วันนี้ (29 ส.ค. 64) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำส

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หากต้องการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวในต่างประเทศ ยิ่งเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายสูง ความปลอดภัยในการใช้ชีวิตต่ำ เช่น การก่อการร้าย สงคราม การจี้ปล้น หรือแม้กระทั่ง การลั
วันนี้ (29 พ.ค.2568) เจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารแห่งหนึ่ง ในซอยเพชรบุรี 13 เขตราชเทวี เพื่อขยายผลตรวจค้นหาพยานหลักฐานประกอบคดี ที่ได้จับผู้ต้องหาชายชาวไนจีเรีย โ
นักข่าวเรียกร้องนายกฯให้ นปช.ยุติคุกคามสื่อ สื่อมวลชนประจำรัฐสภาเข้าชื่อกันร่วมเพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้มีการยุติการคุกคามสื่อมวลชน ภายหลังที่มีสื่อโทรทัศน์บางสถานีได้รับอีเมล์ข่มขู่จากกลุ่ม นปช. นักข่าวเรียกร้องนายกฯให้ นปช.ยุติคุกคามสื่อ การแถลงนโยบายของรัฐบาลด้านฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบในการดำเนินการควบคุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. ที่เป็นกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล ที่กำลังเป็นอุปสรรคต่อนโยบายสร้างความปรองดอง หลังจากกลุ่ม นปช.มีททาง เข้า gtr55่าทีข่มขู่คุกคามจะทำร้าย 2 นักศึกษาจากกลุ่มนักศึกษาผู้รักประชาธิปไตย ที่นำพวงหรีดมาวางที่หน้ารัฐสภา เพราะไม่พอใจต่อการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภา ว่าได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและดำเนินการต่อไป ขณะที่เหตุการณ์การคุกคามไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับนักศึกษาทั้งรายเท่านั้น แต่ล่าสุดสื่อมวลชนประจำรัฐสภาเข้าชื่อกันร่วม เพื่อยื่นต่อนายกรัฐมนตรีขอให้ดำเนินการกับกลุ่มคนที่ส่งอีเมลข่มขู่คุกคามผู้สื่อข่าว สถานีโทรทัศน์สีกองทัพช่อง 7 ด้วยโพสต์ภาพถ่าย และระบุข้อมูลส่วนตัว ชื่อ- นามสกุล ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่าเป็นผู้ซักถามนายกรัฐมนตรีจนต้องเดินหนี โดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี หรือกลุ่มสร้างสถานการณ์เพราะถือเป็นการคุกคามสื่อชัดเจน และจะประสานกระทรวงไอซีทีเพื่อตรวจสอบที่มาของอีเมลล์ ด้านนายกรัฐมนตรีหลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้วกล่าวว่าตนเองจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ และตนเองก็มีหน้าที่ที่จะชี้แจงเมื่อสื่อมวลชนสอบถาม ขณะที่การอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่มีต่อเนื่องในวันที่ 3 นั้นล่าสุดใช้เวลาอภิปราย ประมาณ 4 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวปิดการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา มีสาระสำคัญที่ย้ำถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่เน้นความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดีต่อสถาบัน รวมถึงจะดำเนินทุกนโยบายให้กับประชาชน เพียงแต่ไม่ต้องการให้ตีความจากลายลักษณ์อักษร และเข้าใจว่าการหาเสียงและการกำหนดลงเป็นนโยบายมีความแตกต่างกัน และย้ำจะไม่ละเลยข้อห่วงใยของสมาชิกรัฐสภา และรับจะไปดำเนินการ มีรายงานว่าหลังการประชุมรัฐสภา คณะรัฐมนตรี นัดประชุม ครม. ที่อาคารรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระเร่งด่วน คือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และวาระการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี ทั้ง 5 คน รวมทั้งวาระการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการ และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตร รวมถึงตำแหน่งโฆษกและรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี การแถลงนโยบายของรัฐบาลด้านฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบในการดำเนินการควบคุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. ที่เป็นกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล ที่กำลังเป็นอุปสรรคต่อนโยบายสร้างความปรองดอง หลังจากกลุ่ม นปช.มีท่าทีข่มขู่คุกคามจะทำร้าย 2 นักศึกษาจากกลุ่มนักศึกษาผู้รักประชาธิปไตย ที่นำพวงหรีดมาวางที่หน้ารัฐสภา เพราะไม่พอใจต่อการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภา ว่าได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและดำเนินการต่อไป ขณะที่เหตุการณ์การคุกคามไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับนักศึกษาทั้งรายเท่านั้น แต่ล่าสุดสื่อมวลชนประจำรัฐสภาเข้าชื่อกันร่วม เพื่อยื่นต่อนายกรัฐมนตรีขอให้ดำเนินการกับกลุ่มคนที่ส่งอีเมลข่มขู่คุกคามผู้สื่อข่าว สถานีโทรทัศน์สีกองทัพช่อง 7 ด้วยโพสต์ภาพถ่าย และระบุข้อมูลส่วนตัว ชื่อ- นามสกุล ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่าเป็นผู้ซักถามนายกรัฐมนตรีจนต้องเดินหนี โดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี หรือกลุ่มสร้างสถานการณ์เพราะถือเป็นการคุกคามสื่อชัดเจน และจะประสานกระทรวงไอซีทีเพื่อตรวจสอบที่มาของอีเมลล์ ด้านนายกรัฐมนตรีหลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้วกล่าวว่าตนเองจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ และตนเองก็มีหน้าที่ที่จะชี้แจงเมื่อสื่อมวลชนสอบถาม ขณะที่การอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่มีต่อเนื่องในวันที่ 3 นั้นล่าสุดใช้เวลาอภิปราย ประมาณ 4 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวปิดการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา มีสาระสำคัญที่ย้ำถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่เน้นความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดีต่อสถาบัน รวมถึงจะดำเนินทุกนโยบายให้กับประชาชน เพียงแต่ไม่ต้องการให้ตีความจากลายลักษณ์อักษร และเข้าใจว่าการหาเสียงและการกำหนดลงเป็นนโยบายมีความแตกต่างกัน และย้ำจะไม่ละเลยข้อห่วงใยของสมาชิกรัฐสภา และรับจะไปดำเนินการ มีรายงานว่าหลังการประชุมรัฐสภา คณะรัฐมนตรี นัดประชุม ครม. ที่อาคารรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระเร่งด่วน คือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และวาระการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี ทั้ง 5 คน รวมทั้งวาระการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการ และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตร รวมถึงตำแหน่งโฆษกและรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
วันนี้ (15 ก.ย.2564) จากกรณีผู้ใช้ทวิตเตอร์บางส่วนแสดงความกังวลถึงการสั่งจองวัคซีนโมเดอร์นากับโรงพยา
นักข่าวเรียกร้องนายกฯให้ นปช.ยุติคุกคามสื่อ สื่อมวลชนประจำรัฐสภาเข้าชื่อกันร่วมเพื่อยื่นหนังสือต่อนา
วันนี้ (29 พ.ค.2567) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งลงนาม ระเบียบคณะกรรมการการเลือ
นักข่าวเรียกร้องนายกฯให้ นปช.ยุติคุกคามสื่อ สื่อมวลชนประจำรัฐสภาเข้าชื่อกันร่วมเพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้มีการยุติการคุกคามสื่อมวลชน ภายหลังที่มีสื่อโทรทัศน์บางสถานีได้รับอีเมล์ข่มขู่จากกลุ่ม นปช. นักข่าวเรียกร้องนายกฯให้ นปช.ยุติคุกคามสื่อ การแถลงนโยบายของรัฐบาลด้านฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบในการดำเนินการควบคุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. ที่เป็นกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล ที่กำลังเป็นอุปสรรคต่อนโยบายสร้างความปรองดอง หลังจากกลุ่ม นปช.มีททาง เข้า gtr55่าทีข่มขู่คุกคามจะทำร้าย 2 นักศึกษาจากกลุ่มนักศึกษาผู้รักประชาธิปไตย ที่นำพวงหรีดมาวางที่หน้ารัฐสภา เพราะไม่พอใจต่อการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภา ว่าได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและดำเนินการต่อไป ขณะที่เหตุการณ์การคุกคามไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับนักศึกษาทั้งรายเท่านั้น แต่ล่าสุดสื่อมวลชนประจำรัฐสภาเข้าชื่อกันร่วม เพื่อยื่นต่อนายกรัฐมนตรีขอให้ดำเนินการกับกลุ่มคนที่ส่งอีเมลข่มขู่คุกคามผู้สื่อข่าว สถานีโทรทัศน์สีกองทัพช่อง 7 ด้วยโพสต์ภาพถ่าย และระบุข้อมูลส่วนตัว ชื่อ- นามสกุล ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่าเป็นผู้ซักถามนายกรัฐมนตรีจนต้องเดินหนี โดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี หรือกลุ่มสร้างสถานการณ์เพราะถือเป็นการคุกคามสื่อชัดเจน และจะประสานกระทรวงไอซีทีเพื่อตรวจสอบที่มาของอีเมลล์ ด้านนายกรัฐมนตรีหลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้วกล่าวว่าตนเองจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ และตนเองก็มีหน้าที่ที่จะชี้แจงเมื่อสื่อมวลชนสอบถาม ขณะที่การอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่มีต่อเนื่องในวันที่ 3 นั้นล่าสุดใช้เวลาอภิปราย ประมาณ 4 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวปิดการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา มีสาระสำคัญที่ย้ำถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่เน้นความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดีต่อสถาบัน รวมถึงจะดำเนินทุกนโยบายให้กับประชาชน เพียงแต่ไม่ต้องการให้ตีความจากลายลักษณ์อักษร และเข้าใจว่าการหาเสียงและการกำหนดลงเป็นนโยบายมีความแตกต่างกัน และย้ำจะไม่ละเลยข้อห่วงใยของสมาชิกรัฐสภา และรับจะไปดำเนินการ มีรายงานว่าหลังการประชุมรัฐสภา คณะรัฐมนตรี นัดประชุม ครม. ที่อาคารรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระเร่งด่วน คือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และวาระการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี ทั้ง 5 คน รวมทั้งวาระการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการ และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตร รวมถึงตำแหน่งโฆษกและรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี การแถลงนโยบายของรัฐบาลด้านฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบในการดำเนินการควบคุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. ที่เป็นกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล ที่กำลังเป็นอุปสรรคต่อนโยบายสร้างความปรองดอง หลังจากกลุ่ม นปช.มีท่าทีข่มขู่คุกคามจะทำร้าย 2 นักศึกษาจากกลุ่มนักศึกษาผู้รักประชาธิปไตย ที่นำพวงหรีดมาวางที่หน้ารัฐสภา เพราะไม่พอใจต่อการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภา ว่าได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและดำเนินการต่อไป ขณะที่เหตุการณ์การคุกคามไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับนักศึกษาทั้งรายเท่านั้น แต่ล่าสุดสื่อมวลชนประจำรัฐสภาเข้าชื่อกันร่วม เพื่อยื่นต่อนายกรัฐมนตรีขอให้ดำเนินการกับกลุ่มคนที่ส่งอีเมลข่มขู่คุกคามผู้สื่อข่าว สถานีโทรทัศน์สีกองทัพช่อง 7 ด้วยโพสต์ภาพถ่าย และระบุข้อมูลส่วนตัว ชื่อ- นามสกุล ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่าเป็นผู้ซักถามนายกรัฐมนตรีจนต้องเดินหนี โดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี หรือกลุ่มสร้างสถานการณ์เพราะถือเป็นการคุกคามสื่อชัดเจน และจะประสานกระทรวงไอซีทีเพื่อตรวจสอบที่มาของอีเมลล์ ด้านนายกรัฐมนตรีหลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้วกล่าวว่าตนเองจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ และตนเองก็มีหน้าที่ที่จะชี้แจงเมื่อสื่อมวลชนสอบถาม ขณะที่การอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่มีต่อเนื่องในวันที่ 3 นั้นล่าสุดใช้เวลาอภิปราย ประมาณ 4 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวปิดการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา มีสาระสำคัญที่ย้ำถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่เน้นความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดีต่อสถาบัน รวมถึงจะดำเนินทุกนโยบายให้กับประชาชน เพียงแต่ไม่ต้องการให้ตีความจากลายลักษณ์อักษร และเข้าใจว่าการหาเสียงและการกำหนดลงเป็นนโยบายมีความแตกต่างกัน และย้ำจะไม่ละเลยข้อห่วงใยของสมาชิกรัฐสภา และรับจะไปดำเนินการ มีรายงานว่าหลังการประชุมรัฐสภา คณะรัฐมนตรี นัดประชุม ครม. ที่อาคารรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระเร่งด่วน คือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และวาระการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี ทั้ง 5 คน รวมทั้งวาระการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการ และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตร รวมถึงตำแหน่งโฆษกและรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่กรุงเทพฯ จนส่งผลกระทบต่ออาคารหลายพื้นที่ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ผู