ความคืบหน้าการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก (WAFF) ประจำปี 2023 ที่จะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 20
วันนี้ (18 ธ.ค.2567) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีมีผู้ร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เอื้อประ
วันนี้ (18 ธ.ค.2567) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีมีผู้ร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ชินวัตร พักที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเป็นเพียงการกล่าวอ้างว่า ผู้ถูกร้องทั้งสามปฏิบัติหรือละเว้นการปฏฝาก 10 บาท รับ 99 2020แจก เครดิต กลุ่ม ไลน์ แชร์ เครดิต ฟรีิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานอื่นที่ชัดเจนเพียงพอ และยังห่างไกลเกินกว่าเหตุที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสามกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 49 คดีนี้นายคงเดชา ชัยรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ผู้ถูกร้องที่ 1) มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลกรมราชทัณฑ์ และรับทราบการบังคับใช้กฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 อธิบดีกรมราชทัณฑ์ (ผู้ถกร้องที่ 2) และผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (ผู้ถูกร้องที่ 3) มีอำนาจให้ความเห็นชอบและอนุญาตบังคับใช้กฎกระทรวงดังกล่าว ส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวที่ห้องพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีอาการป่วยรุนแรงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 246 วรรคหนึ่ง (2) อีกทั้งไม่ได้ดูแลให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 53 กระทำการเอื้อประโยชน์ให้แก่นายทักษิณ ให้ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่น ทำให้บุคคคลไม่เสมอกันในกฎหมาย ขัดหรือแย้งต่อรัฐธธธรรมนูญมาตรา 27 เป็นการกระทำที่เป็นการล้มล้างอำนาจอธิบไตยฝ่ายตุลาการ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิบไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2567 ขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ เลิกการกระทำที่เป็นการครอบงำหรือจูงใจให้ผู้ถูกร้องทั้งสามใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ศาลรัฐธธธรรมญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสามเลิกการกระทำดังกล่าว อ่านข่าว : "ทวี" ลั่นพิสูจน์ความจริง 12 จนท.ปมป.ป.ช.ไต่สวนเอื้อทักษิณชั้น 14 มวลชนกดดัน ป.ป.ช.เร่งไต่สวน 12 ขรก.เอื้อ "ทักษิณ" นอน ชั้น 14 เช็กวาระร้อนครม.สัญจร 29 พ.ย.ภาคประชาชนจ่อยื่น "แพทองธาร"
วันนี้ (23 เม.ย.2567) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา ว่า ที่ประชุมฯ ได