ฟัน ธง ทีเด็ด วัน นี้ -Dasco Minta Dedi Mulyadi Kaji Program Kirim Siswa Nakal ke Barak TNI

ฟัน ธง ทีเด็ด วัน นี้

วันนี้ (30 มิ.ย.2564) ตำรวจกองปราบปราม เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.นนทบุรี พบพนักงฟัน ธง ทีเด็ด วัน นี้

วันนี้ (16 ส.ค.2564) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค.มีมติเห็นชอบในหลักการจัดหาวัคซีนในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.2564 เพื่อนำมาใช้ในช่วงที่ระยะเวลาที่ว

การปฏิรูประบบราชการและการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นนโยบายของทุกรัฐบาล แต่ยังไม่มีรัฐบาลไหนสามารถแก้ปัญหาได้ โดยประเด็นดังกล่าวในความรู้สึกของประชาชนจากการสำรวจของสำนักวิจัยต่างๆ กลับพบว่าประชาชนมีความเห็นว่าสถานการณ์รุนแรงขึ้น รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิกรัฐสภาในวันแถลงนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 11 ก.ย.2566 ว่าละเลยปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เนื่องจากไม่มีความชัดเจนในเรื่องการปราบปรามและป้องกันการทุจริต โดยพบข้อความเพียงประโยคเดียวที่ว่า “การป้องกันและขจัดการทุจริตที่ประชาชนมีส่วนร่วม” ซึ่งถือเป็น “หน้าที่พื้นฐานที่ต้องทำงานร่วมกับประชาชน” ตัวชี้วัดสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชัน ที่ถือว่าเป็นมาตรฐาน คือ ดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) ที่จัดทำโดย องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) ซึ่งใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง ทำให้เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกและจะมีการประกาศทุกปี เพื่อให้รัฐบาลแต่ละประเทศนำไปปรับปรุงเพื่อใช้ในการบริหารประเทศต่อไป ดัชนี CPI ประจำปี 2565 จากจำนวนประเทศ 180 ประเทศทั่วโลก ปรากฏว่าประเทศที่ได้คะแนนสูงที่สุดคือ 90 คะแนนของโลกคือ ประเทศเดนมาร์ก อันดับ 2 ได้ 87 คะแนน คือ ประเทศฟินแลนด์ และประเทศนิวซีแลนด์ ในขณะที่ประเทศไทย ได้คะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 36 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 101 ของโลก และอยู่ในอันดับที่ 4 ของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศที่ได้คะแนนสูงสุดในอาเซียนคือประเทศสิงคโปร์ ได้ 83 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 4 ของโลก ดัชนี CPI ประจำปี 2566 ดัชนี CPI ประจำปี 2566 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ระบุว่า แม้ในปีที่ผ่านมา จะได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริต จนคะแนฟัน ธง ทีเด็ด วัน นี้นดีขึ้น โดยมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาการทุจริตต่าง ๆ เช่น มีการประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับระบบงบประมาณ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกในการอนุมัติ อนุญาต การผลักดันให้หน่วยงานของรัฐปรับปรุงกระบวนงานและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ตลอดจนมีการลงโทษผู้ที่กระทำการทุจริต “แต่ในปัญหาการทุจริตต่าง ๆ ของประเทศไทย ยังคงมีอยู่ ไม่แตกต่างจากปีที่ผ่าน ๆ มา เช่น พฤติกรรมการเรียกรับสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐ ความโปร่งใสในการบริหารเงินงบประมาณ การป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และการตรวจสอบและลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำการทุจริต ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม” ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ระบุว่า การทุจริตคอร์รัปชันในระบบราชการที่เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุดคือ “การจัดซื้อจ้างในภาครัฐ” ความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 2-3 แสนล้านบาทต่อปี แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพบว่า ภาครัฐจัดซื้อจัดจ้างสูงขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 1.1 ล้านล้านบาทต่อปี เป็น 1.5 ล้านล้านบาทต่อปี จึงสันนิษฐานว่าความเสียหายจากการคอร์รัปชันในจุดนี้น่าจะเพิ่มมากขึ้น ปัญหาคอร์รัปชันในเมกะโปรเจ็คหรือโครงการขนาดใหญ่ และปัญหาคอร์รัปชันเชิงนโยบายมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น เพราะแต่ละครั้งที่เกิดการทุจริตขึ้น จะเกิดจากการลงทุนเป็นจำนวนเงินมหาศาลที่มีเป้าหมายจากประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์สาธารณะ ทำให้โครงการที่ลงทุนไปนั้นไม่คุ้มค่าในระยะยาว เนื่องจากเกิดจากการตัดสินใจที่บิดเบือน 5 รูปแบบการทุจริตในระบบราชการ 5 รูปแบบการทุจริตในระบบราชการ การทุจริตคอร์รัปชันในรูปแบบที่สองคือ “การรับเงินใต้โต๊ะ” มักเกิดขึ้นเมื่อผู้ทำธุรกิจหรือประชาชนเข้ามาติดต่อขอใบอนุญาตต่าง ๆ แม้ว่าไม่มีงานวิจัยใดบอกได้ว่าความเสียหายอยู่ที่เท่าไร แต่ปัญหานี้กลับส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนที่ต้องการใบอนุญาตหรือขออนุมัติคำร้องต่าง ๆ จากหน่วยงานราชการ ดร.มานะ บอกว่า ข่าวดีคือความรุนแรงของปัญหานี้มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากประชาชนมีกล้อง มีโทรศัพท์ ทำให้ประชาชนส่งเสียงร้องเรียนต่อ ๆ กันได้ว่าหน่วยงานราชการใดมีปัญหา ซึ่งทำให้ข้าราชการจำนวนหนึ่งหวาดกลัวมากขึ้น นอกจากนี้ พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ทำให้การบริการภาครัฐถูกปฏิรูป นำระบบสารสนเทศเข้ามาใช้มากขึ้น สิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุด คือ การนำเว็บไซต์และแอพลิเคชันเข้ามาให้บริการประชาชนผ่านระบบ E-Service รูปแบบที่สามคือ “ส่วย” เป็นคอร์รัปชันในลักษณะที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปตบทรัพย์ประชาชนหรือผู้ประกอบการตามท้องถนน เช่น ส่วยร้านค้า ส่วยจราจร ส่วยทางหลวง ส่วยเทศกิจ แต่ ดร.มานะตั้งข้อสังเกตว่า ส่วยและสินบทต่างปรับรูปแบบจาก “กินแหลกไม่เลือก” เป็น “กินก้อนใหญ่” กล่าวคือ ข้าราชการหาช่องรับเงินจากภาคธุรกิจหรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงทางกฎหมาย และลดการรีดไถจากประชาชนทั่วไปลง “การกินก้อนใหญ่จากภาคธุรกิจเป็นเงินที่ทั้งผู้จ่ายและผู้รับต่างสมประโยชน์กันและกัน จึงค่อนข้างแน่ใจได้ว่าเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดไม่เสี่ยงถูกเปิดโปงภายหลัง เรื่องนี้มีงานวิจัยจากศาตราจารย์ผาสุก พงษ์ไพจิตรที่ตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547 ยืนยันจุดนี้” อีกประเด็นหนึ่งที่หลายพรรคการเมืองพูดถึงกันอย่างมาก คือ ใบอนุญาตที่มีมากเกินไป เอื้อให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจที่เสี่ยงต่อการรับสินบน และเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจผู้ประกอบการในหลายๆ ด้าน ดร.มานะเห็นด้วยว่าใบอนุญาตในไทยมีจำนวนมากจริง แต่ก็เห็นถึงความพยายามของหน่วยงานราชการที่ใช้ระบบ E-Service ให้บริการประชาชน ซึ่งบางเรื่องใช้เวลาเดินเรื่องไม่ถึงวัน ถึงแม้ว่ามี พ.ร.บ. อำนวยความสะดวกฯ เป็นตัวตั้งต้น ตามมาด้วยพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 พระราชบัญญัติระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2560 คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมถึงมติคณะรัฐมนตรีหลายวาระที่ต้องการปฏิรูประบบราชการเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ดร.มานะ บอกว่า ในทางปฏิบัติยังพบปัญหาว่าเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานยังจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎและระเบียบที่กระทรวงและกรมต่าง ๆ กำหนดไว้ ซึ่งทำให้เห็นว่าหลายหน่วยงานไม่ได้ใส่ใจปรับตัวหรือปฏิรูประบบการทำงานของตนเองเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน หรือทำให้เกิดการความโปร่งใสในขั้นตอนการอนุมัติมากขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น รูปแบบที่สี่ของการทุจริต คือ “การซื้อขายตำแหน่ง” เนื่องจากการแต่งตั้งโยกย้ายโดยใช้ระบบคุณธรรมยังไม่ถูกนำมาใช้ในไทย ถึงแม้จะมีพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 แต่ปัญหาได้คนทำงานไม่มีความสามารถมาทำงานเพราะใช้เงินวิ่งเต้น กลายเป็นประเด็นเล็กน้อยไปเลย เมื่อเทียบกับประเด็นที่ว่าปัญหานี้กำลังทำลายระบบคุณธรรมในระบบราชการลงอย่างสิ้นเชิง การซื้อขายตำแหน่งนำไปสู่การทุจริตรูปแบบที่ห้า คือ “การคอร์รัปชันเพื่อสร้างเครือข่ายอุปถัมภ์” ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ควบคุมยาก และไม่สามารถวัดความเสียหายเป็นจำนวนเงินได้ เนื่องจากยากมากต่อการตรวจสอบ แต่ปัญหาคอร์รัปชันไม่เพียงแต่กระทบชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและการบริหารงานภาครัฐเท่านั้น ดร.มานะ มองว่ายังเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของภาคธุรกิจไทย และกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน ผลคะแนนเปรียบเทียบแต่ละแหล่งข้อมูลดัชนีการรับรู้การทุจริต ผลคะแนนเปรียบเทียบแต่ละแหล่งข้อมูลดัชนีการรับรู้การทุจริต ไทยพีบีเอส ทำการสำรวจนโยบายของพรรคการเมือง พบว่า ในช่วงการหาเสียง มีพรรคการเมืองอยู่ 4 พรรคที่มีนโยบายเกี่ยวกับรัฐดิจิทัล ฉับไว ทันสมัย ได้แก่ พรรคเพื่อไทยมีนโยบายรัฐบาลดิจิทัล เปลี่ยนจากรัฐอุปสรรคเป็นรัฐสนับสนุน สร้าง One Stop Service สำหรับการให้บริการภาครัฐ การขออนุญาต อนุมัติต่างๆ จะต้องง่าย สะดวก อยู่ในแพลตฟอร์มเดียว ลดดุลพินิจเจ้าหน้าที่ เพื่อลดโอกาสการคอร์รัปชัน เพราะกำหนดระยะเวลาการอนุมัติแน่นอน ตัดปัญหาการเตะถ่วง และปิดช่องการเรียกเก็บค่าอนุมัติ ซึ่งทางเพื่อไทยได้บรรจุนโยบายนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล ด้านพรรคก้าวไกลสนับสนุนให้ยกเลิกใบอนุญาตร้อยละ 50 ของใบอนุญาตที่มีอยู่ในปัจจุบัน รู้ผลใบอนุญาตภายใน 15 วัน และสามารถใช้บริการของภาครัฐได้ทุกบริการผ่านมือถือ โดยมีขั้นตอนการติดตามเรื่องชัดเจน พรรคชาติพัฒนากล้าขายนโยบาย All Service Center หรือ ราชการ 1 คำขอ จบที่เดียว วิธีการทำงานของระบบนี้คือกระจายคำขอต่างๆ ไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามเรื่องด้วยแทรคกิ้งนัมเบอร์ (Tracking number) ซึ่งรวดเร็ว สามารถป้องกันการทุจริต ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบธุรกิจ ขณะที่พรรคใหม่เสนอนโยบายนำเทคโนโลยีมาทำงานในหน่วยงานภาครัฐให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างหน่วยงานรัฐ สำหรับนโยบายเรื่องการปราบปรามคอร์รัปชันในระบบราชการ พบว่ามีอย่างน้อย 4 พรรค ที่เสนอนโยบายดังกล่าว ได้แก่ พรรคก้าวไกลและพรรคไทยสร้างไทยที่เสนอให้ให้ใช้ AI ต้านโกง ขณะที่พรรคชาติพัฒนากล้าที่เสนอสร้างแพลตฟอร์มตรวจสอบนโยบายภาครัฐ ก้าวไกลยังเสนอให้ส่งตัวแทนภาคประชาชนเข้าไปในโครงการการจัดซื้อจัดจ้างมูลค่าสูง เพื่อดักทางการทุจริต ที่มาขององค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช. ต้องมาจากยึดโยงกับประชาชน เพื่อเพิ่มดุลการตรวจสอบหน่วยงานรัฐ พร้อมกับกำหนดให้เปิดเผยงบประมาณการจัดซื้อจัดจ้างทุกขั้นตอน เพื่อความโปร่งใส นโยบายนี้สอดคล้องกับพรรคชาติพัฒนากล้าที่เสนอนโยบายเรื่องงบโปร่งใส ตรวจสอบได้ ขณะที่พรรคเพื่อไทยต้องการสร้างรัฐบาลดิจิทัล ด้วยความเชื่อว่าเป็นระบบที่สร้างความโปร่งใส ง่ายต่อการตรวจสอบ จากนโยบายของพรรคการเมืองจะเห็นได้ว่าหลายพรรคมองตรงกันว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน แต่จะสามารถแปรเป็นนโยบายรัฐบาลและนำไปสู่การปฏิบัติได้หรือไม่นั้น นับเป็นเรื่องท้าทายอันยิ่งใหญ่ของสังคมไทย อ่านข่าวอื่นๆ : ปฏิรูปการศึกษา เส้นทางยังอีกยาวไกล หนี้สิน ที่ดินทำกิน ราคาพืชผล นโยบายรัฐบาล “ไม่เคยเปลี่ยน” ทำไมต้อง Policy Watch

วันนี้ (3 เม.ย.2567) รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญ IPCC  ประธานกรรม การบริหาร Futuretales LAB,

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 20
วันนี้ (2 มี.ค.2564) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 42 คน ยอดสะสม 26,073 คน รักษาหายเพิ่ม 96 คน ยอดส
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่