Home
|
บอล สด เชียงราย

วันนี้ (31 ส.ค.2567) การแข่งขันเทเบิลเทนนิส พาราลิ

บอล สด เชียงราย

วันนี้ (6 ก.พ.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารกรุงไทย แจ้งปิดระบบการใช้สิทธิโครงการเราชนะของกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐชั่วคราวประมาณ 5 ชั่วโมงเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังเปิดให้ผู้ถือบัตรสวั

ท่าทีของ สว.ยังคงไม่ชัดเจนว่าจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หนึ่งในนั้น คือ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เลือกตัดสินใจกันให้ดี 21 ส.ค.รอดูแถลง 22 ส.ค.รอโหวต

ไทยพีบีเอส สัมภาษณ์พิเศษ ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ถึงเหตุผล ที่ตัดสินใจรับงานใหญ่ดูแล บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของ กรุงเทพมหานคร ยุคผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ธงทอง : ผมตัดสินใจร่วมทีมจาก 2 ปัจจัยใหญ่ ข้อแรกยอมรับตรง ๆ ว่า คนที่มาชวน น่าเลื่อมใส ก็คือ อ.ชัชชาติ ครับ เพราะผมในฐานะเป็นผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งคนหนึ่ง ได้เห็นวิธีการทำงานของ อ.ชัชชาติ ทั้งก่อนและหลังได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. รวมถึงข้อมูลเดิมที่พอจะรู้จัก อ.ชัชชาติอยู่แล้ว สมัยสอนหนังสือที่จุฬาฯ (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) มาด้วยกัน เห็นฝีมือเห็นประวัติเห็นวิธีทำงานมาช้านาน คนชวoน่าสนใจ และผมรู้สึกไม่มีนอกมีใน ไม่มีอะไรที่ผมจะลำบากใจ ข้อสอง ตัว บริษัท กรุงเทพธนาคม เอง ผมคิดว่าเป็นนิยายแห่งความคลุมเครือเรื่องหนึ่ง เพราะได้ยินมานานแล้ว แต่เราดูจากไกล ๆ มันไม่ได้ร้ายกาจ เหมือนที่เราดูจากภายนอกมา ถ้าเข้ามาดูในตำแหน่งซึ่งใกล้ชิด ผมมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ มาด้วยทีมที่จะร่วมกันทำงาน ผมเชื่อว่ากรุงเทพธนาคมมีดี มีทีมบุคลากร มีศักยภาพอีกหลายอย่างที่เราจะสามารถทำงานและพัฒนาเพื่อประโยชน์ร่วมกันของชาวกรุงเทพมหานครได้ครับ ธงทอง : (หัวเราะ) เรื่องนี้ อ.ชัชชาติ คุยกับผมมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (2564) ตอนนั้น ยังไม่ประกาศสนามแข่งเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ด้วยซ้ำ เพียงแต่ผมเป็นคนขยันเขียนเฟสบุ๊กเรื่องต่าง ๆ ผมมักจะพูดเรื่องอาหารการกิน วิถีชีวิต วัฒนธรรม ความคิดต่าง ๆ มุมหนึ่งที่ผมพูดไป คือ เรื่องทางเท้าในกรุงเทพฯ ชุมชนต่าง ๆ ในกรุงเทพ อ.ชัชชาติ ก็ติดต่อมาว่าอยากคุยกับผม ผมก็บอกว่ามาเลย เรื่องทางเท้านี่ของถนัดเลยล่ะ เรื่องลานคนเมือง ซึ่งตอนนั้น อ.ชัชชาติ ก็กรุณามาหาที่บ้าน ตอนนั้นผมบอกว่า ไว้อาจารย์เป็นผู้ว่าฯ ก่อน ค่อยมาพูดอีกทีก็แล้วกัน (หัวเราะ) เพราะมันห่างไกลผมมากเลย แต่เพื่อความไม่ประมาท ผมลงมือทำการบ้านตั้งแต่นั้น มีเวลาตั้งหลายเดือน เท่าที่ข้อมูลปรากฎต่อสาธารณะเกี่ยวกับ บริษัท กรุงเทพธนาคม ทำการบ้านในวงจำกัดของเรา แต่รายละเอียดต่าง ๆ ผมก็รู้จากสาธารณะเท่านั้น จึงขอข้อมูล ทาง อ.ชัชชาติ ก็ส่งข้อมูล ส่งผู้คนมาช่วยให้ผมได้ทำข้อมูลล่วงหน้า รวมถึงบุคคลที่จะมาร่วมเป็นกรรมการด้วย ก็ช่วยกันคิดช่วยกันหา เพราะการทำงานใน บริษัท กรุงเทพธนาคมแบบนี้ ต้องการบุคคลที่มีความถนัดความรู้หลากหลาย เช่น เราอาจต้องพูดเรื่องกฎหมายแน่นอน และผมคนเดียว ไม่สามารถรู้กฎหมายทุกเรื่องได้ เราอาจต้องการความรู้ด้านวิศวกรรม การเงิน การลงทุน ธุรกิจ สิ่งแวดล้อม ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ มันรวมอยู่ถึงการมาทำหน้าที่กรรมการบริษัท ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ อ.ชัชชาติ ต้องทราบแน่ ๆ เพราะ บริษัท กทม.ถือหุ้นใหญ่อยู่ 99.98 % ซึ่งกรรมการบางท่าน ผมยังไม่เคยรู้จัก แต่เมื่อรู้จักแล้วก็ไม่หนักใจอะไร ธงทอง : เรามีกรรมการที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม มีนักกฎหมายที่เป็นกำลังสำคัญ เป็นผู้เชี่ยวชาญกฎหมายมหาชน กฎหมายสัญญาระหว่างรัฐกับเอกชน เป็นเจ้าพ่อกฎหมายปกครอง มีสุภาพสตรี ที่เคยเป็น รองเลขาธิการ กลต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) เชี่ยวชาญด้านการเงิน การลงทุน สิ่งแวดล้อม ฯลฯ ธงทอง : กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่อนาคต เรามีโอกาสที่จะได้ทำงานให้กับเมืองที่เราอาศัยอยู่ ทำไมจะละเลยโอกาสเช่นว่านั้นเสียล่ะ จะทำได้มากน้อย ก็ทำเต็มกำลังของเรา ในช่วงเวลาที่เราได้รับมอบหมายภารกิจแบบนี้ เราก็ให้สัญญากับตัวเอง กับพวกเรากันเองว่า เราจะทำเต็มที่นะครับ และหวังว่าสิ่งที่เราทำไป จะเป็นประโยชน์ระยะยาว สำหรับบริษัทด้วย สำหรับกรุงเทพมหานคร และแม้สำหรับประเทศไทยของเราครับ ธงทอง : เราพูดถึงวางระบบการทำงานของ บริษัท กรุงเทพธนาคม ให้เป็นสิ่งที่อธิบายได้ เปิดเผยได้ เข้าใจได้ มีเหตุผล มีธรรมาภิบาล มีประโยชน์ ต้องทำให้งานของกรุงเทพธนาคม อยู่ในที่แจ้ง ไม่มีอะไรที่จะอธิบายไม่ได้ ธงทอง : เราก็สงสัย แต่เราอาจจะไม่ได้ไปถามเขาตรง ๆ เพราะถ้าไปถามตรง ๆ เขาอาจจะบอกก็ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าของเรื่องในอดีตด้วย จะบอกว่า เขาปิดมิดเม้มก็ไม่แน่ใจ เพียงแต่สำหรับเรา อาจไม่ต้องรอให้ใครมาถามมั้ง เราจะต้องทำให้ตัวเราขาวจั๊วะตั้งแต่ต้นเลยก็ได้ ธงทอง : เรานัดประชุมครั้งต่อไป วันที่ 30 มิ.ย.2565 เพื่อเน้นหารือถึงสาระ ที่ต้องโฟกัสให้มากขึ้น แต่ภายในเสาร์-อาทิตย์นี้ น้อง ๆ ที่กรุงเทพธนาคม จะเหนื่อยหน่อย เพราะต้องจัดทำเอกสารเตรียมไว้ให้กรรมการ โดยเฉพาะเรื่องสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่กรุงเทพธนาคมรับผิดชอบ ธงทอง : ผมสบายนะ อย่างน้อยผมเชื่อว่า ไม่ต้องพบความกดดันจาก กทม. ในความหมายที่ว่า เป็นการกดดันนอกรอบ แล้วพูดกันไม่ได้ในเวทีสาธารณะ ผมคิดว่าทุกอย่างต้องพูดกันได้บนที่แจ้ง “...แต่ถามว่ากดดันในมุมอื่นมีมั้ย ความกดดันจากสังคมอาจจะมี ความคาดหวัง อยากได้ 100 % อยากได้เร็ว แต่สิ่งเหล่านี้ ในฐานะนักกฎหมาย ก็ต้องตอบว่า ต้องทำใจเบื้องต้นไว้ก่อนว่า 100 % ไหม จะได้ทุกข้อ ทุกเม็ด ซึ่งในความผูกพันทางกฎหมายแต่เก่าก่อน ผมก็ยังมองไม่เห็นในรายละเอียดต่าง ๆ ความเร็ว ความช้า ก็ไม่มีใครอยากให้ช้า เพราะวาระ อ.ชัชชาติ 4 ปี บอร์ดกรุงเทพธนาคม ก็ 4 ปี เวลาผ่านไปแต่ละเดือน แต่ละปี ก็มีค่ามีความหมายทั้งนั้น เราก็ทำให้ดีที่สุดครับ...” ธงทอง : อันนี้ ผมไม่นับผมนะ ผมไม่สามารถไปบอกให้ อ.ชัชชาติ ไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ได้ แต่ผมก็ตระหนักดีถึงข้อกำหนดของ อ.ชัชชาติ ในส่วนนั้น เพราะฉะนั้นการนัดพูดคุยกันของคณะกรรมการกรุงเทพธนาคม วันที่ 30 มิ.ย.2565 อย่างน้อย ต้องมีพัฒนาการทางความคิด และมีกระบวนการทำงานที่จะนำไปแจ้งกับ อ.ชัชชาติ ได้ว่า แนวทางจะเป็นอย่างไร อาจไม่ใช่ส่วนที่จบจาก บริษัท กรุงเทพธนาคมเท่านั้น แต่บางส่วนเป็นที่ กทม.ต้องนำไปปฏิบัติ ดำเนินการบางส่วนทำร่วมกัน เราพยายามทำด้วยการนึกถึงกรอบช่วงเวลา 1 เดือน ของ อ.ชัชชาติ เก็บไว้ในใจเราอยู่เสมอครับ ธงทอง : รับทราบ และหวาดกลัวอยู่ (หัวเราะ) แต่ได้เรียน อ.วิศณุ (นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม.) ไปตอนที่เจอกัน (วันที่ 17 มิ.ย.2565) แล้วว่า เอกสารเป็นพันหน้า แล้วสัญญาเอกสารมีมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว ธงทอง : ความเก่าแก่ ซับซ้อนของเรื่องราวทั้งหลาย และความผันแปรของนโยบายที่เปลี่ยนไปหลายยุคหลายสมัย เพราะว่ามันเป็นตำนานและเป็นเท้าแสนปม จะไปโทษใคร หรือไปบอกว่า ใครผิดใครถูก ก็ไม่ใช่ธุระอะไรในเวลานี้ แต่อยากดูว่า กว่าจะมาถึงตรงนี้ ได้ มันผ่านอะไรมาบ้าง และทุกวันนีบอล สด เชียงราย้เราทำให้ดีกว่านี้ ได้ไหม มันมีปัญหาอะไรที่ต้องแก้เป็นเปราะที่หนึ่ง เปราะที่สอง ก็จะพยายามใส่ใจดูในส่วนนั้นครับ ธงทอง : เมื่อตอนผมเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ความขัดแย้งทางการเมืองสูง และเป็นข้อจำกัดในการทำงานอะไรๆ มาก ผมต้องวางบทบาทในฐานะเป็นข้าราชการประจำ ผมจะรักษาบทบาท ทำตามกฎหมาย ไม่ให้คำพูดของผม เป็นการเพิ่มความขัดแย้งทางการเมือง ทำหน้าที่ในบริบทของตัวเองไป แต่วันนี้ ผมสบายขึ้น ผมเกษียณมา 7 ปีแล้ว ผมเลือกงานได้ ตอนนั้นผมเลือกงานไม่ได้ ตอนนี้ งานนี้ ผมเลือกเอง ใช้คำว่ากึ่งอาสา มีคนมาชวน น่าสนใจ ผมคิดว่าเป็นความท้าทายหนึ่งในชีวิต และเดี๋ยวนี้รู้สึกว่า ตัวเองทนทานต่อความเปลี่ยนแปลง ทนทานต่อโลกธรรมทั้งหลาย ธงทอง : ต้องทบทวน เป็นโอกาสที่ต้องทบทวน เพราะแต่เดิมมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น มีที่มาที่ไป และที่หารือกับ นายวิศณุ รองผู้ว่าฯ กทม. คิดว่า เป็นโอกาสว่า เรื่องใดที่จะต้องเดินหน้าต่อ เรื่องที่ต้องบริหารจัดการ และเรื่องที่ต้องเปลี่ยนแปลง เช่น เส้นทางเดินเรือคลองภาษีเจริญ สมัยที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า เส้นทางเรือนี้ได้รับความสนใจ แต่เมื่อมีรถไฟฟ้า จำนวนผู้โดยสารลดลง จนกรุงเทพธนาคม หรือ กทม.ต้องรับภาระการขาดทุน ก็ต้องมาดูว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร จะมีตัวเลือกอะไรบ้าง คุยกันด้วยเหตุด้วยผล โอกาสแบบนี้ ที่เราจะทบทวนพิจารณาดูโครงการเมกะโปรเจกต์ทั้งหลาย รวมถึงเรื่องโครงสายสื่อสารลงดิน ก็เป็นงานใหญ่อีกงานที่เริ่มต้นขึ้น แต่ถ้าจะต้องลุยต่อให้เป็นรูปร่าง แต่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านๆ ใช้เวลาเท่านั้นเท่านี้ เรามีทางเลือกทางอื่นไหม ...สิ่งเหล่านี้ ต้องพูดคุยกัน ผมคิดว่าเป็นจังหวะเวลาที่เราจะได้หยุดหายใจช่วงสั้นๆ แต่ไม่ใช่หยุดหายใจเพื่อจะตายนะ แต่หยุดพักการวิ่งไปข้างหน้า โดยไม่รู้ว่าจะวิ่งไปไหน ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่หยุดตั้งสติแล้วมาทบทวนกันว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่เรายังคิดไปไม่ถึง และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จะสามารถให้บริการพี่น้องประชาชนได้ หลายอย่างที่ทำอยู่ ไปร่วมมือกับคนอื่น แทนที่จะทำเองโดยลำพัง หลายอย่างหาคนอื่นมาทำ เขาอาจมีความรู้ ความสามารถ มีความพร้อมอยู่แล้ว แทนที่จะมาแบกความเป็นภาครัฐ หรือ กึ่งรัฐ กำๆ กวมๆ แบบกรุงเทพธนาคมทำอยู่นี่ ผมคิดว่า เราจะคิดเรื่องเหล่านี้ได้อย่างตกผลึกในไม่ช้า ธงทอง : เรื่องรถไฟฟ้าสีเขียว มันเป็นมหากาพย์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว แค่เอกสารที่เขาบอกจะส่งมาให้ ก็มาเป็นกล่องเลยนะ ผมก็จะตั้งท่ารับมือ กล่องที่จะมาในสัปดาห์หน้าครับ มันยากตรงต้องมาดูข้อกฎหมาย แล้วการทำงานของผมคือต้องดูกฎหมายใช่มั้ย คนที่สันทัดเรื่องการเงินการคลัง ตัวเลข เขาก็ต้องดูเรื่องนั้น ๆ ด้วย สารพัดอย่างต้องดูให้ครบถ้วน สำหรับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นวิสาหกิจ ของกรุงเทพมหานคร ถือหุ้นทั้งสิ้น 44,994 หุ้น คิดเป็น 99.98 % จากหุ้นทั้งหมด 50,000 หุ้น มีโครงการขนาดใหญ่ ในความรับผิดชอบหลายโครงการ เช่น 1.โรงงานกำจัดมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงานขนาด 800 ตันต่อวัน ภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช (สัญญา 20 ปี/เริ่มปี 2563)2.โครงการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษม (หมดสัญญา กับ กทม. เดือน ก.ย.2565)3.โครงการเก็บขนและกำจัดขยะติดเชื้อ (สัญญาหมด พ.ศ.2567)4.รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว5.โครงการสายสื่อสารลงดิน6.รถเมล์ BRT

ใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ 2567 กันแล้ว หลายคนกำลังมองหาของขวัญเพื่อมอบให้กับผู้ใหญ่ที่นับถือ คนในครอบครัว

วันนี้ (8 มิ.ย.2565) The New York Time รายงานว่า เกิดเหตุรถไฟโดยสารตกรางในภาคตะวันออกของอิหร่าน เมื่

ไทยพีบีเอส สัมภาษณ์พิเศษ ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ถึงเหตุผล ที่ตัดสินใจรับงานใหญ่ดูแล บริษัท กรุงเทพธ

ไทยพีบีเอส สัมภาษณ์พิเศษ ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ถึงเหตุผล ที่ตัดสินใจรับงานใหญ่ดูแล บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของ กรุงเทพมหานคร ยุคผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ธงทอง : ผมตัดสินใจร่วมทีมจาก 2 ปัจจัยใหญ่ ข้อแรกยอมรับตรง ๆ ว่า คนที่มาชวน น่าเลื่อมใส ก็คือ อ.ชัชชาติ ครับ เพราะผมในฐานะเป็นผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งคนหนึ่ง ได้เห็นวิธีการทำงานของ อ.ชัชชาติ ทั้งก่อนและหลังได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. รวมถึงข้อมูลเดิมที่พอจะรู้จัก อ.ชัชชาติอยู่แล้ว สมัยสอนหนังสือที่จุฬาฯ (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) มาด้วยกัน เห็นฝีมือเห็นประวัติเห็นวิธีทำงานมาช้านาน คนชวoน่าสนใจ และผมรู้สึกไม่มีนอกมีใน ไม่มีอะไรที่ผมจะลำบากใจ ข้อสอง ตัว บริษัท กรุงเทพธนาคม เอง ผมคิดว่าเป็นนิยายแห่งความคลุมเครือเรื่องหนึ่ง เพราะได้ยินมานานแล้ว แต่เราดูจากไกล ๆ มันไม่ได้ร้ายกาจ เหมือนที่เราดูจากภายนอกมา ถ้าเข้ามาดูในตำแหน่งซึ่งใกล้ชิด ผมมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ มาด้วยทีมที่จะร่วมกันทำงาน ผมเชื่อว่ากรุงเทพธนาคมมีดี มีทีมบุคลากร มีศักยภาพอีกหลายอย่างที่เราจะสามารถทำงานและพัฒนาเพื่อประโยชน์ร่วมกันของชาวกรุงเทพมหานครได้ครับ ธงทอง : (หัวเราะ) เรื่องนี้ อ.ชัชชาติ คุยกับผมมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (2564) ตอนนั้น ยังไม่ประกาศสนามแข่งเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ด้วยซ้ำ เพียงแต่ผมเป็นคนขยันเขียนเฟสบุ๊กเรื่องต่าง ๆ ผมมักจะพูดเรื่องอาหารการกิน วิถีชีวิต วัฒนธรรม ความคิดต่าง ๆ มุมหนึ่งที่ผมพูดไป คือ เรื่องทางเท้าในกรุงเทพฯ ชุมชนต่าง ๆ ในกรุงเทพ อ.ชัชชาติ ก็ติดต่อมาว่าอยากคุยกับผม ผมก็บอกว่ามาเลย เรื่องทางเท้านี่ของถนัดเลยล่ะ เรื่องลานคนเมือง ซึ่งตอนนั้น อ.ชัชชาติ ก็กรุณามาหาที่บ้าน ตอนนั้นผมบอกว่า ไว้อาจารย์เป็นผู้ว่าฯ ก่อน ค่อยมาพูดอีกทีก็แล้วกัน (หัวเราะ) เพราะมันห่างไกลผมมากเลย แต่เพื่อความไม่ประมาท ผมลงมือทำการบ้านตั้งแต่นั้น มีเวลาตั้งหลายเดือน เท่าที่ข้อมูลปรากฎต่อสาธารณะเกี่ยวกับ บริษัท กรุงเทพธนาคม ทำการบ้านในวงจำกัดของเรา แต่รายละเอียดต่าง ๆ ผมก็รู้จากสาธารณะเท่านั้น จึงขอข้อมูล ทาง อ.ชัชชาติ ก็ส่งข้อมูล ส่งผู้คนมาช่วยให้ผมได้ทำข้อมูลล่วงหน้า รวมถึงบุคคลที่จะมาร่วมเป็นกรรมการด้วย ก็ช่วยกันคิดช่วยกันหา เพราะการทำงานใน บริษัท กรุงเทพธนาคมแบบนี้ ต้องการบุคคลที่มีความถนัดความรู้หลากหลาย เช่น เราอาจต้องพูดเรื่องกฎหมายแน่นอน และผมคนเดียว ไม่สามารถรู้กฎหมายทุกเรื่องได้ เราอาจต้องการความรู้ด้านวิศวกรรม การเงิน การลงทุน ธุรกิจ สิ่งแวดล้อม ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ มันรวมอยู่ถึงการมาทำหน้าที่กรรมการบริษัท ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ อ.ชัชชาติ ต้องทราบแน่ ๆ เพราะ บริษัท กทม.ถือหุ้นใหญ่อยู่ 99.98 % ซึ่งกรรมการบางท่าน ผมยังไม่เคยรู้จัก แต่เมื่อรู้จักแล้วก็ไม่หนักใจอะไร ธงทอง : เรามีกรรมการที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม มีนักกฎหมายที่เป็นกำลังสำคัญ เป็นผู้เชี่ยวชาญกฎหมายมหาชน กฎหมายสัญญาระหว่างรัฐกับเอกชน เป็นเจ้าพ่อกฎหมายปกครอง มีสุภาพสตรี ที่เคยเป็น รองเลขาธิการ กลต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) เชี่ยวชาญด้านการเงิน การลงทุน สิ่งแวดล้อม ฯลฯ ธงทอง : กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่อนาคต เรามีโอกาสที่จะได้ทำงานให้กับเมืองที่เราอาศัยอยู่ ทำไมจะละเลยโอกาสเช่นว่านั้นเสียล่ะ จะทำได้มากน้อย ก็ทำเต็มกำลังของเรา ในช่วงเวลาที่เราได้รับมอบหมายภารกิจแบบนี้ เราก็ให้สัญญากับตัวเอง กับพวกเรากันเองว่า เราจะทำเต็มที่นะครับ และหวังว่าสิ่งที่เราทำไป จะเป็นประโยชน์ระยะยาว สำหรับบริษัทด้วย สำหรับกรุงเทพมหานคร และแม้สำหรับประเทศไทยของเราครับ ธงทอง : เราพูดถึงวางระบบการทำงานของ บริษัท กรุงเทพธนาคม ให้เป็นสิ่งที่อธิบายได้ เปิดเผยได้ เข้าใจได้ มีเหตุผล มีธรรมาภิบาล มีประโยชน์ ต้องทำให้งานของกรุงเทพธนาคม อยู่ในที่แจ้ง ไม่มีอะไรที่จะอธิบายไม่ได้ ธงทอง : เราก็สงสัย แต่เราอาจจะไม่ได้ไปถามเขาตรง ๆ เพราะถ้าไปถามตรง ๆ เขาอาจจะบอกก็ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าของเรื่องในอดีตด้วย จะบอกว่า เขาปิดมิดเม้มก็ไม่แน่ใจ เพียงแต่สำหรับเรา อาจไม่ต้องรอให้ใครมาถามมั้ง เราจะต้องทำให้ตัวเราขาวจั๊วะตั้งแต่ต้นเลยก็ได้ ธงทอง : เรานัดประชุมครั้งต่อไป วันที่ 30 มิ.ย.2565 เพื่อเน้นหารือถึงสาระ ที่ต้องโฟกัสให้มากขึ้น แต่ภายในเสาร์-อาทิตย์นี้ น้อง ๆ ที่กรุงเทพธนาคม จะเหนื่อยหน่อย เพราะต้องจัดทำเอกสารเตรียมไว้ให้กรรมการ โดยเฉพาะเรื่องสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่กรุงเทพธนาคมรับผิดชอบ ธงทอง : ผมสบายนะ อย่างน้อยผมเชื่อว่า ไม่ต้องพบความกดดันจาก กทม. ในความหมายที่ว่า เป็นการกดดันนอกรอบ แล้วพูดกันไม่ได้ในเวทีสาธารณะ ผมคิดว่าทุกอย่างต้องพูดกันได้บนที่แจ้ง “...แต่ถามว่ากดดันในมุมอื่นมีมั้ย ความกดดันจากสังคมอาจจะมี ความคาดหวัง อยากได้ 100 % อยากได้เร็ว แต่สิ่งเหล่านี้ ในฐานะนักกฎหมาย ก็ต้องตอบว่า ต้องทำใจเบื้องต้นไว้ก่อนว่า 100 % ไหม จะได้ทุกข้อ ทุกเม็ด ซึ่งในความผูกพันทางกฎหมายแต่เก่าก่อน ผมก็ยังมองไม่เห็นในรายละเอียดต่าง ๆ ความเร็ว ความช้า ก็ไม่มีใครอยากให้ช้า เพราะวาระ อ.ชัชชาติ 4 ปี บอร์ดกรุงเทพธนาคม ก็ 4 ปี เวลาผ่านไปแต่ละเดือน แต่ละปี ก็มีค่ามีความหมายทั้งนั้น เราก็ทำให้ดีที่สุดครับ...” ธงทอง : อันนี้ ผมไม่นับผมนะ ผมไม่สามารถไปบอกให้ อ.ชัชชาติ ไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ได้ แต่ผมก็ตระหนักดีถึงข้อกำหนดของ อ.ชัชชาติ ในส่วนนั้น เพราะฉะนั้นการนัดพูดคุยกันของคณะกรรมการกรุงเทพธนาคม วันที่ 30 มิ.ย.2565 อย่างน้อย ต้องมีพัฒนาการทางความคิด และมีกระบวนการทำงานที่จะนำไปแจ้งกับ อ.ชัชชาติ ได้ว่า แนวทางจะเป็นอย่างไร อาจไม่ใช่ส่วนที่จบจาก บริษัท กรุงเทพธนาคมเท่านั้น แต่บางส่วนเป็นที่ กทม.ต้องนำไปปฏิบัติ ดำเนินการบางส่วนทำร่วมกัน เราพยายามทำด้วยการนึกถึงกรอบช่วงเวลา 1 เดือน ของ อ.ชัชชาติ เก็บไว้ในใจเราอยู่เสมอครับ ธงทอง : รับทราบ และหวาดกลัวอยู่ (หัวเราะ) แต่ได้เรียน อ.วิศณุ (นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม.) ไปตอนที่เจอกัน (วันที่ 17 มิ.ย.2565) แล้วว่า เอกสารเป็นพันหน้า แล้วสัญญาเอกสารมีมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว ธงทอง : ความเก่าแก่ ซับซ้อนของเรื่องราวทั้งหลาย และความผันแปรของนโยบายที่เปลี่ยนไปหลายยุคหลายสมัย เพราะว่ามันเป็นตำนานและเป็นเท้าแสนปม จะไปโทษใคร หรือไปบอกว่า ใครผิดใครถูก ก็ไม่ใช่ธุระอะไรในเวลานี้ แต่อยากดูว่า กว่าจะมาถึงตรงนี้ ได้ มันผ่านอะไรมาบ้าง และทุกวันนีบอล สด เชียงราย้เราทำให้ดีกว่านี้ ได้ไหม มันมีปัญหาอะไรที่ต้องแก้เป็นเปราะที่หนึ่ง เปราะที่สอง ก็จะพยายามใส่ใจดูในส่วนนั้นครับ ธงทอง : เมื่อตอนผมเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ความขัดแย้งทางการเมืองสูง และเป็นข้อจำกัดในการทำงานอะไรๆ มาก ผมต้องวางบทบาทในฐานะเป็นข้าราชการประจำ ผมจะรักษาบทบาท ทำตามกฎหมาย ไม่ให้คำพูดของผม เป็นการเพิ่มความขัดแย้งทางการเมือง ทำหน้าที่ในบริบทของตัวเองไป แต่วันนี้ ผมสบายขึ้น ผมเกษียณมา 7 ปีแล้ว ผมเลือกงานได้ ตอนนั้นผมเลือกงานไม่ได้ ตอนนี้ งานนี้ ผมเลือกเอง ใช้คำว่ากึ่งอาสา มีคนมาชวน น่าสนใจ ผมคิดว่าเป็นความท้าทายหนึ่งในชีวิต และเดี๋ยวนี้รู้สึกว่า ตัวเองทนทานต่อความเปลี่ยนแปลง ทนทานต่อโลกธรรมทั้งหลาย ธงทอง : ต้องทบทวน เป็นโอกาสที่ต้องทบทวน เพราะแต่เดิมมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น มีที่มาที่ไป และที่หารือกับ นายวิศณุ รองผู้ว่าฯ กทม. คิดว่า เป็นโอกาสว่า เรื่องใดที่จะต้องเดินหน้าต่อ เรื่องที่ต้องบริหารจัดการ และเรื่องที่ต้องเปลี่ยนแปลง เช่น เส้นทางเดินเรือคลองภาษีเจริญ สมัยที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า เส้นทางเรือนี้ได้รับความสนใจ แต่เมื่อมีรถไฟฟ้า จำนวนผู้โดยสารลดลง จนกรุงเทพธนาคม หรือ กทม.ต้องรับภาระการขาดทุน ก็ต้องมาดูว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร จะมีตัวเลือกอะไรบ้าง คุยกันด้วยเหตุด้วยผล โอกาสแบบนี้ ที่เราจะทบทวนพิจารณาดูโครงการเมกะโปรเจกต์ทั้งหลาย รวมถึงเรื่องโครงสายสื่อสารลงดิน ก็เป็นงานใหญ่อีกงานที่เริ่มต้นขึ้น แต่ถ้าจะต้องลุยต่อให้เป็นรูปร่าง แต่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านๆ ใช้เวลาเท่านั้นเท่านี้ เรามีทางเลือกทางอื่นไหม ...สิ่งเหล่านี้ ต้องพูดคุยกัน ผมคิดว่าเป็นจังหวะเวลาที่เราจะได้หยุดหายใจช่วงสั้นๆ แต่ไม่ใช่หยุดหายใจเพื่อจะตายนะ แต่หยุดพักการวิ่งไปข้างหน้า โดยไม่รู้ว่าจะวิ่งไปไหน ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่หยุดตั้งสติแล้วมาทบทวนกันว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่เรายังคิดไปไม่ถึง และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จะสามารถให้บริการพี่น้องประชาชนได้ หลายอย่างที่ทำอยู่ ไปร่วมมือกับคนอื่น แทนที่จะทำเองโดยลำพัง หลายอย่างหาคนอื่นมาทำ เขาอาจมีความรู้ ความสามารถ มีความพร้อมอยู่แล้ว แทนที่จะมาแบกความเป็นภาครัฐ หรือ กึ่งรัฐ กำๆ กวมๆ แบบกรุงเทพธนาคมทำอยู่นี่ ผมคิดว่า เราจะคิดเรื่องเหล่านี้ได้อย่างตกผลึกในไม่ช้า ธงทอง : เรื่องรถไฟฟ้าสีเขียว มันเป็นมหากาพย์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว แค่เอกสารที่เขาบอกจะส่งมาให้ ก็มาเป็นกล่องเลยนะ ผมก็จะตั้งท่ารับมือ กล่องที่จะมาในสัปดาห์หน้าครับ มันยากตรงต้องมาดูข้อกฎหมาย แล้วการทำงานของผมคือต้องดูกฎหมายใช่มั้ย คนที่สันทัดเรื่องการเงินการคลัง ตัวเลข เขาก็ต้องดูเรื่องนั้น ๆ ด้วย สารพัดอย่างต้องดูให้ครบถ้วน สำหรับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นวิสาหกิจ ของกรุงเทพมหานคร ถือหุ้นทั้งสิ้น 44,994 หุ้น คิดเป็น 99.98 % จากหุ้นทั้งหมด 50,000 หุ้น มีโครงการขนาดใหญ่ ในความรับผิดชอบหลายโครงการ เช่น 1.โรงงานกำจัดมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงานขนาด 800 ตันต่อวัน ภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช (สัญญา 20 ปี/เริ่มปี 2563)2.โครงการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษม (หมดสัญญา กับ กทม. เดือน ก.ย.2565)3.โครงการเก็บขนและกำจัดขยะติดเชื้อ (สัญญาหมด พ.ศ.2567)4.รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว5.โครงการสายสื่อสารลงดิน6.รถเมล์ BRT

วันนี้ (1 เม.ย.2564) หญิง อายุ 18 ปี ผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดจากการโจมตี