Home
|
789coinfull slot เครดิต ฟรี

วันนี้ (11 ม.ค.2566) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต ร

789coinfull slot เครดิต ฟรี

วันนี้ (22 ม.ค.2566) บรรยากาศเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ค่อนข้างคึกคัก หลายพื้นที่จัดงานมีพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน และนักท่องเทียวใส่เสื้อสีแดงมงคลหลั่งไหลมาจำนวนมาก โดยเฉพาะในงานเทศกาลงานเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโ

เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า AT&T บริษัทด้านโทรคมนาคมของสหรัฐฯ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 และโทรศัพท์คู่สายใหญ่เป็นอันดับ 1 ในสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ว่า ขณะน

การมีกล้ามเนื้อแข็งแรงเปรียบเสมือนการมีเกราะป้องกันร่างกายจากโรคภัยและความเสื่อมถอย แต่เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อที่เคยแข็งแรงอาจค่อย ๆ สูญสลายไปโดยไม่รู้ตัว ภาวะนี้เรียกว่า "ซาร์โคพิเนีย" ซึ่งไม่เพียงทำให้ร่างกายอ่อนแอ แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและโรคเรื้อรัง การทำความเข้าใจถึงความสำคัญของกล้ามเนื้อและวิธีรักษามันจึงเป็นกุญแจสู่การมีสุขภาพดีในระยะยาว จากการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อในวัยหนุ่มสาว สู่การเผชิญหน้ากับความท้าทายของซาร์โคพิเนียในวัยสูงอายุ กล้ามเนื้อเป็นอวัยวะที่ทำงานมากกว่าการเคลื่อนไหวหรือยกของหนัก มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญพลังงาน รักษาสมดุลร่างกาย และสนับสนุนระบบต่าง ๆ เช่น ระบบหัวใจและหลอดเลือด งานวิจัยจาก Journal of Clinical Investigation ปี 2563 กล้ามเนื้อที่แข็งแรงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดการอักเสบในร่างกาย และเพิ่มการเผาผลาญ ซึ่งช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจ นอกจากนี้ กล้ามเนื้อยังช่วยพยุงกระดูกและข้อต่อ ลดความเสี่ยงของการหกล้มและกระดูกหักในผู้สูงอายุ การฝึกกล้ามเนื้อ เช่น การยกน้ำหนัก หรือการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน สามารถกระตุ้นการสร้างโปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและมีขนาดใหญ่ขึ้น Harvard Health Publishing ระบุว่า การฝึกกล้ามเนื้อเพียง 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ สามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงได้ในทุกวัย แม้แต่ผู้สูงอายุที่เริ่มฝึกในวัย 70 ปีก็ยังเห็นผลลัพธ์ที่ดี การมีกล้ามเนื้อแข็งแรงยังสัมพันธ์กับการมีอายุยืนยาว โดยผู้ที่มีมวลกล้ามเนื้อสูงมีอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุต่ำกว่าผู้ที่มีกล้ามเนื้อน้อย โรคซาร์โคพิเนีย (Sarcopenia) คือ ภาวะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ความแข็งแรง และการทำงานของกล้ามเนื้อที่มักเกิดในผู้สูงอายุ โดยเริ่มตั้งแต่อายุประมาณ 30 ปี ร่างกายจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อร้อยละ 3-5 ทุก 10 ปี และอัตราการสูญเสียจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุเกิน 60 ปี ตามข้อมูลจาก Mayo Clinic โรคซาร์โคพิเนียเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การลดลงของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและโกรทฮอร์โมน การขาดสารอาหารโดยเฉพาะโปรตีน การไม่ออกกำลังกาย และการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย อาการของโรคซาร์โคพิเนียอาจไม่ชัดเจนในช่วงแรก ผู้ป่วยอาจรู้สึกอ่อนแรง เดินช้าลง หรือทำกิจวัตรประจำวันได้ยากขึ้น แต่เมื่อกล้ามเนื้อลดลงมาก อาจนำไปสู่ภาวะเปราะบาง ทำให้เสี่ยงต่อการหกล้ม กระดูกหัก และสูญเสียความสามารถในการดูแลตัวเอง สถาบันแห่งชาติเพื่อการสูงวัยของสหรัฐฯ ระบุว่า โรคซาร์โคพิเนียอาจเพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการสูญเสียความเป็นอิสระในผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ยังมีผลงานวิจัยจาก Journal of Cachexia, Sarcopenia and Muscle ชี้ว่า โรคซาร์โคพิเนียไม่ใช่แค่ปัญหาของผู้สูงอายุ แต่สามารถเกิดในวัยกลางคนที่ขาดการออกกำลังกายหรือมีโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็งหรือโรคไต ภาวะนี้ยังเชื่อมโยงกับการสูญเสียมวลกระดูก ทำให้ร่างกายเปราะบางยิ่งขึ้น การป้องกันและรักษาโรคซาร์โคพิเนียต้องอาศัยการดูแลทั้งด้านการออกกำลังกาย โภชนาการ และวิถีชีวิต ดังนี้ 1.ออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน เช่น การยกน้ำหนัก สควอท หรือการใช้ยางยืดออกกำลังกาย เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการสร้างและรักษามวลกล้ามเนื้อ วิทยาลัยการแพทย์กีฬาอเมริกัน องค์กรสมาชิกด้าน เวชศาสตร์การกีฬา และ วิทยาศาสตร์การออกกำลังกายของสหรัฐฯ แนะนำให้ฝึกกล้ามเนื้อ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ โดยเน้นทุกกลุ่มกล้ามเนื้อหลัก เช่น ขา สะโพก หลัง และแขน การออกกำลังกายแบบผสมผสาน เช่น โยคะ หรือพิลาทิส ก็ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและสมดุลของร่างกายได้ 2.โภชนาการที่เหมาะสมโปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ สถาบันแห่งชาติเพื่อการสูงวัยของสหรัฐฯ แนะนำให้ผู้ใหญ่รับประทานโปรตีน 1.2-2.0 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน เช่น คนหนัก 60 กก. ควรได้โปรตีน 72-120 กรัม จากแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไข่ ถั่ว และผลิตภัณฑ์นม วิตามินดีและกรดไขมันโอเมกา-3 จากปลาทะเลหรือน้ำมันปลาก็มีส่วนช่วยลดการอักเสบและสนับสนุนกล้ามเนื้อ 3.เคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอการนั่งนาน ๆ หรือขาดการเคลื่อนไหว ก็เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดโรคซาร์โคพิเนีย การเดิน วิ่ง หรือทำกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อทุกวันช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด องค์การอนามัยโลก แนะนำให้ผู้ใหญ่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ ในระดับปานกลาง เช่น เดินเร็ว หรือ 75 นาทีในระดับหนัก เช่น วิ่ง 4.ตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์ผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปี หรือมีอาการอ่อนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและตรวจหาโรคซาร์โคพิเนีย การใช้ยาหรือฮอร์โมนทดแทนในบางกรณีอาจช่วยได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ 5. ป้องกันปัจจัยเสี่ยงการนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียดเรื้อรัง และการสูบบุหรี่ส่งผลต่อการสูญเสียกล้ามเนื้อ การนอนหลับ 7-9 ชั่วโมง/คืน และการจัดการความเครียดด้วยเทคนิค เช่น การทำสมาธิ ช่วยรักษาสุขภาพกล้ามเนื้อ การสร้างและรักษากล้ามเนื้อ ไม่ใช่เรื่องของนักกีฬาหรือคนหนุ่มสาวเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยชรา โรคซาร์โคพิเนียเป็นภัยเงียบที่สามารถป้องกันได้ด้วยการลงมือปฏิบัติตั้งแต่วันนี้ การลงทุนในกล้ามเนื้อคือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตในอนาคต การป้องกันโรคซาร์โคพิเนียไม่เพียงช่วยให้คุณแข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดีเมื่ออายุมากขึ้น แต่ยังลดภาระด้านการดูแลสุขภาพทั้งต่อตัวเองและสังคม การเริ่มต้นอาจง่ายแค่การเดินวันละ 30 นาที หรือยกขวดน้ำเป็นดัมเบลที่บ้าน กล้ามเนื้อที่แข็งแรงคือยาอายุวัฒนะที่ทุกคนเข้าถึงได้ ที่มา : Harvard Health Publishing, สถาบันแห่งชาติเพื่อการสูงวัยของสหรัฐฯ, Mayo Clinic, วิทยาลัยการแพทย์กีฬาอเมริกัน, องค์การอนามัยโลก อ่านข่าวเพิ่ม : กินหวานเสี่ยงเบาหวาน! ภัยเงียบ น้ำตาลในเลือดสูงทำลายไต-หัวใจ สธ.เขต 7 เดินหน้าฟื้นฟู รพ.ขอนแก่น ลดขาดทุน 62 ล้านใน 1 เดือน เปิดประวัติ “เจ้าคุณแ789coinfull slot เครดิต ฟรีย้ม” พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

จากเหตุไฟไหม้ผับ MOUNTAIN B สัตหีบ ชลบุรี จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก นพ.พงศศิ

การมีกล้ามเนื้อแข็งแรงเปรียบเสมือนการมีเกราะป้องกันร่างกายจากโรคภัยและความเสื่อมถอย แต่เมื่ออายุมากข

วันนี้ (12 ก.ย.2566) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชี้แจงนโยบายของรัฐบาล "

การมีกล้ามเนื้อแข็งแรงเปรียบเสมือนการมีเกราะป้องกันร่างกายจากโรคภัยและความเสื่อมถอย แต่เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อที่เคยแข็งแรงอาจค่อย ๆ สูญสลายไปโดยไม่รู้ตัว ภาวะนี้เรียกว่า "ซาร์โคพิเนีย" ซึ่งไม่เพียงทำให้ร่างกายอ่อนแอ แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและโรคเรื้อรัง การทำความเข้าใจถึงความสำคัญของกล้ามเนื้อและวิธีรักษามันจึงเป็นกุญแจสู่การมีสุขภาพดีในระยะยาว จากการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อในวัยหนุ่มสาว สู่การเผชิญหน้ากับความท้าทายของซาร์โคพิเนียในวัยสูงอายุ กล้ามเนื้อเป็นอวัยวะที่ทำงานมากกว่าการเคลื่อนไหวหรือยกของหนัก มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญพลังงาน รักษาสมดุลร่างกาย และสนับสนุนระบบต่าง ๆ เช่น ระบบหัวใจและหลอดเลือด งานวิจัยจาก Journal of Clinical Investigation ปี 2563 กล้ามเนื้อที่แข็งแรงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดการอักเสบในร่างกาย และเพิ่มการเผาผลาญ ซึ่งช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจ นอกจากนี้ กล้ามเนื้อยังช่วยพยุงกระดูกและข้อต่อ ลดความเสี่ยงของการหกล้มและกระดูกหักในผู้สูงอายุ การฝึกกล้ามเนื้อ เช่น การยกน้ำหนัก หรือการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน สามารถกระตุ้นการสร้างโปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและมีขนาดใหญ่ขึ้น Harvard Health Publishing ระบุว่า การฝึกกล้ามเนื้อเพียง 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ สามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงได้ในทุกวัย แม้แต่ผู้สูงอายุที่เริ่มฝึกในวัย 70 ปีก็ยังเห็นผลลัพธ์ที่ดี การมีกล้ามเนื้อแข็งแรงยังสัมพันธ์กับการมีอายุยืนยาว โดยผู้ที่มีมวลกล้ามเนื้อสูงมีอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุต่ำกว่าผู้ที่มีกล้ามเนื้อน้อย โรคซาร์โคพิเนีย (Sarcopenia) คือ ภาวะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ความแข็งแรง และการทำงานของกล้ามเนื้อที่มักเกิดในผู้สูงอายุ โดยเริ่มตั้งแต่อายุประมาณ 30 ปี ร่างกายจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อร้อยละ 3-5 ทุก 10 ปี และอัตราการสูญเสียจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุเกิน 60 ปี ตามข้อมูลจาก Mayo Clinic โรคซาร์โคพิเนียเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การลดลงของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและโกรทฮอร์โมน การขาดสารอาหารโดยเฉพาะโปรตีน การไม่ออกกำลังกาย และการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย อาการของโรคซาร์โคพิเนียอาจไม่ชัดเจนในช่วงแรก ผู้ป่วยอาจรู้สึกอ่อนแรง เดินช้าลง หรือทำกิจวัตรประจำวันได้ยากขึ้น แต่เมื่อกล้ามเนื้อลดลงมาก อาจนำไปสู่ภาวะเปราะบาง ทำให้เสี่ยงต่อการหกล้ม กระดูกหัก และสูญเสียความสามารถในการดูแลตัวเอง สถาบันแห่งชาติเพื่อการสูงวัยของสหรัฐฯ ระบุว่า โรคซาร์โคพิเนียอาจเพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการสูญเสียความเป็นอิสระในผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ยังมีผลงานวิจัยจาก Journal of Cachexia, Sarcopenia and Muscle ชี้ว่า โรคซาร์โคพิเนียไม่ใช่แค่ปัญหาของผู้สูงอายุ แต่สามารถเกิดในวัยกลางคนที่ขาดการออกกำลังกายหรือมีโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็งหรือโรคไต ภาวะนี้ยังเชื่อมโยงกับการสูญเสียมวลกระดูก ทำให้ร่างกายเปราะบางยิ่งขึ้น การป้องกันและรักษาโรคซาร์โคพิเนียต้องอาศัยการดูแลทั้งด้านการออกกำลังกาย โภชนาการ และวิถีชีวิต ดังนี้ 1.ออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน เช่น การยกน้ำหนัก สควอท หรือการใช้ยางยืดออกกำลังกาย เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการสร้างและรักษามวลกล้ามเนื้อ วิทยาลัยการแพทย์กีฬาอเมริกัน องค์กรสมาชิกด้าน เวชศาสตร์การกีฬา และ วิทยาศาสตร์การออกกำลังกายของสหรัฐฯ แนะนำให้ฝึกกล้ามเนื้อ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ โดยเน้นทุกกลุ่มกล้ามเนื้อหลัก เช่น ขา สะโพก หลัง และแขน การออกกำลังกายแบบผสมผสาน เช่น โยคะ หรือพิลาทิส ก็ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและสมดุลของร่างกายได้ 2.โภชนาการที่เหมาะสมโปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ สถาบันแห่งชาติเพื่อการสูงวัยของสหรัฐฯ แนะนำให้ผู้ใหญ่รับประทานโปรตีน 1.2-2.0 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน เช่น คนหนัก 60 กก. ควรได้โปรตีน 72-120 กรัม จากแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไข่ ถั่ว และผลิตภัณฑ์นม วิตามินดีและกรดไขมันโอเมกา-3 จากปลาทะเลหรือน้ำมันปลาก็มีส่วนช่วยลดการอักเสบและสนับสนุนกล้ามเนื้อ 3.เคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอการนั่งนาน ๆ หรือขาดการเคลื่อนไหว ก็เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดโรคซาร์โคพิเนีย การเดิน วิ่ง หรือทำกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อทุกวันช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด องค์การอนามัยโลก แนะนำให้ผู้ใหญ่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ ในระดับปานกลาง เช่น เดินเร็ว หรือ 75 นาทีในระดับหนัก เช่น วิ่ง 4.ตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์ผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปี หรือมีอาการอ่อนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและตรวจหาโรคซาร์โคพิเนีย การใช้ยาหรือฮอร์โมนทดแทนในบางกรณีอาจช่วยได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ 5. ป้องกันปัจจัยเสี่ยงการนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียดเรื้อรัง และการสูบบุหรี่ส่งผลต่อการสูญเสียกล้ามเนื้อ การนอนหลับ 7-9 ชั่วโมง/คืน และการจัดการความเครียดด้วยเทคนิค เช่น การทำสมาธิ ช่วยรักษาสุขภาพกล้ามเนื้อ การสร้างและรักษากล้ามเนื้อ ไม่ใช่เรื่องของนักกีฬาหรือคนหนุ่มสาวเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยชรา โรคซาร์โคพิเนียเป็นภัยเงียบที่สามารถป้องกันได้ด้วยการลงมือปฏิบัติตั้งแต่วันนี้ การลงทุนในกล้ามเนื้อคือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตในอนาคต การป้องกันโรคซาร์โคพิเนียไม่เพียงช่วยให้คุณแข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดีเมื่ออายุมากขึ้น แต่ยังลดภาระด้านการดูแลสุขภาพทั้งต่อตัวเองและสังคม การเริ่มต้นอาจง่ายแค่การเดินวันละ 30 นาที หรือยกขวดน้ำเป็นดัมเบลที่บ้าน กล้ามเนื้อที่แข็งแรงคือยาอายุวัฒนะที่ทุกคนเข้าถึงได้ ที่มา : Harvard Health Publishing, สถาบันแห่งชาติเพื่อการสูงวัยของสหรัฐฯ, Mayo Clinic, วิทยาลัยการแพทย์กีฬาอเมริกัน, องค์การอนามัยโลก อ่านข่าวเพิ่ม : กินหวานเสี่ยงเบาหวาน! ภัยเงียบ น้ำตาลในเลือดสูงทำลายไต-หัวใจ สธ.เขต 7 เดินหน้าฟื้นฟู รพ.ขอนแก่น ลดขาดทุน 62 ล้านใน 1 เดือน เปิดประวัติ “เจ้าคุณแ789coinfull slot เครดิต ฟรีย้ม” พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

วันนี้ (27 พ.ค.2565) นายษิทรา เบิ้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เปิดเผยกรณี  น.ส.ภัทร์ส