UID: 93361

หลังปรากฏภาพเด็กชายรวมกลุ่มใช้บ้องสูบกัญชาริมหาดพัทยา จนเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลมีเดีย เจ้าหน้าที่ พ

วันแรก (23 ม.ค.2568) การจดทะเบียนสมรส ฉลองกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ ทุกอำเภอและใน กทม.จัดกิจก

หลังปรากฏภาพเด็กชายรวมกลุ่มใช้บ้องสูบกัญชาริมหาดพัทยา จนเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลมีเดีย เจ้าหน้าที่ พม. พร้อมด้วย ตำรวจเมืองพัทยา สาธารณสุข และฝ่ายปกครองอใคร เคยเล่นเสือมังกร บ้างำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้ตามหาตัวของกลุ่มเด็กชายดังกล่าว และพบตัวขณะนอนหลับอยู่ริมหาดทราย ห่างจากจุดที่นั่งสูบกัญชาประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ได้เข้าพูดคุยกับเด็กชายวัย 10 ขวบ พบว่ามีประวัติเพิ่งหนีออกมาจากศูนย์บ้านพักเด็กและครอบครัวบางละมุง จากนั้นได้นำตัวไปที่โรงพักเมืองพัทยา โดยใช้เวลาพูดคุยนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยพยายามพูดคุยกับเด็กถึงสาเหตุการสูบกัญชา และปัญหาครอบครัว ก่อนจะนำเด็กตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบางละมุง น.ส.รัตนาพร คนรำ นักสังคมสงเคราะห์บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ได้เข้าพูดคุยกับเด็ก พบว่าเด็กชายคนดังกล่าวเคยอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี แต่ด้วยปัญหานิสัยและพฤติกรรมของเด็ก จึงหลบหนีออกมา เมื่อพบตัวจึงเตรียมรับตัวไปคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กอีกครั้ง ขณะที่ย่าของเด็กชายคนดังกล่าว เปิดเผยว่าในอดีตหลานชายเป็นเด็กเรียบร้อย พูดจาไพเราะ แต่ด้วยสภาพพ่อกับแม่แยกทางกันและไม่มีคนดูแล จึงเริ่มมีพฤติกรรมลักขโมยจนถูกตำรวจจับ ก่อนจะติดเพื่อนและหนีออกจากบ้าน ทำให้ตนต้องตัดสินใจส่งเด็กให้บ้านพักเด็กและครอบครัวดูแลและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่สุดท้ายก็หนีกลับมาบ้าน และไม่นานมานี้เกิดมีปากเสียง ถึงขั้นทำร้ายลงมือตนให้ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายก่อนจะหลบหนีไป จากนั้นก็ไม่ทราบข่าวหลานอีกเลย จนมาปรากฏในข่าว ซึ่งก็ตกใจกับสิ่งที่เห็น นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาคนเร่ร่อนว่า ที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอด แต่ด้วยปัญหาสิทธิมนุษยชนและข้อกฎหมายบางข้อ จึงยังไม่สามารถจัดการขั้นตอนเด็ดขาดได้ แม้จะพยายามร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งตัวไปอบรมวิชาชีพ แต่เข้าไปไม่นาน ก็หนีกลับออกมาอีก จึงทำให้เมืองพัทยาจะต้องกลับมาทบทวนแนวทางแก้ปัญหาใหม่ พร้อมทั้งเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงปลายเดือนนี้ ช่วงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบและป้องปราม พร้อมให้คำแนะนำผู้ประกอบการค้ากัญชาในโครงการ Walking Street รวมทั้งตรวจสอบใบอนุญาตจำหน่ายจากผู้ประกอบการค้ากัญชา เนื่องจากกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม โดยย้ำโทษของกฎหมายในเรื่องของการฝ่าฝืนลักลอบจำหน่ายสมุนไพรควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามมิให้มีการสูบกัญชาภายในสถานประกอบการ หากพบจะมีขั้นตอนการตักเตือน พักใบ อนุญาต และพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ตามลำดับความรุนแรงของการกระทำผิด

จากประเด็นร้านอาหารแห่งหนึ่ง ประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่า แบรนด์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "ปังชา"