหนดให้สัดส่วนตัวแทนภาคประชาชนมีจำนวนไม่น้อยกว่าสองในสามของคณะกรรมการทั้งหมด และต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในนิติกรรมสัญญาที่ทำกับกองทุนฯ อีกทั้งยังมีการให้อำนาจคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.) สำหรับการบริหารจัดการกองทุนประเภท ก (ขนาดใหญ่) ให้สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าตำบล (คพรต.) เพื่อช่วยให้การดำเนินของงานกองทุนเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากขึ้น รวมถึงได้ปรับเปลี่ยนขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าจ่ายเงินไปยังบัญชีที่กำกับดูแลโดย สกพ. โดยตรงทุกเดือน จากนั้นให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ทำแผนเสนอมายัง สกพ. ทาง สกพ. จึงเบิกจ่ายเงินมายังกองทุนฯ ทุกๆ 3 เดือน จากเดิมที่เคยให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าจ่ายเงินเข้ากองทุนฯ โดยตรง และให้คณะกรรมการฯ สามารถบริหารจัดการกองทุนได้โดยอิสระตามมติที่ประชุม ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาบางประการ เช่น ความโปร่งใสในการบริหารเงินกองทุนฯ และการจ่ายเงินของผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าล้าช้า เป็นต้น นอกจากนี้ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ 2553 ยังมีกลไกในการตรวจสอบการบริหารงานของกองทุนฯ ทั้งการตรวจสอบจากภายใน (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) และการตรวจสอบจากภายนอก (องค์กรอิสระต่างๆ และภาคประชาชน) แต่เนื่องจากเงินกองทุนฯ มีงบประมาณมหาศาล คุณเจตน์จึงอยากฝากให้ภาคประชาชนให้ความสำคัญกับตัวแทนที่จะเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เป็นอย่างมาก “ประชาชนต้องเลือกคนที่มีจิตสาธารณะเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เพราะระเบียบฯ นี้ นอกจากการบริหารกองทุนแล้ว ยังมีอำนาจทั้งการเข้าไปตรวจสอบการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าและสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อสั่งปิดโรงไฟฟ้าได้อีกด้วย” ทางด้านคุณกมล ปิ่นทอง ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักงานประจำเขต สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า กพช. มีมติให้คณะกรรมการกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้ายุติการอนุมัติโครงการและการเบิกจ่ายเงินของกองทุนฯ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2553 เพื่อรอการสรรหาคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าชุดใหม่ ตามระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ 2553 ซึ่งน่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการภายในปี 2554 โดยแนวทางการเบิกจ่ายเงินของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามระเบียบใหม่นั้น หลังจากการสรรหา คพรฟ. เสร็จสิ้นแล้ว คพรฟ. จะต้องจัดทำโครงการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ เสนอมายัง กกพ. และเมื่อโครงการดังกล่าวผ่านการเห็นชอบจาก กกพ. แล้ว กกพ. จึงจะทำการโอนเงินไปยัง คพรฟ. เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าต่อไป อย่างไรก็ดีแม้ว่าขณะนี้จะมีระเบียบของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่ดูจะมีความรัดกุมยิ่งขึ้น แต่การบริหารงานของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ชุดใหม่ที่กำลังจะคลอดออกมานั้น ยังต้องรอการพิสูจน์ว่าจะสามารถบริหารจัดการกองทุนฯ ให้เป็นไปเพื่อประโยชน์และความต้องการของประชาชนในพื้นรอบโรงไฟฟ้ามากน้อยเพียงใด และผู้ป่วยชาวแม่เมาะที่ยังคงรอคอยการเยียวยาอย่างเป็นธรรมจากโรงไฟฟ้ามานานเกือบสองทศวรรษ จะได้รับการเยียวยาหรือไม่ ฤาจะซ้ำรอยของอีกหลายชีวิตที่ต้องลาจากโลกใบนี้ไป โดยที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าแม้แต่บาทเดียว กว่าจะเป็นกองทุนพัฒนาไฟฟ้า 2544 - กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ได้เรียกร้องให้ภาครัฐจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า 2546 - เครื่อข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองให้ กฟผ.จ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ได้รับ ผลกระทบทางสุขภาพ ในขณะเดียวกันก็ได้เรียกร้องให้ภาครัฐจริงใจในการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า 2548 - กระทรวงพลังงานเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า 2550 - ครม.เห็นชอบแนวทางการจัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ตามมติที่ประชุมของ กพช. 2551 - มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า จำนวน 72 กองทุนฯ 2552 - เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะเข้าร้องเรียนต่อ กกพ. ว่าการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ก.พ. 2553 - คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ หมดวาระการดำรงตำแหน่งและ กพช.มีมติให้คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว รักษาการไปจนกว่าจะมีคณะกรรมการฯ ชุดใหม่ 15 ธ.ค. 2553 - กพช. มีมติให้คณะกรรมการฯ ยุติการอนุมัติโครงการและการเบิกจ่ายเงินของกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจนกว่าจะมีคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ตามระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553 20 ธ.ค. 2553 - ระเบียบว่าด้วยกองทุjoker123 joker888นพัฒนาไฟฟ้าเพื่อกำกับการบริหารจัดการด้านการเงินของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา 8 ก.พ. 2554 - ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท รวมทั้งสิ้น 145 กองทุน
วันนี้ (20 ต.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ผานกแอ่น อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.
วันนี้ (27 ต.ค.2564) พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศา
กองทุนพัฒนาไฟฟ้า ฤาจะซ้ำรอยเดิม ? โดย จรุงพัฒน์ ใจวงศ์ผาบ โครงการปฏิบัติงานสื่อสารออนไลน์เพื่อส่งเสร
กองทุนพัฒนาไฟฟ้า ฤาจะซ้ำรอยเดิม ? โดย จรุงพัฒน์ ใจวงศ์ผาบ โครงการปฏิบัติงานสื่อสารออนไลน์เพื่อส่งเสริมสิทธิพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ 2550 กองทุนพัฒนาไฟฟ้า ฤาจะซ้ำรอยเดิม ? ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ ล้วนปลดปล่อยมลพิษออกสู่ชั้นบรรยากาศแทบทั้งสิ้น ยิ่งกระบวนการผลิตไฟฟ้าที่ต้องพึ่งพาซากฟอสซิลอย่างถ่านหินด้วยแล้ว ยิ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามลพิษจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการผลิตกระแสไฟฟ้านั้นร้ายแรงเพียงใด ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องดีที่สังคมจะมีกลไกในการเยียวยาและชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้าทั่วประเทศ ทว่ากว่าที่กลไกดังกล่าวจะออกมาในรูปของ “กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” ดังที่กำลังมีการคัดเลือกคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ อยู่ในขณะนี้นั้น ภาคประชาชนโดยเฉพาะชาวแม่เมาะที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหินมาตั้งแต่ปี 2535 ก็ต้องตั้งตาคอยและออกแรงผลักดันเรียกร้องมานานแสนนาน คุณมะลิวัลย์ นาควิโรจน์ เลขาธิการเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ กล่าวถึงที่มาของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าว่า ผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้เรียกร้องให้ภาครัฐจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว ต่อมาคณะรัฐมนตรีในยุคที่คุณปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จึงมีมติจัดตั้งเป็น“กองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า” ขึ้นทั่วประเทศเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2550 เพื่อให้ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าทั้งหมดได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ดีคุณมะลิวัลย์ เห็นว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ในพื้นที่จังหวัดลำปางที่ผ่านมา ยังไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าเท่าใดนัก โดยส่วนใหญ่มีการนำงบประมาณไปใช้ในการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์หลักของกองทุนฯ แต่อย่างใด เช่น การสร้างหลักกิโลเมตรขนาดใหญ่เพื่อประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว ในขณะที่ผู้ป่วยจำนวนมากยังต้องออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลด้วยเงินส่วนตัว เป็นต้น ทั้งนี้หากพิจารณาถึงอุปสรรคปัญหาในการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องความโปร่งใสในการบริหารจัดการกองทุนฯ การใช้เงินกองทุนไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ การขาดกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลที่ดีเพียงพอ ฯลฯ จะพบว่าสาเหตุสำคัญประการหนึ่งมาจากการดำเนินการจัดตั้งกองทุนฯ ที่มีเพียงมติคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีกฎหมายเฉพาะมารองรับ ดังนั้นทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จึงได้ดำเนินการร่างระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 97(3) แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 โดยมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน นักวิชาการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาทนายความ เอ็นจีโอ ฯลฯ ซึ่งข้อคิดเห็นที่ได้นำมาสู่การตกผลึกเป็น “ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๕๓” ซึ่งได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 โดยคุณเจตน์ อริยะสมบัติ ประธานชมรมเพื่อนสื่อสาธารณะจังหวัดลำปาง หนึ่งในคณะอนุกรรมการยกร่างระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า กล่าวว่า ระเบียบของกองทุนฉบับใหม่ พยายามวางกรอบอย่างรัดกุมเพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์มากที่สุด เช่น การกำหนดให้สัดส่วนตัวแทนภาคประชาชนมีจำนวนไม่น้อยกว่าสองในสามของคณะกรรมการทั้งหมด และต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในนิติกรรมสัญญาที่ทำกับกองทุนฯ อีกทั้งยังมีการให้อำนาจคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.) สำหรับการบริหารจัดการกองทุนประเภท ก (ขนาดใหญ่) ให้สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าตำบล (คพรต.) เพื่อช่วยให้การดำเนินของงานกองทุนเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากขึ้น รวมถึงได้ปรับเปลี่ยนขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าจ่ายเงินไปยังบัญชีที่กำกับดูแลโดย สกพ. โดยตรงทุกเดือน จากนั้นให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ทำแผนเสนอมายัง สกพ. ทาง สกพ. จึงเบิกจ่ายเงินมายังกองทุนฯ ทุกๆ 3 เดือน จากเดิมที่เคยให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าจ่ายเงินเข้ากองทุนฯ โดยตรง และให้คณะกรรมการฯ สามารถบริหารจัดการกองทุนได้โดยอิสระตามมติที่ประชุม ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาบางประการ เช่น ความโปร่งใสในการบริหารเงินกองทุนฯ และการจ่ายเงินของผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าล้าช้า เป็นต้น นอกจากนี้ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ 2553 ยังมีกลไกในการตรวจสอบการบริหารงานของกองทุนฯ ทั้งการตรวจสอบจากภายใน (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) และการตรวจสอบจากภายนอก (องค์กรอิสระต่างๆ และภาคประชาชน) แต่เนื่องจากเงินกองทุนฯ มีงบประมาณมหาศาล คุณเจตน์จึงอยากฝากให้ภาคประชาชนให้ความสำคัญกับตัวแทนที่จะเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เป็นอย่างมาก “ประชาชนต้องเลือกคนที่มีจิตสาธารณะเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เพราะระเบียบฯ นี้ นอกจากการบริหารกองทุนแล้ว ยังมีอำนาจทั้งการเข้าไปตรวจสอบการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าและสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อสั่งปิดโรงไฟฟ้าได้อีกด้วย” ทางด้านคุณกมล ปิ่นทอง ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักงานประจำเขต สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า กพช. มีมติให้คณะกรรมการกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้ายุติการอนุมัติโครงการและการเบิกจ่ายเงินของกองทุนฯ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2553 เพื่อรอการสรรหาคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าชุดใหม่ ตามระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ 2553 ซึ่งน่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการภายในปี 2554 โดยแนวทางการเบิกจ่ายเงินของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามระเบียบใหม่นั้น หลังจากการสรรหา คพรฟ. เสร็จสิ้นแล้ว คพรฟ. จะต้องจัดทำโครงการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ เสนอมายัง กกพ. และเมื่อโครงการดังกล่าวผ่านการเห็นชอบจาก กกพ. แล้ว กกพ. จึงจะทำการโอนเงินไปยัง คพรฟ. เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าต่อไป อย่างไรก็ดีแม้ว่าขณะนี้จะมีระเบียบของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่ดูจะมีความรัดกุมยิ่งขึ้น แต่การบริหารงานของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ชุดใหม่ที่กำลังจะคลอดออกมานั้น ยังต้องรอการพิสูจน์ว่าจะสามารถบริหารจัดการกองทุนฯ ให้เป็นไปเพื่อประโยชน์และความต้องการของประชาชนในพื้นรอบโรงไฟฟ้ามากน้อยเพียงใด และผู้ป่วยชาวแม่เมาะที่ยังคงรอคอยการเยียวยาอย่างเป็นธรรมจากโรงไฟฟ้ามานานเกือบสองทศวรรษ จะได้รับการเยียวยาหรือไม่ ฤาจะซ้ำรอยของอีกหลายชีวิตที่ต้องลาจากโลกใบนี้ไป โดยที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าแม้แต่บาทเดียว กว่าจะเป็นกองทุนพัฒนาไฟฟ้า 2544 - กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ได้เรียกร้องให้ภาครัฐจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า 2546 - เครื่อข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองให้ กฟผ.จ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ได้รับ ผลกระทบทางสุขภาพ ในขณะเดียวกันก็ได้เรียกร้องให้ภาครัฐจริงใจในการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า 2548 - กระทรวงพลังงานเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า 2550 - ครม.เห็นชอบแนวทางการจัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ตามมติที่ประชุมของ กพช. 2551 - มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า จำนวน 72 กองทุนฯ 2552 - เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะเข้าร้องเรียนต่อ กกพ. ว่าการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ก.พ. 2553 - คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ หมดวาระการดำรงตำแหน่งและ กพช.มีมติให้คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว รักษาการไปจนกว่าจะมีคณะกรรมการฯ ชุดใหม่ 15 ธ.ค. 2553 - กพช. มีมติให้คณะกรรมการฯ ยุติการอนุมัติโครงการและการเบิกจ่ายเงินของกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจนกว่าจะมีคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ตามระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553 20 ธ.ค. 2553 - ระเบียบว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อกำกับการบริหารจัดการด้านการเงินของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา 8 ก.พ. 2554 - ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท รวมทั้งสิ้น 145 กองทุน ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ ล้วนปลดปล่อยมลพิษออกสู่ชั้นบรรยากาศแทบทั้งสิ้น ยิ่งกระบวนการผลิตไฟฟ้าที่ต้องพึ่งพาซากฟอสซิลอย่างถ่านหินด้วยแล้ว ยิ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามลพิษจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการผลิตกระแสไฟฟ้านั้นร้ายแรงเพียงใด ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องดีที่สังคมจะมีกลไกในการเยียวยาและชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้าทั่วประเทศ ทว่ากว่าที่กลไกดังกล่าวจะออกมาในรูปของ “กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” ดังที่กำลังมีการคัดเลือกคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ อยู่ในขณะนี้นั้น ภาคประชาชนโดยเฉพาะชาวแม่เมาะที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหินมาตั้งแต่ปี 2535 ก็ต้องตั้งตาคอยและออกแรงผลักดันเรียกร้องมานานแสนนาน คุณมะลิวัลย์ นาควิโรจน์ เลขาธิการเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ กล่าวถึงที่มาของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าว่า ผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้เรียกร้องให้ภาครัฐจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว ต่อมาคณะรัฐมนตรีในยุคที่คุณปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จึงมีมติจัดตั้งเป็น“กองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า” ขึ้นทั่วประเทศเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2550 เพื่อให้ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าทั้งหมดได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ดีคุณมะลิวัลย์ เห็นว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ในพื้นที่จังหวัดลำปางที่ผ่านมา ยังไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าเท่าใดนัก โดยส่วนใหญ่มีการนำงบประมาณไปใช้ในการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์หลักของกองทุนฯ แต่อย่างใด เช่น การสร้างหลักกิโลเมตรขนาดใหญ่เพื่อประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว ในขณะที่ผู้ป่วยจำนวนมากยังต้องออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลด้วยเงินส่วนตัว เป็นต้น ทั้งนี้หากพิจารณาถึงอุปสรรคปัญหาในการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องความโปร่งใสในการบริหารจัดการกองทุนฯ การใช้เงินกองทุนไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ การขาดกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลที่ดีเพียงพอ ฯลฯ จะพบว่าสาเหตุสำคัญประการหนึ่งมาจากการดำเนินการจัดตั้งกองทุนฯ ที่มีเพียงมติคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีกฎหมายเฉพาะมารองรับ ดังนั้นทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จึงได้ดำเนินการร่างระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 97(3) แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 โดยมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน นักวิชาการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาทนายความ เอ็นจีโอ ฯลฯ ซึ่งข้อคิดเห็นที่ได้นำมาสู่การตกผลึกเป็น “ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๕๓” ซึ่งได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 โดยคุณเจตน์ อริยะสมบัติ ประธานชมรมเพื่อนสื่อสาธารณะจังหวัดลำปาง หนึ่งในคณะอนุกรรมการยกร่างระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า กล่าวว่า ระเบียบของกองทุนฉบับใหม่ พยายามวางกรอบอย่างรัดกุมเพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์มากที่สุด เช่น การกำหนดให้สัดส่วนตัวแทนภาคประชาชนมีจำนวนไม่น้อยกว่าสองในสามของคณะกรรมการทั้งหมด และต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในนิติกรรมสัญญาที่ทำกับกองทุนฯ อีกทั้งยังมีการให้อำนาจคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.) สำหรับการบริหารจัดการกองทุนประเภท ก (ขนาดใหญ่) ให้สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าตำบล (คพรต.) เพื่อช่วยให้การดำเนินของงานกองทุนเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากขึ้น รวมถึงได้ปรับเปลี่ยนขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าจ่ายเงินไปยังบัญชีที่กำกับดูแลโดย สกพ. โดยตรงทุกเดือน จากนั้นให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ทำแผนเสนอมายัง สกพ. ทาง สกพ. จึงเบิกจ่ายเงินมายังกองทุนฯ ทุกๆ 3 เดือน จากเดิมที่เคยให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าจ่ายเงินเข้ากองทุนฯ โดยตรง และให้คณะกรรมการฯ สามารถบริหารจัดการกองทุนได้โดยอิสระตามมติที่ประชุม ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาบางประการ เช่น ความโปร่งใสในการบริหารเงินกองทุนฯ และการจ่ายเงินของผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าล้าช้า เป็นต้น นอกจากนี้ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ 2553 ยังมีกลไกในการตรวจสอบการบริหารงานของกองทุนฯ ทั้งการตรวจสอบจากภายใน (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) และการตรวจสอบจากภายนอก (องค์กรอิสระต่างๆ และภาคประชาชน) แต่เนื่องจากเงินกองทุนฯ มีงบประมาณมหาศาล คุณเจตน์จึงอยากฝากให้ภาคประชาชนให้ความสำคัญกับตัวแทนที่จะเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เป็นอย่างมาก “ประชาชนต้องเลือกคนที่มีจิตสาธารณะเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เพราะระเบียบฯ นี้ นอกจากการบริหารกองทุนแล้ว ยังมีอำนาจทั้งการเข้าไปตรวจสอบการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าและสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อสั่งปิดโรงไฟฟ้าได้อีกด้วย” ทางด้านคุณกมล ปิ่นทอง ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักงานประจำเขต สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า กพช. มีมติให้คณะกรรมการกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้ายุติการอนุมัติโครงการและการเบิกจ่ายเงินของกองทุนฯ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2553 เพื่อรอการสรรหาคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าชุดใหม่ ตามระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ 2553 ซึ่งน่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการภายในปี 2554 โดยแนวทางการเบิกจ่ายเงินของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามระเบียบใหม่นั้น หลังจากการสรรหา คพรฟ. เสร็จสิ้นแล้ว คพรฟ. จะต้องจัดทำโครงการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ เสนอมายัง กกพ. และเมื่อโครงการดังกล่าวผ่านการเห็นชอบจาก กกพ. แล้ว กกพ. จึงจะทำการโอนเงินไปยัง คพรฟ. เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าต่อไป อย่างไรก็ดีแม้ว่าขณะนี้จะมีระเบียบของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่ดูจะมีความรัดกุมยิ่งขึ้น แต่การบริหารงานของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ชุดใหม่ที่กำลังจะคลอดออกมานั้น ยังต้องรอการพิสูจน์ว่าจะสามารถบริหารจัดการกองทุนฯ ให้เป็นไปเพื่อประโยชน์และความต้องการของประชาชนในพื้นรอบโรงไฟฟ้ามากน้อยเพียงใด และผู้ป่วยชาวแม่เมาะที่ยังคงรอคอยการเยียวยาอย่างเป็นธรรมจากโรงไฟฟ้ามานานเกือบสองทศวรรษ จะได้รับการเยียวยาหรือไม่ ฤาจะซ้ำรอยของอีกหลายชีวิตที่ต้องลาจากโลกใบนี้ไป โดยที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าแม้แต่บาทเดียว กว่าจะเป็นกองทุนพัฒนาไฟฟ้า 2544 - กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ได้เรียกร้องให้ภาครัฐจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า 2546 - เครื่อข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองให้ กฟผ.จ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ได้รับ ผลกระทบทางสุขภาพ ในขณะเดียวกันก็ได้เรียกร้องให้ภาครัฐจริงใจในการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า 2548 - กระทรวงพลังงานเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า 2550 - ครม.เห็นชอบแนวทางการจัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ตามมติที่ประชุมของ กพช. 2551 - มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า จำนวน 72 กองทุนฯ 2552 - เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะเข้าร้องเรียนต่อ กกพ. ว่าการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ก.พ. 2553 - คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ หมดวาระการดำรงตำแหน่งและ กพช.มีมติให้คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว รักษาการไปจนกว่าจะมีคณะกรรมการฯ ชุดใหม่ 15 ธ.ค. 2553 - กพช. มีมติให้คณะกรรมการฯ ยุติการอนุมัติโครงการและการเบิกจ่ายเงินของกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจนกว่าจะมีคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ตามระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553 20 ธ.ค. 2553 - ระเบียบว่าด้วยกองทุjoker123 joker888นพัฒนาไฟฟ้าเพื่อกำกับการบริหารจัดการด้านการเงินของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา 8 ก.พ. 2554 - ระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท รวมทั้งสิ้น 145 กองทุน
วันนี้ (20 ต.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ผานกแอ่น อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.
สิ่งอำนวยความสะดวก
การตกแต่ง
เครื่องปรับอากาศ
ชั้นบน
เตาอบ/ไมโครเวฟ
ความสะดวกโดยรอบ
กล้องวงจรปิด
เครืองปรับอากาศ
โถงรอลิฟท์ร้านอาหาร
ทางเข้าหลัก
ยอดสินเชื่อโดยประมาณ
รายละเอียดสินเชื่อ
ยอดสินเชื่อที่ต้องชำระต่อเดือนโดยประมาณ
฿ 0 / เดือน
฿ 0 เงินต้น
฿ 0 ดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายที่อาจต้องมีเบื้องต้น
เงินดาวน์ทั้งหมด
฿ 0
เงินดาวน์
จำนวนสินเชื่อ ฿ 0 ในอัตรา 0% ของสินเชื่อต่อราคาบ้าน (Loan-to-value)
Program Wajib Belajar Empat Puluh Jam (Wajar Patuh

Ketua Komisi Pemilihan Umum (KPU) RI Hasyim Asyari mengatakan bahwa hingga hari terakhir persidangan perkara Perselisihan Hasil Pemilihan Umum (PHPU) Pilpres, pihaknya tidak menemukan adanya kesalahan
ดูรายละเอียดโครงการคำถามที่พบบ่อย
Presiden Joko Widodo menyiapkan program-program unggulan pasangan Presiden-Wakil Presiden Terpilih P
Tim Hukum DPP PDI Perjuangan (PDIP) sudah memperoleh informasi Sekretaris Jenderal (Sekjen) Hasto Kr
Perhelatankonser Bruno Marsdi Jakarta International Stadium (JIS) selama tiga hari telah selesai dil
Erik ten Hag menyesali pengambilan keputusan yang dilakukan para pemain Manchester United setelah ke
Menteri Pemuda dan Olahraga Dito Ariotedjo meminta dukungan Pemerintah Jepang agar turun mendorong k
ค้นหาประกาศอื่นรอบๆ ทุ่งพญาไท
จากสิ่งที่คุณค้นหา คุณอาจจะสนใจตัวเลือกต่อไปนี้
1️เว็บ บา คา ร่า mm88