จากกรณี พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ถูกยิงเสียชีวิต หลังจากกำนันคนดังในพื้นที่ ต.ตาก้อง
วันนี้ (12 มี.ค.2564) พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อแล้ว 119 ล้านคน ติดเชื้อเพิ่มวันเดียว 477,306 คน หายป่วยแล้ว 94 ล้านคน เสียชีวิต 2 ล้านคน "
เพราะอยู่ในความสนใจของผู้คนมาตั้งแต่ต้น และยิ่งสืบยิ่งสาว ยิ่งฉาวโฉ่จนชื่อเสียงของตำรวจป่นปี้แทบไม่มีชิ้นดี หลังเกิดเหตุ มีคำถามตามมาว่า เผ่นไปไหนกันหมด จึงเปิดทางให้หลักฐานในที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นคราบเลือดถูกชำระล้าง จัดฉากจัดโต๊ะงานเลี้ยงใหม่ เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดถูกโยนทิ้งน้ำ ปืนตำรวจซึ่งยังไม่แน่ว่า เป็นปืนที่ซื้อต่อจากตำรวจ หรืออาศัยชื่อตำรวจซื้อ ถูกนำไปฝังดินหวังทำลาย ทั้งยังทำหน้าที่คุ้มกันเมื่อกำนันหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ทั้งที่ตำรวจควรเอาเวลาไปดูแลทุกข์สุขของประชาชนมากกว่า แม้จะอ้างว่าเป็นเวลานอกราชการ หรือจะแวะไปอวยพรวันเกิดประเดี๋ยวเดียว แต่ก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี ยังไม่นับเรื่องตำรวจทางหลวง ปกติควรต้องเว้นระยะห่าง จากผู้ประกอบการรถบรรทุก เพราะต้องเข้มงวดกวดขัน จึงสุ่มเสี่ยงจะถูกมองว่าคอยช่วยเหลือเกี้ยเซี๊ยะกัน ยิ่งหากไปดูคลิปอวยพรวันเกิด ที่นำโดยคนในชุดหัวเกรียนคล้ายตำรวจแบบพิเศษจัดเต็ม แถมเพลงแรพเข้ากับยุคสมัยอีกต่างหาก ยิ่งสะท้อนภาพความใกล้ชิดที่ใคร ๆ ต่างตั้งข้อสงสัยว่าเหมาะควรหรือไม่ ถือเป็นสิ่งท้าทายครั้งใหญ่อีกครั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ที่ช่วงหลัง ๆ มีคดีที่ต้องรับผิดชอบมากมาย ครั้งนี้สั่งสอบทั้งวินัยและอาญากราวรูด หลายคนโดนหมายจับ คดีความถูกโยกมาที่ส่วนกลาง ตอนนี้อ้างพยานหลักฐานแน่นหนา มัดตัวกำนันคนดังได้แน่ แต่ต้องรอลุ้นดูในทางปฏิบัติจริง เพราะมือปืนถูกวิสามัญฆาตกรรมไปแล้ว ที่จริงคดีนี้ ไม่ควรจะจบแค่กำนันนก ควรต้องขยายผลเพิ่มเติมว่ามีคนที่ใหญ่กว่า และมีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนหรือไม่ เพราะลำพังกำนันนกคนเดียว แม้จะมีพ่อเป็นผู้กรุยทางให้ แต่ไม่น่าจะสร้างอาณาจักรและธุรกิจได้ใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ เรื่องนี้ ยังลามปามกระทบไปถึงรัฐบาลใหม่ของนายเศรษฐา ที่กำลังนำครม.แถลงนโนบายใหญ่ต่อรัฐสภา อีกทั้งนายเศรษฐา ยังจะเป็นประธานก.ตร.หรือประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจโดยตำแหน่ง เว้นแต่จะหมายหมายให้รัฐมนตรีคนอื่น พอเจอเรื่องใหญ่ ขยายผลเจองานงอกอีกต่างหาก ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีผลต่อศรัทธาและความเชื่อมั่นต่อตำรวจแน่นอน พูดถึงการปราบปรามผู้มีอิทธิพล จะมีเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการทำรัฐประหาร หรือเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีมรรคผลเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกจากเรื่องนี้ อีกทั้งบางครั้ง การกล่าวหาคนอื่นว่ามีอิทธิพล ก็เคยถูกตอบโต้กลับ เช่น กรณีของนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทย ถูกกล่าวหาจาก ปปช. และเป็นเหตุผลอ้างขอโอนคดีทุจริตรถซ่อมบำรุงจากศาลฯภาค 9 ไปส่วนกลาง นายนิพนธ์ก็ออกมาตอกกลับมาแล้ว ฉะนั้น การกวาดล้างผู้มีอิทธิพล หรือแม้แต่เบโจ๊ก เกอร์ ท รู วอ เลทื้องต้น ขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพล จึงไม่ใช่เรื่องง่ายในทางปฏิบัติ และครั้งนี้ก็เช่นกัน วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา อ่านขาวที่เกี่ยวข้อง "บิ๊กโจ๊ก" พบตำรวจ 28 นาย เอี่ยวงานเลี้ยง "กำนันนก" เปิดภาพสุดท้าย "ผกก.เบิ้ม" ลงจากแท็กซึ่ปีนรั้วเข้าบ้าน “สนสามพราน” เพลงสุดท้ายอาลัย “สารวัตรแบงค์”
เพราะอยู่ในความสนใจของผู้คนมาตั้งแต่ต้น และยิ่งสืบยิ่งสาว ยิ่งฉาวโฉ่จนชื่อเสียงของตำรวจป่นปี้แทบไม่มีชิ้นดี หลังเกิดเหตุ มีคำถามตามมาว่า เผ่นไปไหนกันหมด จึงเปิดทางให้หลักฐานในที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นค