ครม.เห็นชอบ "พ.ร.ก.ไซเบอร์" เพิ่มโทษแบงก์-ค่ายมือถือร่วมรับผิดชอบ

วันนี้ (9 มี.ค.2564) รายงานข่าวจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ระบุว่า วานนี้ (8 มี.ค.2564) นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร BTSC ได้ลงนามในหนังสือ และยื่

วันนี้ (2 ก.ค.2564) พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สั่งการให้สำนักงานสนับสนุน จัดก

วันนี้ (7 ต.ค.2566) พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ขอฝากขังครั้งแรก นายปิยะบุตร ผู้ต้องหา ตามคำร้องฝากขังหมายเลขดำ ฝ.622/2566 คดีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง

วันนี้ (9 มี.ค.2564) รายงานข่าวจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ระบุว่า วานนี้ (8 มี.ค.2564) นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร BTSC ได้ลงนามในหนังสือ และยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ตรวจสอบการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 1.28 แสนล้านบาท ใจความสำคัญของหนังสือระบุว่า ตามที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ได้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน โดยจะมีการพิจารณาประเมินข้อเสนอด้านเทคนิค 30 คะแนน และด้านการลงทุนและผลตอบแทน 70 คะแนน จนเป็นเหตุให้ BTSC ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองกลางก่อนหน้านี้นั้น เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2564 รฟม. ได้ประกาศในเว็บไซต์ www.mrta.co.th ยกเลิกประกาศเชิญชวนฯ และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตามประกาศเชิญชวน และเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2564 ศาลปกครองสูงสุดได้มีหมายแจ้งว่า รฟม. ได้ขอถอนอุทธรณ์คำสั่งทุเลาฯ และศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์ เท่ากับว่าคำสั่งทุเลาฯ ที่ศาลปกครองกลางวินิจฉัยไว้ รฟม. ไม่ขอโต้แย้ง อีกทั้งในขณะนี้คดีอยู่ระหว่างรอฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลปกครองกลาง ซึ่ง BTSC เห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวของ รฟม. ไม่ถูกต้องทั้งข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากประเด็นข้อคิดเห็นที่ แตกต่างกันระหว่าง รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 กับ BTSC ยังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองกลาง ซึ่งทุกฝ่ายที่เป็นคู่ความที่เกี่ยวข้องจะต้องรอคำวินิจฉัยของศาลปกครองที่เป็นที่สุดเสียก่อนเพื่อนำมาเป็นแนวทางปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไป จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 ก.พ.2564 นั้น BTSC ได้ยื่นฟ้องนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. และคณะกรรมกjoker09 slot joker09 slotารคัดเลือกมาตรา 36 เป็นคดีอาญา ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในฐานความผิดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 30/2564 ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงกลับปรากฏว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา ระหว่างรอฟังคำพิพากษาของศาลปกครองกลางและการดำเนินกระบวนการทางอาญาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ BTSC ฟ้อง รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 ว่าได้กระทำความผิด รฟม. โดยนายภคพงศ์ ผู้ว่าการ รฟม. ได้เริ่มกระบวนการคัดเลือกเอกชนด้วยการประกาศรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนใหม่ โดยให้กรอกความเห็นในเอกสารตามแบบสอบถามและจัดส่งให้ รฟม. ผ่านทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ของ รฟม. ตั้งแต่วันที่ 17-19 มี.ค.2564 ซึ่งปรากฏว่าข้อมูลสำหรับการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนฯ มีสาระสำคัญของวิธีการประเมินข้อเสนอ กล่าวคือ "การพิจารณาข้อเสนอซองที่ 2 และซองที่ 3 โดย รฟม.จะประเมินข้อเสนอซองที่ 2 และซองที่ 3 เป็นคะแนน โดยมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน แบ่งสัดส่วนเป็นคะแนนข้อเสนอซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิค 30 คะแนน และคะแนนข้อเสนอซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน 70 คะแนน และนำคะแนนซองที่ 2 และซองที่ 3 ของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายมารวมกัน และผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้คะแนนรวมสูงที่สุดจะเป็นผู้ผ่านการประเมินสูงสุด" โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอในข้างต้น เป็นหลักเกณฑ์เดียวกับหลักเกณฑ์ที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่ให้ รฟม.นำมาใช้บังคับในการคัดเลือกเอกชน รายงานข่าวจาก BTSC ระบุอีกว่า จากข้อเท็จจริงข้างต้น จะเห็นได้ว่า ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 นั้น การดำเนินการของ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 ที่ผ่านมา รวมถึงการเปิดให้รับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนเพื่อจัดทำร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนใหม่ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ มิอาจกระทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาของโครงการฯ และความล่าช้าที่เกิดขึ้น ล้วนเกิดจากการกระทำของ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 ที่ไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีมูลเหตุจูงใจที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชน ทั้งๆที่ กรรมการผู้แทนสำนักงบประมาณ ในคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 ที่ร่วมประชุมด้วยได้ทักท้วงแล้วว่า เป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญ ต้องเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน ทั้งนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า การกระทำที่ผิดกฎหมายต่างๆ ที่ผ่านมาของ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 มีจุดประสงค์เพียงเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชน ที่ผ่านความเห็นชอบมาโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ไปสู่หลักเกณฑ์ใหม่ที่ รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 ต้องการ โดยไม่คำนึงว่าหลักเกณฑ์เดิมเป็นสิ่งที่จัดทำขึ้นอย่างถูกต้องตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว เป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม ไม่เคารพต่อคำสั่งของศาลปกครองกลาง และไม่ใส่ใจต่อคำทักท้วงของสื่อมวลชนที่ติดตามโครงการฯ นี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ รฟม. ได้เริ่มกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากเอกชนเพื่อนำไปจัดทำร่างประกาศเชิญชวนฯ ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาร่วมลงทุน เพื่อส่งให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ ให้ความเห็นชอบตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 มาตรา 39 โดยไม่เสนอปัญหาที่เกิดขึ้นต่อคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน และ ครม.พิจารณาตามกฎหมายก่อนว่า กระทำได้หรือไม่ ถูกต้องตามกฎหมายที่กำหนดไว้หรือไม่ อย่างไร ขณะเดียวกัน เรื่องดังกล่าว มีขั้นตอนตามกฎหมาย และประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนกำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้ว BTSC ได้พยายามอย่างที่สุดตามกฎหมาย และประกาศที่บัญญัติไว้ เพื่อระงับยับยั้งการกระทำที่ไม่ชอบของกลุ่มบุคคลดังกล่าว จนนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพียงเพื่อต้องการให้การประมูลโครงการขนาดใหญ่ของรัฐเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายตามหลักนิติรัฐและนิติธรรม และเพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรมตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 ได้แก้ไขหลักเกณฑ์การประเมินหลังจากที่ออกหลักเกณฑ์ดังกล่าว ตลอดจนประกาศเชิญชวนฯ ให้มีการยื่นข้อเสนอโดยถูกต้องในทุกขั้นตอนแล้ว จึงมีการแก้ไขหลักเกณฑ์ที่เป็นสาระสำคัญโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งการที่ต่อมาได้ประกาศยกเลิกประกาศเชิญชวนฯ และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตามประกาศเชิญชวนดังกล่าว และเริ่มต้นกระบวนการคัดเลือกเอกชนใหม่โดยใช้หลักเกณฑ์การประเมินที่ยังมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมาย เป็นการทำลายกระบวนการประกวดราคาครั้งประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน รวมถึงโครงการนี้ถือเป็นโครงการร่วมลงทุนขนาดใหญ่ที่ใช้การประกวดราคาแบบ International Bidding อีกทั้งการที่ รฟม. ใช้หลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอตามที่ปรากฎในข้อมูลสำหรับการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนฯ มีการชี้นำในหัวข้อที่วิธีการประเมินข้อเสนอที่ระบุถึงการใช้คะแนนด้านเทคนิคที่สอดรับกับการแก้ไขหลักเกณฑ์ที่ศาลปกครองกลางวินิจฉัยเป็นเบื้องต้นว่าน่าจะเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากปล่อยให้หน่วยงานของรัฐมีการดำเนินการโดยไม่ถูกต้องในลักษณะที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชนผู้ลงทุนทั้งภายในประเทศและโดยเฉพาะผู้ลงทุนจากต่างประเทศ จนอาจทำให้ประเทศชาติได้รับความเสื่อมเสียและขาดความน่าเชื่อถือ “BTSC จึงขอกราบเรียนมายังท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบในการบริหารราชการแผ่นดินตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ได้โปรดตรวจสอบการกระทำของผู้ว่าการ รฟม. คณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 และผู้เกี่ยวข้องตามข้อเท็จจริงรายละเอียดที่นำเสนอข้างต้น และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากปรากฎผลทางการพิจารณาคดีว่า การกระทำที่ผ่านมาเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามฟ้อง จึงขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี ได้โปรดสั่งการไปยัง รฟม. ให้หยุดการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เป็นกรณีพิพาทนี้ จนกว่าศาลจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาต่อไป” รายงานข่าว ระบุไว้

วันนี้ (4 เม.ย.2564) ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ถนนราชดำเนิน มีประชาชนทยอยร่วมงาน "ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย" ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์