วันนี้ (1 พ.ค.2567) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า บริษัทยายักษ์ใหญ่แอสตราเซเนกา ยอมรับครั้งแรกว่า วั

วันนี้ (3 ม.ค.2565) บรรยากาศการเดินทางของประชาชน โดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หรือหมอชิต 2 ช่วงเช้าที่ผ่านมีประชาชนเดินทางเข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่ด้านหน้าสถานีมีรถแท็กซี่เข้ามาจอดรอรับผู้โดยสาร และ

วันนี้ (1 พ.ค.2567) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า บริษัทยายักษ์ใหญ่แอสตราเซเนกา ยอมรับครั้งแรกว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชื่อ "Covishield" สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ยาก รวมถึงภาวะลิ่มเลือด และเกล็ดเลือดต่ำ รายงานดังกล่าวเกิดขึ้น ในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหราชอาณาจักร ถึงผลข้างเคียงหลังรับวัคซีนโควิด-19 โดยบริษัทแอสตราเซนเนกา ที่พบภาวะลิ่มเลือดอุดตัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ Covishield ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทอังกฤษ-สวีเดน โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และผลิตโดย Serum Institute of India มีการบริหารงานอย่างกว้างขวางในกว่า 150 ประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักรและอินเดีย การศึกษาบางดำเนินการระหว่างการแพร่ระบาดพบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ได้ 60-80 % ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลก ยืนยันว่า Covishield อาจมีผลข้างเคียงที่คุกคามถึงชีวิตได้ “มีรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่หายากมากที่เรียกว่า Thrombosis with Thrombocytopenia Syndrome ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติและรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ ได้รับรายงานหลังการฉีดวัคซีนด้วยวัคซีนนี้ ด้าน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ก่อนหน้านี้บริษัท ก็ได้มีการแจ้งข้อมูลที่เป็นวารสารทางการแพทย์ออกมาตั้งแต่ในช่วงที่มีการอนุญาตในลักษณะฉุกเฉิน (EUA) แต่ในขณะนี้มีการอนุญาตใช้โดยทั่วไปแล้ว จึงมีการเก็บข้อมูลผลข้างเคียงในลักษณะที่เป็นหลักฐาน รวมถึงมีเรื่องของการฟ้องร้องดังกล่าวด้วย สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค รายงานผลการฉีดวัคซีนโควิด ตั้งแต่ 28 ก.พ.2564 -10 มี.ค.2566 ในไทยตั้งแต่เกิดการะบาดของโควิด-19 มีการนำเข้าวัคซีน 5 ชนิดได้แก่ ซิโนแวค แอสตราเซเนกา ชิโนฟาร์ม ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา โดยอันดับที่มีการฉีดมากสุดคือ ไฟเซอร์ จำนวน 48,867,210 โดส รองลงมาแอสตราเซเนกา 48,718,241 โดส ด้านนพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (21 27 เม.ย.) พบผู้ป่วยโรคโควิดที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 1,672 คนเฉลี่ย 239 คนต่อวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 390 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 148 pg rich888คน และมีผู้เสียชีวิต 9 คน เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน (14-20 เม.ย.) พบว่าผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังเป็นไปตามคาดการณ์ เนื่องจากโรคโควิดกลายเป็นโรคประจำถิ่น สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี และยังเป็นโรคประจำฤดูกาล โดยจะพบผู้ป่วยมากขึ้นตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ต่อเนื่องจนถึงฤดูฝนที่กำลังจะถึงนี้และจะเป็นช่วงเปิดเทอมด้วย ไม่ต่างจากโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ทั้งไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี แต่ความรุนแรงของโรคโควิด-19 ลดลงอย่างมาก นพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า ปัจจุบันโควิดที่ระบาดคือสายพันธุ์ย่อยของ XBB.1 ซึ่งเป็นลูกหลานของโอมิครอน อาการไม่รุนแรง เป็นเหมือนหวัดธรรมดาทั่วไป ซึ่งจุดนี้เองอาจทำให้ประชาชนไม่ได้ระวังจึงแพร่เชื้อต่อกันได้ง่าย สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังไม่นำเชื้อไปสู่กลุ่มเสี่ยง ซึ่งจากข้อมูลผู้เสียชีวิตทุกรายยังพบว่า เป็นกลุ่ม 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนมีความตระหนักแต่ไม่ตระหนก อ่านข่าว : ถ้วนหน้า! พิพัฒน์ยืนยัน 1 ต.ค. ค่าแรง "400 บาท" ทั้งประเทศ "แรงงาน" ยื่น 10 ข้อเรียกร้อง รัฐบาล ใน "วันแรงงาน" “เสียงประชาชน” ดังขึ้นดังอีก เอาคืน กกต.อย่าล้ำเส้นสิทธิ

ความคืบหน้าธุรกิจขายตรงของบริษัทชื่อดัง "ดิไอคอน กรุ๊ป" มีนักแสดงชื่อดังหลายคนเป็นพรีเซ็นเตอร์ และบางคนยังมีตำแหน่งในบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ซึ่งแม้ว่าผู้บริหารจะออกมายืนยันว่าดาราที่ปรากฎชื่อไม่เกี่ยวนั้